รักษาหลุมสิวด้วยเอเอชเอ (AHA) ดีไม่ดียังไง?


หลุมสิว

"AHA" ย่อมาจาก alpha hydroxy acid ซึ่งเห็นคำว่า acid ก็น่าจะพอเดากันได้ว่ามันก็คือ "กรด" ชนิดหนึ่งนั่นเอง แต่ไม่ต้องกลัวว่าเอามาทาหน้ารักษาหลุมสิวจะไม่แย่ไปกว่าเดิมหรอเนี่ย!!! ไม่หรอกครับ เพราะ AHA คือกรดที่ได้จากผลไม้ หรือที่ได้ยินอย่างคุ้นหูว่ากรดผลไม้นั่นเอง ซึ่งหลัการทำงานของมันก็คือใช้ในการผลัดเซลผิวชั้นนอกสุดของเราที่ตายแล้ว พูดง่ายๆคือลอกผิวชั้นขี้ไคลของเราให้ออกไปนั่งเอง



      ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผิวหน้าของเราจะมีกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ว่าใช้เวลาในการผลัดเซลล์ผิวนาน ไม่ทันใจมนุษย์เราก็เลยสกัด AHA ออกมาใช้เพื่อเร่งให้ผิวหน้าเรามีการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้นกว่าเดิม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการรักษาหลุมสิวบนใบหน้าล่ะ เกี่ยวแน่นอนครับเพราะการที่หน้าของเราเป็นหลุมสิวก็เกิดจากการที่องค์ประกอบในเซลล์ผิวของเรา เช่น คอลลาเจน อิลาสติน ถูกทำลาย จาการที่เป็นสิวและมีการแคะ แกะ เกา เค้น บีบ อย่างไม่ถูกวิธีทำให้ส่วนใหญ่หลุมสิวมักจะเกิดจากการเป็นสิวอักเสบและไม่ยอมทำให้สิวอักเสบนี้หายไปอย่างถูกต้อง และรวดเร็ว จึงส่งผลทำให้เกิดเป็นหลุมเป็นบ่อที่ใบหน้าของเรานั่นเอง และเจ้า AHA นี้ก็จะเร่งการผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่ถูกทำลายที่เป็นหลุมสิวให้เร็วขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ผิวเร่งสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อบริเวณหลุมสิวให้กลับมาเต็มเหมือนเดิม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการรักษาหลุมสิวด้วย AHA นั้นอาจจะช่วยได้ในกรณีที่หลุมสิวนั้นเป็นหลุมตื้นๆเท่านั้น เพราะมันแค่ทำงานกับผิวชั้นนอกของเราเท่านั้น คงไม่สามารรักษาหลุมสิวที่เป็นหลุมลึกๆได้ เนื่องจากหลุมสิวที่ลึกมักจะเป็นหลุุมสิวที่เกิดจากเซลล์ผิวหน้าที่ลึกลงไปกว่าชั้นนอกถูกทำลาย ซึ่ง AHA ไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้

รักษาหลุมสิว


       อย่างไรก็ตามหากต้องการใช้ AHA ในการรักษาหลุมสิวเราควรพิจารณาเรื่องต่อไปนี้ก่อนการรักษา

  1. วิเคราะห์หลุมสิวบนใบหน้าของเราก่อน  เราควรวิเคราะห์ได้ว่าหน้าของเราเป็นหลุมสิวแบบไหน เป็นเยอะหรือไม่ เพื่อจะได้ใช้วิธีรักษาได้ถูกต้อง ไม่ต้องเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่างที่ได้บอกไว้ หากเป็นหลุมสิวที่ตื้นๆและไม่มากก็สามารถใช้ AHA ช่วยได้บ้าง แต่ถ้าหากเป็นหลุมที่ลึกและเป็นเยอะก็แนะนำให้ใช้วิธีอื่นที่มีประสิทธิภาพ และให้ผลดีมากกว่าการใช้ AHA

  2. วิเคราะห์ความหนาของหน้าเรา ที่บอกอย่างนี้ไม่ได้ต้องการกวน...แต่อย่างใด เพียงแต่อยากบอกว่าหากเราเป็นคนหน้าบาง แพ้ง่าย ก็อาจจะไม่สามารถใช้ AHA ในการช่วยรักษาหลุมสิวได้ เพราะ AHA มีสภาพเป็นกรดซึ่งก็จะทำให้หน้าเราบางลงเมื่อใช้ และจะทำให้หน้าเราแพ้ได้ง่ายขึ้น

  3. ความเข้มข้นของ AHA เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะสภาพผิวหน้าของคนเราจะมีความคงทนต่อปริมาณการใช้งาน AHA ที่ไม่เท่ากัน แต่ปริมาณ AHA ที่เหมาะกับการใช้รักษาหลุมสิวควรมีความเข้มข้นตั้งแต่ 8-10% ขึ้นไป เพราะถ้าน้อยกว่านี้จะไม่สามารถช่วยในการรักษาหลุมสิวได้ เพราะฉะนั้นก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA ควรดูข้อมูลตรงนี้ด้วย เพื่อจะได้ผลที่น่าพอใจและไม่สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ

  4. ใช้ AHA ร่วมกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นด้วย ตัวที่แนะนำให้ใช้ร่วมกันก็คือครีมกันแดด ก็เลือกเอาว่าจะใช้ SPF ที่เท่าไร UVA, UVB หรือ PA ที่เท่าไรเลือกได้ตามความเหมาะสม แต่ควรใช้ร่วมกันเพราะการรักษาหลุมสิวด้วย AHA จะทำให้หน้าเราบางลง มีผลทำให้การต้านทางแสงแดดลดน้อยลงตามไปด้วย เพราะฉะนั้นหากต้องออกจากบ้านไปเจอแสงแดดแผดเผาอย่าลืมทาครีมกันแดดทุครั้งนะครับ

การรักษาหลุมสิวด้วย AHA เป็นอีกวิธีการรักษาหลุมสิวอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเป็นการรักษาหลุมสิวที่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อย และสามารถทำได้ง่ายเนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ที่มี AHA วางขายตามท้องตลาดให้เราเลือกสรรมากมาย แต่การใช้ AHA รักษาหลุมสิวนั้นต้องใช้เวลาและความอดทนสักหน่อย อย่าใจร้อนค่อยๆทำไป และที่สำคัญควรเลือกผลิตภัณฑ์ AHA รักษาหลุมสิวที่ได้มาตรฐานและมีการรับรองจาก อย.ด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยในความงามบนใบหน้าของเรา สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีผิวหน้าที่ใส ขาวเนียน ปราศจากริ้วรอยกันทุกคนเลยครับ ^^

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น