รักษาหลุมสิวด้วยเข็มทะลวงหน้า (Dermaroller) จากประสบการณ์จริง 100%


รักษาหลุมสิว

การรักษาหลุมสิวด้วยเข็มทะลวงหน้า (Dermaroller) จริงๆแล้ววิธีนี้มันชื่อว่า Dermaroller เฉยๆครับ ส่วนเข็มทะลวงหน้านี่ผมตั้งเองครับ อยากให้ผู้อ่านได้เห็นภาพครับว่าเวลาทำมันเป็นยังไง ขอออกตัวก่อนเลยครับว่าเรื่องการรักษาหลุมสิวด้วยวิธี Dermaroller ที่จะได้อ่านต่อไปนี้มาจากความคิดเห็นส่วนตัวของผมจากประสบการณ์ที่ได้ทำจริงๆจากคลินิคเสริมความงามแห่งหนึ่ง และผมก็ได้หาความรู้เพิ่มเติมมาเติมลงไปด้วยเพื่อจะได้เป็นความรู้สำหรับเพื่อนๆที่คิดจะลองรักษาหลุมสิวด้วยวิธีการนี้ เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจอีกทางหนึ่งครับ



ประวัติคร่าวๆ

     มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับขอเริ่มจาก การแนะนำตัวเองก่อนครับตอนนี้ผมอายุ 28 ปีครับ ซึ่งตอนที่ผมได้รักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller นั้นก็เมื่อ 2 ปีก่อน คือผมเป็นคนที่มีหลุมสิวที่หน้าเยอะครับ แล้วก็เป็นหลุมหลายๆแบบผสมกันด้วยคือทั้งลึก ทั้งกว้าง หลุมเล็กใหญ่เป็นหมดล่ะครับ แต่ว่าผมจะเป็นที่แก้มทั้งสองข้างนะครับ ที่หน้าผากกับจมูกไม่เป็น(ยังดีนะ) สาเหตุที่หน้าเป็นหลุมแบบนี้ก็เกิดจากการที่เมื่อตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ผมมีสิวขึ้นมาเยอะมากครับ โดยเฉพาะสิวอักเสบ ด้วยความที่เป็นเด็กยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเห็นสิวขึ้นเยอะแล้วรู้สึกว่ามันน่าเกลียด ไม่เท่ห์ต้องรีบกำจัดทิ้งไปโดยด่วนที่สุด ก็เลยจัดการด้วยการบีบครับ สิวแบบไหนขึ้นมาบีบมันหมด ไอ้ที่ออกยากๆนี่เค้นกันจนหน้าเขียวเลยก็มี และแล้วกรรมที่ผมเคยทำไว้ในอดีตก็ได้ตามสนองผมด้วยการมอบใบหน้าอันเละเทะมาให้กับผม หน้าผมประกอบไปด้วยหลุมสิวจำนวนมาก แล้วแต่ละหลุมนี่ไม่อยากจะพูดถึง บางหลุมออกม่วงๆคล้ำๆน่าเกลียดน่ากลัวมาก คือตอนนั้นผมเครียดมากเลยครับ ผมคิดว่าชิวิตวัยรุ่นที่แสนหวานตอนนั้นได้พังทลายลงไปแล้ว จะไปจีบหญิงแล้วผู้หญิงที่ไหนจะมาชอบชายผู้มีใบหน้าเป็นหลุมเป็นบ่อแบบนี้ ช่วงนั้นเศร้าจริงๆครับ แต่ผมก็มีชิวิตที่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดไว้หรอกครับ ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเหมือนปมด้อยในชีวิตครับ เวลาที่เจอเพื่อนใหม่ๆบางคนก็จะชอบถามว่าหน้าทำไมเป็นแบบนี้ คือจริงๆเค้าคงอยากถามว่าทำไมหน้าเราเป็นหลุมเป็นบ่อขนาดนี้(นี้เค้าเกรงใจแล้วนะนี่) คือมันเป็นคำถามที่ผมไม่อยากจะตอบเลยครับ มันอาย มันเจ็บจี๊ดตรงหัวใจขึ้นมาทันที แต่กลัวเสียมารยาทก็ตอบไปแบบอายๆนั่นแหละครับ ตอบเสร็จก็บ่ายเบี่ยงไปคุยเรื่องอื่นซะ

รู้จัก Dermaroller ได้ยังไง?

