อีกสักตัวกับครีมลดสิวอุดตัน Differin ใครใช้ Retin-A แล้วสิวไม่หายลองตัวนี้ได้นะ


Differin ครีมลดสิวอุดตัน

หากพูดถึงครีมละลายสิวอุดตันทุกคนก็คงจะรู้จัก Retin-A เป็นอย่างดี และถ้าพูดถึงครีมลดสิวอุดตันที่ดังไม่แพ้กันก็ต้องยกให้ "Differin" ตัวนี้นั่นเอง ซึ่งเจ้าครีมละลายสิวอุดตันตัวนี้มันเหมือนเป็นอีก Generation หนึ่งของยาทารักษาสิวที่ออกมาเพื่อแก้ปัญหาบางอย่างของ Retin-A โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องการผลัดเซลผิวที่รุนแรงเกินไป ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Retin-A ที่ทำให้ใครหลายๆคนไม่กล้าใช้ ทั้งที่ความจริงแล้ว Retin-A จัดเป็นยาที่ช่วยรักษาสิวอุดตันได้ดีมากๆตัวหนึ่ง


ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับยาละลายสิวอุดตันที่ชื่อว่า Differin กันซะก่อนว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร ไปยังไงมายังมันถึงนำมาใช้รักษาสิวอุดตันได้ และท้ายบทความผมจะเขียนเปรียบเทียบถึงความแตกต่างระหว่าง Differin กับ Retin-A ให้อ่านกันเป็นบทส่งท้าย ถ้าพร้อมแล้วไล่ดูกันไปทีละเรื่องนะครับ

Differin คือ อะไร?


ความจริงแล้ว Differin กับ Retin-A นั้นมันเป็นญาติกัน เพราะ Differin เป็นอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ (Retin-A คือ ครีมที่ผสมกรดวิตามินเอเข้าไป) ดังนั้นมันจึงมีการทำงานที่ใกล้เคียงกัน โดยตัวยาหลักของ Differin นั้นคือ Adapalene 0.1% ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาสิวอุดตัน ช่วยลดการอุดตันของผิว มีฤทธิ์ในการผลัดเซลผิว ลดการหนาตัวของเซลผิวชั้นเคราติน จึงสามารถช่วยลดรอยแผลสิว หรือจุดด่างดำได้ด้วย

วิธีการใช้ Differin 


วิธีการใช้ Differin ก็จะเหมือนกับการใช้ Retin-A คือใช้ทาหลังล้างหน้า หรือก่อนเข้านอน โดยช่วงแรกๆอาจทาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวอุดตันก่อน ถ้าทาแล้วไม่มีอะไรน่าตกใจก็สามารถใช้ทาทั่วหน้าได้ ทาทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก แต่ถ้าใครเพิ่งลองใช้ครั้งแรกอาจทาทิ้งไว้สัก 20-30 นาที แล้วไปล้างออกก็ได้ ถ้ากลัวว่ายามันจะแรงเกินไปอ่ะนะครับ

ใช้ Differin แล้วอาจจิตตกได้


ขึ้นหัวข้อมาอย่างนี้อย่าเพิ่งตกใจว่า Differin มันจะอันตรายนะครับ มันไม่ได้อันตรายอะไรเพียงแต่ว่า เวลาที่เราใช้ Differin ทาสิวอุดตันในช่วงแรกๆ สิวมันอาจจะแย่งกันผุดขึ้นมาบนหน้าโดยที่ไม่ได้นัดหมายกันไว้ก็เท่านั้น ก็อย่างที่บอกว่า Differin มันเป็นครีมที่ใช้รักษาสิวอุดตัน แต่มันไม่ใช่การละลายแล้วยุบหายไป มันจะทำให้สิวที่อยู่ใต้ผิวหนังของเราดันตัวขึ้นมาให้ออกมาสู่โลกภายนอก ซึ่งอาการที่ว่าอาจจะเกิดประมาณ 3-4 สัปดาห์ พอหน้าเราเคยชิน และสิวมันดันตัวขึ้นมาหมด หลังจากนั้นอาการสิวผุดที่ว่าก็จะหายไป สิวมันก็จะค่อยๆแห้งและหลุดออกจากหน้าเราไปเอง ซึ่งอาการที่ว่านี้ก็เกิดขึ้นกับตอนใช้ Retin-A ได้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่เกิดขึ้นกับทุกคนนะครับ ถ้าใครไม่เป็นถือว่าโชคดีมากๆ

