รักษาสิวด้วย Photodynamic therapy(PDT) ลดหน้ามัน สิวหายราบ



"หน้ามัน" เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดสิวบนใบหน้า ดังนั้นหากเรามีวิธีขจัดความมันที่หน้าได้แล้ว ย่อมเป็นการช่วยลดสิวได้อีกทางหนึ่ง วันนี้มีอีกหนึ่งวิธีการรักษาสิวที่เน้นไปที่การลดความมันบนใบหน้า เพื่อส่งผลให้สิวอักเสบ สิวอุดตัน ลดลงแถมยังสามารถช่วยกระชับรูขุมขนได้ดีอีกด้วย วิธีที่ว่านี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "Photodynamic therapy หรือ PDT"


รักษาสิว ลดหน้ามันด้วย Photodynamic therapy หรือ PDT


Photodynamic therapy หรือ PDT

เป็นวิธีการรักษาสิวที่มีขั้นตอนหลักๆอยู่ 2 ขั้นตอน คือ

  • การทาสารบางอย่างเข้าไปเพื่อให้มีผลต่อการลดการผลิตไขมันของต่อมไขมัน โดยสารที่ว่านี้คือสาร Aminolevulinic (ALA) ALA ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว เป็นสารตั้งต้นที่ใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดง 
  • อีกขั้นตอนหนึ่งคือการฉายแสง LED หรือยิงแสงเลเซอร์ไปที่หน้าทีหน้าของเรา เพื่อให้แสงไปทำปฏิกิริยากับสาร ALA ที่ทาไว้ก่อนหน้า ซึ่งจะมีผลทำให้ ต่อมผลิตไขมันฝ่อ ความมันบนหน้าลดลง หน้ามันลดลงสิวก็ลดลง โดยแสงที่ใช้จะมีหลายแบบซึ่งถ้าบอกชื่อไปก็คงจะคุ้นเคยกัน เช่น แสง IPL , V-Beam , Frexel 


ขั้นตอนการรักษาสิวด้วย Photodynamic therapy

  • หมอจะให้ผู้ช่วยพาไปล้างทำความสะอาดหน้าใบหน้าให้สะอาด
  • จากนั้นหมอจะทา ALA ทั่วหน้าของเรา และเราก็นั่งรอไปอีกประมาณ 20 นาที
  • จากนั้นหมอก็เริ่มยิงลำแสงเลเซอร์มาที่หน้า ในที่นี้ใช้ V-Beam ความรู้สึกก็เหมือนโดนหนังสติ๊กดีดหน้า ไม่เจ็บมากพอทนได้
  • เมื่อยิงเลเซอร์เสร็จก็จัดการล้างหน้าให้สะอาด โดยหมอจะให้ล้างหน้าหลายรอบมากๆ เพราะไม่อยากให้สาร ALA ตกค้างบนหน้าของเรา (มันล้างออกยากด้วย)

ข้อดีของการรักษาสิวด้วย Photodynamic therapy

  • ช่วยรักษาสิวอักเสบ สิวอุดตันได้ดี เพราะวิธีการนี้เมื่อเกิดปฏิกิริยาระหว่างสาร ALA กับลำแสงขึ้น จะมีผลในการฆ่าเชื้อ P-Acne ได้ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง
  • ลดความมันบนใบหน้า เนื่องจากเข้าไปปจัดการกับต่อมไขมันที่หน้า ทำให้เกิดการสร้างไขมันน้อยลง หน้าก็มันลดลง
  • ช่วยกระชับรูขุมขน หน้าเนียนใสมากขึ้น
  • ไม่เจ็บมากนัก เหมือนยิงเลเซอร์ทั่วๆไป
  • ช่วยลดจุดด่างดำบนใบหน้า เพราะการยิงลำเลเซอร์เข้าไปที่ผิว ทำให้ไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นผิวข้างใน จึงช่วยซ่อมแซมผิวไปในตัวด้วย

ข้อควรระวังเมื่อทำ Photodynamic therapy

  • ระหวังแสงแดด หลังทำควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวเหมือนการยิงเลเซอร์ทั่วๆไป โดยเฉพาะใน 24 ชั่วโมงแรกหลังทำต้องระวังเป็นพิเศษ
  • ผิวแดงลอก อาจจะมีผิวลอก แดงหลังจากรักษาได้ ซึ่งเป็นผลจากการยิงเลเซอร์นั่นเอง เป็นเรื่องปกติไม่ต้องกังวล สัก 1 สัปดาห์หน้าก็จะกลับมาเป็นปกติ

    การรักษาสิวด้วย Photodynamic therapy นั้นถือเป็นการรักษาที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะจุดเด่นในเรื่องการลดความมันบนหน้าซึ่งเป็นปัญหาของคนส่วนมากที่เป็นสิว และเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการทายารักษาสิว รวมไปถึงคนที่มีปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำที่เกิดจากการบีบสิว แต่วิธีการนี้ก็ไม่ได้จะรักษาสิวให้หายไปย่างถาวรนะครับ มีโอกาสที่สิวจะกลับมาได้อีก ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหน้าหลังจากทำด้วย หากดูแลไม่ดีกลับมาเป็นสิวอีกก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แล้วก็ไม่ใช่วิธีรักษาสิวที่ทุกคนรักษาแล้วจะหายนะครับ คนที่จะทำ Photodynamic therapy ก็ต้องเข้าใจในจุดนี้ด้วย แต่ถ้าช่วยให้หน้าหายมันได้จริงๆก็น่าลองไม่ใช่หรอครับ ^^

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น