     นั่นก็เป็นที่มาของหลุมสิวที่อยู่บนใบหน้าของผมซึ่งเป็นมายาวนานกว่า 10 ปีก่อนที่ผมจะได้มารักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller ที่นานก็เพราะตอนนั้นผมไม่คิดว่าจะมีวิธีไหนมารักษาหน้าของผมได้ เพราะตอนเด็กๆเคยหาหมอรักษาสิว เค้าเคยบอกว่าไม่มียาตัวไหนรักษาได้ ผมก็เลยฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆว่ามันรักษาไม่ได้ จนวันหนึ่งผมไปเดินที่โลตัส(ขอไม่เอ่ยสาขาก็แล้วกัน) ก็ได้โบร์ชัวของคลินิคเสริมความงามแห่งหนึ่งมา ผมก็มานั่งดูว่ามีอะไรบ้าง จนไปสะดุดกับวิธีรักษาแผลเป็นจากสิวตัวหนึ่งเข้า แต่ไม่ใช่ Dermaroller หรอกครับ วิธีรักษาหลุมสิวที่ผมสนใจก่อนคือ การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี Crystal Peel ซึ่งผมได้เขียนบทความนี้ไว้แล้วจะไม่อธิบายเพิ่มเติม สามารถตามไปดูตามลิงค์ที่ให้ไว้ครับ ผมก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันทีครับ ก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Internet ว่ามันคืออะไร แล้วมันจะช่วยหน้าเราได้จริงหรือเปล่า พอผมศึกษาได้วันเดียว วันต่อมาผมก็ไปที่คลินิคแห่งนี้เพื่อขอทำเจ้า Crystal Peel ทันที่ พนักงานก็คงงงว่ามาจากไหน? อะไรยังไง? เพราะปกติคนส่วนใหญ่ก่อนทำอะไรสักอย่างจะต้องปรึกษาหมอก่อนว่าควรใช้วิธีไหนในการรักษา แต่ผมมั่นใจเต็มที่แบบว่าศึกษามาแล้วจัดเลยทันที ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดจะคอร์สละ 9,000 บาท ทำ 9 ครั้ง ผมก็ไปทำจนครบ 9 ครั้งซึ่งในความรู้สึกหน้าผมมันก็ยังดูเหมือนเดิมไม่ค่อยต่าง แล้วครั้งสุดท้ายที่ทำนี่แหละหมอที่ทำหน้าให้ผมก็แนะนำผมว่าถ้าอยากรักษาหลุมสิวที่หน้าจริงๆ ใช้วิธี Crystal Peel จะไม่ค่อยได้ผลคือในความรู้สึกผมคือแกจะบอกว่ามันไม่ได้ผลนั่นแหละ หมอบอกว่าถ้าวิธีที่จะช่วยรักษาหลุมสิวที่ได้ผลจริงๆก็คือการทำ Dermaroller เอาล่ะสิครับศัพท์ใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน หมอบอกว่ามันจะทำให้หน้าเราสร้างเนื้อขึ้นมาตรงที่เป็นหลุม "ให้หลุมเราตื้นขึ้น"  คำนี้มาเท่านั้นล่ะครับ ความหวังผมกลับมาอีกครั้ง หมอแกก็อธิบายคร่าวๆว่ามันคืออะไร มันทำยังไง แล้วมันรักษาหลุมสิวได้ยังไงบ้าง พอผมฟังเสร็จผมตัดสินใจทำเลยครับ เพราะเค้าเอาโปรโมชั่นมาล่อใจผม ถ้าจำไม่ผิดจะลด 50% เพราะผมทำกับเค้าไปคอร์สนึงแล้ว ตอนนั้นราคาเต็มน่าจะประมาณ 15,000 บาท ทำ 4 ครั้ง ก็เหลืออยู่ 7,500 บาท แถมแบ่งจ่ายเป็น 2 งวดได้อีก ผมก็จัดไปเลย 1 คอร์ส