ถ้าใช้ Differin แล้วสิวอักเสบขึ้นมาเยอะมากทำไงดี?


โอกาสที่จะเกิดสิวอักเสบเวลาใช้ Differin จัดว่ามีสูงมาก เนื่องมาจาก Differin มันจะผลักสิวอุดตันขึ้นมา ทำให้มันมีโอกาสได้ไปเจอสิ่งเร้าต่างๆมากมาย ซึ่งจะทำให้เกิดสิวอักเสบง่ายมาก บางคนใช้ Differin ทาทีหนึ่ง สิวอักเสบขึ้นมาพร้อมกัน 4-5 เม็ดเลยก็มี (ไปพร้อมใจกันที่อื่นได้มั้ย (TT) ) ดังนั้นใครที่กลัวจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับหน้าของตัวเองให้ป้องกันไว้ก่อนด้วยการทายาแต้มสิวพวก Clindamycin ไว้ก่อนล่วงหน้า โดยใช้แต้มลงบนหัวสิวที่อักเสบของเรา ใช้คู่กันไปจะช่วยลดการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบได้ดีขึ้น


ผลข้างเคียงจากการใช้ Differin ทาสิว


ผลข้างเคียงของ Differin  นั้นก็จะคล้ายๆกับ Retin-A คือ ใช้แล้วผิวหน้าจะแห้ง ลอก เป็นขุย บางครั้งอาจเกิดอาการแสบหน้า คันยุบคันยิบ ซึ่งอาการที่ว่าจะน้อยกว่า Retin-A มาก แต่บางคนก็อาจจะแพ้ได้เพราะฉะนั้นอย่าลืม Test ก่อนใช้ Differin ทาหน้าทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยนะครับ อ้อ!!! เกือบลืมไปอย่าลืมทาครีมกันแดดเวลาออกจากบ้านด้วยนะครับ ถึงแม้ Differin จะไม่ทำให้หน้าเราบางเท่าไร แต่กันไว้ก่อนก็ดีครับ


ใช้ Differin นานเท่าไรจึงจะเห็นผล


ความจริงแล้วถ้าให้ระบุเวลาที่แน่นอนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะผิวหน้าแต่ละคนก็จะตอบสนองต่อครีมแตกต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วต้องใช้ Differin ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนถึงจะเห็นผลการรักษาที่ดี อย่างช่วงแรกๆที่บอกว่าอาจมีอาการสิวผุดได้ อันนี้ก็ต้องอดทนสักหน่อย ใช้อย่างต่อเนื่องให้หน้าได้ปรับตัวสักหน่อยเดี๋ยวดีเอง(เข้าใจว่าอาจจะจิตตกได้)


เปรียบเทียบ Differin และ Retin-A



เปรียบเทียบ Differin และ Retin-A


ตัวยาคนละตัวกัน


ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่าง Differin และ Retin-A ก็คือ มันเป็นตัวยาคนละตัวกัน โดย Differin ตัวยาชื่อว่า Adapalene แต่ Retin-A ตัวยาออกฤทธิ์คือ Tretinoin ซึ่งก็คือ กรดวิตามินเอนั่นเอง

