ทำเมโสหน้าขาวใส ช่วยรักษาริ้วรอย จุดด่างดำ หลุมสิวแบบไม่เจ็บตัวมาก



มาถึงเรื่องการทำ "เมโสหน้าใส" กันบ้างครับ เป็นการทำ treatment ที่คนนิยมทำกันมากอีกวิธีหนึ่ง โดยส่วนใหญ่ต้องการให้ใบหน้าขาวใสขึ้น ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากสิว ช่วยทำให้หน้าเรียบเนียนสม่ำเสอ ทีนี้จะมาพูดถึงว่าการทำเมโสจะช่วยในเรื่องของริ้วรอยจากสิว หรือหลุมสิวได้ยังไงกันบ้าง ผมคนหนึ่งแหละที่หน้าเป็นหลุมสิวเยอะมากๆ ก็สนใจการทำเมโสอยู่ไม่น้อย ก็เลยพยายามหาข้อมูลการทำเมโสหน้าใสเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจว่าจะทำดีหรือไม่ทำดีทั้ง ข้อดี ข้อเสีย วิธีการทำ และราคา เมื่อลองดูข้อมูลที่ได้มาก็คิดว่าลองทำดูสักครั้ง เพราะดูๆไปแล้วมันก็ไม่ได้อันตรายอะไร ผมว่าทำ dermaroller น่าจะน่ากลัวกว่า(เลือดสาดกระจาย) ก่อนอื่นขออธิบายคร่าวๆว่า การทำเมโสหรือ Meso Therapy เนี่ยมันคืออะไร



Meso Therapy คือ

วิธีการฉีดสารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวของเรา เช่น วิตามินซี กรดวิตามินเอ หรือสารแอนติออกซิเดนท์ เข้าไปที่ผิวชั้นในของเราที่เรียกว่า "ผิวชั้นเมโส" โดยหลักการทำงานของมันก็คือการให้สารที่ฉีดเข้าไปช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูผิวของเราในชั้นเมโสให้ดีขึ้นเต่งตึงขึ้น ทำให้ผิวของเราเนียนเรียบ ลดริ้วรอยจุดด่างดำ ร่องรอยสิวได้ (ฟังดูไม่อันตรายเนอะ)


ขั้นตอนการทำเมโสหน้าใส


  • ทำการล้างหน้าทำความสะอาดผิวหน้า จากนั้นหมอจะให้ผู้ช่วยทายาที่หน้าและแรบหน้าด้วยพลาสติกทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม.

  • เมื่อหน้าของเราชาได้ที่ผู้ช่วยก็จะเช็ดยาชาออก ตอนนี้รู้สึกว่าหน้าใหญ่ๆ บวมๆ แล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องขึ้นเตียงกันแล้ว 

  • หมอก็จะให้เรานอนนิ่งๆที่เตียง จากนั้นหมอก็จะหยิบปืนยิงขึ้นมา หน้าตาจะคล้ายๆปืนยิงกาวแท่งแต่ที่หัวเปลี่ยนเป็นเข็มแทน พร้อมยิง

  • หมอจะจิ้มปืนเข็มไปที่หน้าของเราลึกประมาณ 0.5 มิลลิเมตร กระหน่ำยิงไปทั่วหน้าของเรา น่าจะประมาณ 30-40 เข็มได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

  • เมื่อยิงหน้าเราสาแก่ใจแล้ว ก็จะทำการประคบเย็น และทายาป้องกันการติดเชื้อเคลือบหน้าไว้ก็เป็นอันเสร็จพิธี

  • ก่อนกลับบ้านได้ยาทาแก้คัน กับยาลดอาการบวมแดงมาทาอย่างละตลับ

ข้อดีของการทำเมโสหน้าใส


  • ไม่เจ็บมากนัก เนื่องจากเป็นการใช้เข็มฉีดเข้าไปที่หน้า เพื่อส่งวิตามินเข้าไปบำรุงผิวเท่านั้น ไม่ได้กระตุ้นหน้าเหมือนการทำ dermaroller

  • ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากทำเสร็จใหม่หน้าจะแดง ช้ำนิดหน่อย อีก 2 วันก็จหายแดงกลับมาเป็นปกติ

  • ผลข้างเคียงน้อย ไม่ต้องกลัวหน้าไหม้เหมือนทำเลเซอร์ นอกจากบางคนจะแพ้สารที่ฉีดเข้าไป ซึ่งมีโอกาสน้อยมาก

  • ราคาสบายๆกระเป๋า ครั้งละประมาณ 3,000 - 5,000 ความถี่ในการฉีดก็ตามความพอใจ

ข้อควรพิจารณาก่อนทำเมโสหน้าใส


  • ถามตัวเองก่อนว่าจะทำเพื่ออะไร หากทำเพื่อให้ผิวดูขาว กระจ่างขึ้น ลดริ้วรอยสิวบางๆก็น่าทำ แต่ถ้าต้องการให้หลุมสิวหายผมว่าอย่าทำเลยครับ ไม่ค่อยได้ผล อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

  • อาจเป็นวิธีที่ช่วยให้หน้าขาวใสชั่วคราว พอหมดตัวยาก็อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิม

     สรุปแล้วการทำเมโสหน้าใสจากประสบการณ์ตรงของผม ถ้าพูดถึงในเรื่องหลุมสิวแล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลย หลุมสิวไม่ได้ตื้นขึ้นเลย แต่อาจจะช่วยในเรื่องรอยดำจางๆได้บ้าง และอาจจะทำให้หน้าดูขาวแบบสว่างๆมากขึ้น พอนานๆไปก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมเลยคิดว่าการทำเมโสหน้าใสน่าจะได้ผลดีกับคนที่ผิวหน้าดีเป็นปกติอยู่แล้ว แต่อยากจะทำให้หน้าดูสว่างกระจ่างมากขึ้น ส่วนคนที่หน้าเกินเยียวยาอย่างผมคงจะไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไร ก็ถือว่าเสียเงินเป็นค่าวิชาก็แล้วกันครับ แต่หากใครสนใจในเรื่องรักษาหลุมสิวแล้วละก็สามารถอ่านบทความ ประสบการณ์ Dermaroller ของผมได้นะครับเผื่อช่วยในการตัดสินใจได้อีกทางหนึ่ง

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

7 ความคิดเห็น :

  1. ขอบคุณนะครับ เห็นเพื่อนไปทำบ่อยๆ อยากทำแต่กลัวเจ็บกลับเข็ม

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ เข้าใจมากขึ้นเลย

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากค่ะ กะลังจะไปทำพอดีเลยอ่ะ แบบได้คอร์ดมาฟรีอ่ะ

    ตอบลบ
  4. เป็นกระ ตรงโหนกแก้ม ถ้าทำเมโส จะหายไหมค่ะ

    ตอบลบ
  5. ได้ความรู้มากเลยคะ ขอบคุณสำหรับขัอมูลคะ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณมากนะค่ะ ว่าอยากลองวิชาเพราะมันลดราคาเหลือ 700 แต่ไม่ไปแล้วเพราะได้อ่านข้อความจากคุณ เป็นประโยชน์เลย👍👍👍

    ตอบลบ
  7. อยากหน้าเนียนแต่มีสิวเสี้ยนเยอะทำได้ไหม

    ตอบลบ