รักษาหลุมสิว2


เริ่มรักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller 

      แนะนำอุปกรณ์ที่เราจะมาใช้รักษาหลุมสิวกันก่อนเลยครับ พระเอกของเราก็คงหนีไม่พ้นตัว "ลูกกลิ้งมหาประลัย" ลูกกลิ้งนี้ทรงมันจะคล้ายกับลูกกลิ้งทาสีแต่จะเล็กกว่ามาก แต่ลูกกลิ้งทาสีแบบปกติส่วนหัวของมันจะเป็นเหมือนขนผ้านุ่มๆสำหรับใช้ดูดซับสีเพื่อจะใช้ทา แต่ตัวลูกกลิ้งกำจัดหลุมสิวของเรานี้ส่วนหัวของมันจะเป็นเข็มครับ เข็มเป็นร้อยๆเล่มเลยครับ เริ่มทำเค้าก็จะให้เราไปล้างหน้าให้สะอาดก่อน จากนั้นหมอก็จะทายาชาให้เราแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ระหว่างนี้หลับรอไปก่อน 15 นาทีผ่านไปหมอก็จะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับอาวุธคู่มือ(ลูกกลิ้งเข็มทะลวงหน้า) ก่อนจะลงมือหมอก็จะบอกเราว่าเจ็บหน่อยนะครับ ถ้าทนไม่ไหวบอกหมอได้ครับ ผมก็ตอบกลับไปว่า OK ครับไม่มีปัญหา(ในใจก็คิดว่ามันจะสักเท่าไร) จากนั้นหมอก็เริ่มกลิ้งลูกกลิ้งไปที่หน้าหลุมสิวของเรา โดยเริ่มอย่างช้าๆจากแก้มของเราก่อน ช้าๆช้าๆ ยังไม่เจ็บเท่าไรครับ แต่หมอเริ่มเพิ่มความเร็ว และความแรงขึ้นไปอีกเท่าตัว โอ้โหคุณเอ๊ย เจ็บโคตรๆ น้ำตาผมนี่เล็ดออกมาเลย กลิ้งไปกลิ้งมา แก้มซ้ายบ้าง ขวาบ้าง แล้วก็มาตรงคาง แต่ที่เจ็บสุดคือตรงหน้าผากเจ็บจนเกินคำบรรยายอ่ะ อาจเป็นเพราะส่วนหน้าผากเรามีไขมันน้อย มันเลยไปโดนเส้นประสาทโดยตรงหรือเปล่า หมอกลิ้งอยู่บนหลุมที่หน้าเราประมาณสักเกือบ 10 นาทีได้ ระหว่างที่กลิ้งอยู่ก็จะมีผู้ช่วยคอยซับเลือดของเรา ผมมองไม่เห็นหรอกเพราะหมอปิดตาผมไว้ อาจจะกลัวว่าถ้าผมเห็นอาจจะมีการถอนตัวกลางคันได้

    เมื่อหมอกลิ้งหน้าของเราเสร็จแล้ว ผู้ช่วยก็จะทาครีมวิตามินอะไรสักอย่างนึงเข้าไป หมอบอกว่าเป็นการผลักตัวยาบำรุงผิวเข้าไปเพื่อช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น มันก็จะรู้สึกเย็นๆหน่อย แต่ว่าหน้าผมนี่ร้อนเลยนะ รู้สึกเหมือนหัวใจกับชีพจรของผมมันย้ายมาอยู่ที่หน้าหมด ตึบตับ ตึบตับ พอมาส่องกระจกดูหน้านี่แดงฉานเป็นรูๆ คือมันจะเหมือนรอยมอเตอร์ไซค์มาวิ่งบนหน้าของเรา แดงบวมเป็นปื้นเลย ก่อนกลับหมอก็ให้ครีมบำรุงมาทารู้สึกจะเป็นคอลลาเจน กับครีมบำรุงอีกตัวหนึ่งจำไม่ได้ว่าช่วยอะไร ให้ใช้ทาหลังจากล้างหน้า แล้วก็ต้องทาครีมกันแดดด้วยอันนี้สำคัญมาก เพราะหลังจากที่เราทำคอร์สรักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller แล้วหน้าเราจะบางลงเพราะเราโดนทำร้ายอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นจะถูกแดดเผาหน้าได้ง่ายขึ้นระวังด้วยครับ แต่วันแรกที่ทำห้ามล้างหน้าให้ผ่านไป 24 ชั่วโมงก่อนถึงจะล้างได้ ซึ่งหลังจากนั้นผมก็มาทำอีก 3 ครั้งที่เหลือ โดยเว้นระยะห่างเป็น 2 สัปดาห์/ครั้ง


สรุปผลการรักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller 


  • หลังจากการทำ Dermaroller ในแต่ละครั้งหน้าของเราก็จะบวมๆแดงๆ ทำให้หน้าเราดูเต็มและอิ่มขึ้น เหมือนหลุมสิวมันจะหายไปเลยพอสัก 3-4 วันหน้าก็จะหายแดงแล้วก็จะกลับมาเห็นหลุมสิวชัดเหมือนเดิม
  • หลังจากทำ Dermaroller ครั้งสุดท้ายเสร็จ ก็รู้สึกว่าหน้าเราดูดีขึ้นนิดหน่อยไม่มากเท่าไร จบคอร์สก็ยังคิดว่าตกลงหลุมสิวที่หน้าเรามันดีขึ้นจริงหรือเปล่า (กลัวหลอกตัวเอง) 
  • หลังจากทำผ่าคอร์สรักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller มาประมาณ 5 เดือน ก็กลับมาสังเกตหน้าตัวเองดูก็รู้สึกว่าดีขึ้นกว่าตอนที่ทำเสร็จใหม่ๆมาก แม่เห็นยังทักว่าหน้าดูดีขึ้น แล้วก็บอกว่าไม่ต้องไปทำเพิ่มแล้วแค่นี้ก็พอแล้ว(แม่กลัวเปลืองตังค์) รู้สึกว่าหลุุมที่หน้าดูตื้นขึนกว่าเดิมมาก แล้วก็หลุมสิวที่เคยดูช้ำๆก็ไม่มีแล้ว แล้วหน้าก็ขาวขึ้นมากๆด้วย

รักษาหลุมสิวดีมากๆ


สรุปความพึงพอใจในการทำ Dermaroller  รักษาหลุมสิว


     สรุปแล้วรู้สึกพอใจมากๆ ไม่เคยคิดเลยว่าหน้าของผมจะดีขึ้นได้ขนาดนี้ แต่ไม่ใช่ว่าหลุมสิวจะหายไปนะครับ มันยังคงมีอยู่แต่ว่ามันตื้นกว่าเดิมมาก หากทาครีมดีดีแล้วก็ทาแป้งก็แทบจะไม่เห็นร่องรอยหลุมสิวเลยครับ แถมหน้ายังขาวขึ้นอีกด้วย แต่อย่างที่บอกครับการรักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller ต้องใช้เวลานานสักหน่อยถึงจะเห็นผล เพราะเป็นการกระตุ้นให้ผิวของเรารักษาตัวเองตามธรรมชาติ ไม่ได้ใช้สารอื่นๆเข้าไปช่วยเร่ง จึงไม่ต้องกลัวผลข้างเคียงที่ตามมา แต่จะให้ดีเราก็ควรทาครีมที่ช่วยเสริมสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว พวกมอยเจอไรเซอร์ก็จะดีมาก เพราะหลังจากทำ Dermaroller หน้าเราก็จะบางลงผิวก็จะขาดความชุ่มชื้นด้วย ฉะนั้นทาไว้ไม่เสียหายอะไร อีกตัวก็ครีมกันแดดอย่าลืม เหตุผลก็อย่างที่บอกไว้ข้างบนครับ เขียนมาก็ยาวแล้วครับคงจบแค่นี้ หวังว่าประสบการณ์การรักษาหลุมสิวของผมจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆบ้างนะครับ ผมอยากให้คนที่เป็นหลุมสิวอย่าเพิ่งท้อใจครับ ถึงมันจะไม่หายเราก็ยังต้องใช้ชีวิตไปข้างหน้าอยู่ดีครับ อยู่กับมันให้ได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก "รูปร่างหน้าตาอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญเสมอไป แต่ความดีที่มาจากข้างในสำคัญที่สุดเสมอครับ" เป็นกำลังใจให้ครับ สู้!สู้!