ความแรงไม่เท่ากัน


Differin เป็นยาทาก่อนนอนลดสิวอุดตันเหมือนกับ Retin-A แต่ความแรงของตัวยานั้นน้อยกว่ามาก โดย Differin จะเป็นยาที่อ่อนโยนกว่า ก็อย่างที่บอกไว้ว่า Differin สร้างมาเพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงของ Retin-A เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่มั่นใจในความแข็งแรงของผิวหน้าตัวเองแล้วล่ะก็ อาจจะลองใช้ Differin ก่อนก็ได้

เนื้อครีมต่างกัน


Differin เป็นเนื้อเจล ส่วน Retin-A เป็นเนื้อครีม เพราะฉะนั้น Differin จะซึมเข้าผิวได้ดีกว่า Retin-A

ราคาต่างกันเยอะ


Differin เป็นยาละลายสิวอุดตันที่แพงกว่า Retin-A มาก โดย Differin ที่ขนาด 15g ราคาประมาณ 370 บาท ในขณะที่ Retin-A ขนาด 10g ราคา ประมาณ 120 บาท แพงกว่ากันประมาณ 2 เท่าเลยทีเดียว


 นี่ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจของครีมลดสิวอุดตันที่มีชื่อว่า Differin  ได้อ่านแล้วเป็นยังไบ้างครับ ไม่รู้ว่าน่าใช้หรือน่ากลัวกันแน่ ถ้าผมเล่าแล้วมันฟังดูน่ากลัวก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ จริงๆแล้ว Differin ไม่ใช่ยาที่น่ากลัวอะไร ผมว่ามันเป็นยาที่ช่วยรักษาสิวอุดตันได้ดีมากๆตัวหนึ่งเหมือนกัน โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าใครใช้ยาตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้ผล ก็จะเปลี่ยนมาใช้อีกตัวหนึ่งเป็นธรรมดา จะ Differin หรือ Retin-A ก็เลือกเอาครับ อยู่ที่หน้าเรานั่นแหละครับ ว่าจะถูกกับตัวไหนมากกว่ากัน วันนี้เขียนมาเยอะแล้วแบตหมดขอจบการเขียนแต่เพียงเท่านี้ พบกับบทความรักษาสิวได้อีกในบทความหน้า กับ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ



Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

8 ความคิดเห็น :

  1. สอบถามนะค่ ให้นมบุตร ใช้ differn ได้ไหม
    (ลูกสาว2ขวบครึ่งแล้ว ค่ะ) เป็นสิวตั้งแต่เริ่มท้อง จนคลอดแล้ว2ปีครึ่ง ก้ยังไม่หาย เป็นมากช่วงอบปากคาง ข้างจมูกบ้างพลักยุบพลัดขึ้น อุดตันพาล บวมแดงเจ็บแล้วก็อักเสบ
    ท้อใจมากกกกกค่ะ

    ตอบลบ
  2. ให้นมบุตรยังไม่ควรใช้ differin ครับ แต่สามารถใช้ skinoren cream แทนได้รับ

    ตอบลบ
  3. differin ดูวันหมดอายุตรงไหนค่ะ

    ตอบลบ
  4. ใช้ครีมอะไรรักษารอยดำได้ดีคะ แล้วใช้คู่กับdifferinได้ไม๊

    ตอบลบ
  5. สอบถามค่ะ อยากทราบว่าให้นมลูกสามารถใช้ Retin-A ได้ไหมคะ ตอนนี้ลูกอายุ 6 เดือนเศษ

    ตอบลบ
  6. ได้ความรู้มากๆเลยค่ะขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  7. แผลหลุมเกิดจากอีสุกอีใสทาตัวไหนแล้วแผลจะตื้นขึ้นค่ะ พึ่งหายจากอีสุกอีใสได้1อาทิตย์ค่ะ

    ตอบลบ
  8. ลองใช้เกลือผสมน้ำ กลั้วปาก จะดีขึ้นปะคะ
    หรือไม่ก็ อมน้ำมันพร้าว กลั้วปาก

    ตอบลบ