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

17 ความคิดเห็น :

  1. คุณสุดยอดมากเลยค่ะ ;)

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ ผมว่าที่สุดยอดคือ "เจ็บสุดยอด" นี่แหละครับ ^^

    ตอบลบ
  3. คลินิคแถวปิ่นเกล้ารีป่าวคะ

    ตอบลบ
  4. รบกวน จขกท. ตอบหน่อยนะคะ พอดีรักษาอยู่เหมือนกันค่ะ

    ตอบลบ
  5. ไม่ใช่ครับ ของผมอยู่แถววังหินครับ

    ตอบลบ
  6. แถวไหนคะบอกได้ไหนอะ อยากไปทำบ้างคะ
    แล้วทำทั้งหมดกี่คอร์ตถึงดีขึ้นคะ

    ตอบลบ
  7. ของผมทำที่โลตัสวังหินครับ น่าจะมีอยู่ร้านเดียวนะครับแถวนั้น ส่วนทำกี่คอร์สกว่าจะดีขึ้นนั้นแล้วแต่คนครับ ว่าเป็นหลุมสิวมากน้อยแค่ไหน การฟื้นตัวของผิวดีหรือเปล่า ส่วนผมทำแค่คอร์สเดียวก็ดีขึ้นแล้วครับ ถึงจะไม่หายหมดแต่ก็พอใจแล้ว ก็เลยทำแค่คอร์เดียวครับ ที่เหลือก็ทาครีมบำรุงเอาแล้วปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าอยากลองทำดูจริงก็ต้องทนเจ็บหน่อยนะครับ ยิ่งถ้าไม่ได้ฉีดยาชาด้วยแล้ว เจ็บสุดๆครับ

    ตอบลบ
  8. เนื้อหาดีมากเลยค่ะ ... !!

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณครับที่รีวิวให้ชม ^^

    ตอบลบ
  10. เคยทำลูกกลิ้งเข็มนี่เหมือนกัน โดยส่วนตัวเคยทำพวกเลเซอร์ตอนนั้นมันโปร42000จัดเลยเค้าบอกดีที่สุดแล้ว. เจ็บแต่พ่อออกให้. แต่ทีนี้มาทำอันนี้ทีหลังรู้สึกสะบายกระเป๋าครั้งละ2500เอง หมอบอกเว้นสองเดือนละค่อยไปทำใหม่ รู้สึกพึงพอใจกะลูกกลิ้งที่เหมาะกะราคานะ คนมีสิวอยู่เว้นไปก่อนนะเดะสิวอักเสบ รักษาสิวก่อน. โดยส่วนตัวดีนะแต่งหน้าแล้วรู้สึกดีขึ้นมากๆๆ. ตอนเป็นสิวรีบรักษาดีกว่าเป็นแผลละครอยมารักษา หน้าปลวกเป็นปีแถมเสียเงินเยอะกว่าเดิมอีกค่ารักษาหลุมแพงกว่าสิวเยอะจ้าาา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. โทดทีคับร้านอยู่แถวไหนคับ
      และราคาเท่าไรคับ

      ลบ
  11. พึ่งไปทำมา ก็เหมือน ย้ำก็เหมือนนะ ว่ารูขุมขนตื้นขึ้น ทั้งบริเวณแก้ม และจมูก หน้าแดงเป็นปื้นๆเลย เจ็บได้ใจเลย แต่ทนเพราะอยากให้รอยหลุมสิว หาย หวังว่าจะดีขึ้น เพราะเท่าที่ฟังผมเป็นไม่มากเหมือน จขกร ครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คอร์สนึงประมาณกี่บาทคะ??

      ลบ
    2. รบกวนบอกหน่อยคับว่าที่ไหนและ
      ราคาเท่าไร ผมหาอยู่นานมากแล้ว

      ลบ
  12. ทำที่โลตัสวังหิน ชื่อคลีนิค อะไรหรอครับ รบกวนตอบด้วยน๊ะครับขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  13. พึ่งทำเหมือนกันคะ ยอมถอนตัวกลางคัน แต่พี่ที่ทำบอกว่าอดทนเพื่อความสวย แต่ส่วนตัวไม่มีสิวคะ เป็นคนรูขุมขนกว้างเฉยๆ ฝากทุกคนที่จะทำนะคะ เจ็บมาก เลือดเราเต็มหน้าเลยคะ

    ตอบลบ