บัญญัติ 5 ข้อในการเลือกใช้ Skincare คำแนะนำจากหมอผิวหนังที่ต้องบอกว่า "ใช่เลย"


บัญญัติ 5 ข้อในการเลือกใช้ Skincare

บัญญัติ 5 ข้อในการเลือกใช้ skincare นี้ผมได้มาจากหนังสือของคุณหมอคนหนึ่งชื่อว่าคุณหมออนัน ซึ่งเป็นแพทย์ผิวหนัง แต่จำไม่ได้ว่าหนังสือชื่อว่าอะไรเพราะดันจดแต่หัวข้อและใจความสำคัญไว้ พยายามหาที่มาที่ไปแต่หายังไงก็หาไม่เจอจริงๆ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ




ที่วันนี้เอาเรื่องนี้มาแชร์เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่น่าสนใจจริงๆ คุณหมอได้บอก
"วิธีการเลือกซื้อ Skincare" เอาไว้อย่างน่าสนใจ ถ้าใครเอาเคล็ดลับที่บอกไว้ไปใช้ รับรองได้เลยว่าการเลือกซื้อ Skincare ของเราจะสนุกสนานและตรงจุดมากขึ้นครับ

บัญญัติ 5 ข้อในการเลือกใช้ skincare



ครีมราคาแพง ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วสวยเสมอไป

1. ครีมราคาแพง ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วสวยเสมอไป


    ก็ตรงตัวตรงประเด็นครับ ครีมที่มีราคาแพงไม่จำเป็นต้องใช้ดีเสมอไป บางคนซื้อครีมราคาหลายพันบาทมาใช้ โดยตั้งความหวังไว้ว่า ครีมแพงมันต้องดีมีคุณภาพกว่าครีมราคาถูกแน่นอน แต่สุดท้ายใช้แล้วแพ้ก็มีให้เห็นเยอะแยะไป คือไม่ได้บอกว่าครีมราคาแพงไม่ดีนะครับ เพียงแต่อยากบอกว่า ราคาครีมไม่ใช่ตัวกำหนดว่าครีมตัวนั้นดีที่สุด แต่เป็นเรื่องการเข้ากันกับตัวเรามากกว่า คือซื้อมาแล้วใช้แล้วรู้สึกดี ไม่แพ้ ไม่อุดตัน สิวไม่ขึ้น แก้ปัญหาได้ตรงจุดก็พอ เป็นครีมราคาร้อยกว่าบาทก็ได้ ขออย่างเดียวให้มีอย. และไม่ใช่ครีมที่ผสมสารอันตรายๆก็พอครับ


สัญชาตญาณ คุณภาพ และปริมาณ

2. สัญชาตญาณ คุณภาพ และปริมาณ


    คุณภาพของครีม หรือ skincare ที่ใช้เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราใช้ครีมคุณภาพดีย่อมสามารถแก้ปัญหาได้ดีตามไปด้วย แต่ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่า skincare ที่เราใช้อยู่มันมีคุณภาพดี คุณหมอบอกไว้ว่าให้เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเราเอง เช่น ใช้แล้วมันดีขึ้นจริง เฉยๆ หรือว่าแย่ลงกว่าเดิม ผมขอยกตัวอย่างใกล้ๆตัวอย่างครีมรักษาสิวที่บอกว่าใช้แล้วช่วงแรกมันจะดันสิวขึ้นมาเยอะมาก แต่พอใช้ไปสักพักมันก็จะยุบหายแล้วหน้าก็จะดีขึ้นเอง เรื่องนี้ความจริงก็คงเป็นอย่างที่บอก เพราะมันเป็นผลข้างเคียงของยาที่อาจเกิดขึ้นสำหรับคนที่เริ่มใช้ในช่วงแรก แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ถ้าเราใช้แล้วสิวเห่อขึ้นมาเยอะและไม่มีทีท่าว่าจะหายสักที เราจะตัดสินใจอย่างไร? จะเลิกหรือจะทนใช้ต่อดี? เรื่องนี้จริงๆแล้วไม่มีใครบอกเราได้ดีเท่ากับตัวเราเองครับ (กรณีที่ไม่แพ้ยานะครับ) ถ้าเราเชื่อว่ามันจะดีขึ้นก็ทนไป แต่ถ้าเราคิดว่าไม่ไหวแล้วขืนใช้นานกว่านี้หน้าเยินกว่าเดิมแน่ก็หยุดครับ บางครั้งการเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองอาจดีที่สุดก็ได้

    อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือปริมาณครีมที่ใช้ในแต่ละครั้ง บางคนอาจคิดว่ายิ่งเราทาครีมเยอะเท่าไร ผิวเราก็จะได้ประโยชน์มากเท่านั้น อันนี้เป็นความเชื่อที่ผิดครับ เพราะจริงๆแล้วผิวของคนเรามี limit ในการรับครีมอยู่ พูดง่ายๆคือมันรับครีมได้ในปริมาณจำกัด ดังนั้นการทาครีมเยอะๆ โบกครีมหนาๆ แทนที่จะได้ประโยชน์มากขึ้น อาจกลายเป็นสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ซะมากกว่า เรื่องยารักษาสิวก็เช่นเดียวกัน ยาบางตัวการทาในปริมาณมากก็อาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น แทนที่ทาเยอะๆแล้วสิวจะหาย อาจกลายเป็นหน้าแพ้ สิวเห่อไปก็มี เพราะฉะนั้น สัญชาตญาณ คุณภาพ และปริมาณ สำคัญต่อการเลือกใช้ Skincare จริงๆครับ


กลิ่นหอม ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

3. กลิ่นหอม ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป


    สำหรับเรื่องกลิ่นของ Skincare นั้น เชื่อว่าทุกคนคงรู้กันแล้วว่ามันไม่ใช่ปัจจัยในการบ่งบอกว่า Skincare ตัวนั้นดีหรือไม่ดี บางครั้งยิ่งกลิ่นหอมมากอาจยิ่งสร้างความระเคืองให้กับผิวมากขึ้น Skincare รุ่นใหม่ๆก็เลยนิยมที่จะไม่ใส่น้ำหอมมาในปริมาณมาก หรือไม่ใส่เลยก็เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้แต่ Skincare ที่ไม่ผสมน้ำหอมเท่านั้นนะครับ เพราะถ้าเราเลือกอย่างนั้นจริงๆ ผมว่าเราคงหา Skincare ใช้ได้น้อยตัวมาก เอาเป็นว่าเลือกตามความเหมาะสมดีกว่า ถ้ารู้ตัวว่าแพ้น้ำหอม เกสรดอกไม้ก็หลีกเลี่ยง Skincare ที่ผสมน้ำหอม แต่ถ้าไม่แพ้ และช่วยแก้ปัญหาให้กับเราได้ ผมว่าก็ใช้ไปเถอะครับ แต่ต้องเป็นครีมที่ไม่น่ากลัวเท่านั้นนะ


อย่าเลือกซื้อ Skincare ตามอายุและประเภทผิวอย่างเดียว

4. อย่าเลือกซื้อ Skincare ตามอายุและประเภทผิวอย่างเดียว


    ข้อนี้ฟังดูแล้วอาจจะงงสักหน่อย คือถ้าไม่ให้เลือกซื้อ Skincare ตามอายุกับประเภทผิวแล้วจะให้เลือกยังไง นี่มันแทบจะหมดตัวเลือกแล้วนะ คือข้อนี้คุณหมอพยายามจะบอกเราว่า บางครั้งอายุจริงกับอายุผิวของเราอาจไม่เท่ากัน เช่น ครีม A บอกว่าเหมาะกับคนอายุ 25 ปี ตอนนี้เราก็อายุ 25 ก็เลยคิดว่ามันก็ต้องเหมาะกับเรา แต่ที่ไหนได้ผิวของเรามันแก่เกินวัย อายุ 25 แต่ผิวปาเข้าไป 35 แล้ว ถ้าเป็นอย่างเคสนี้ก็เท่ากับว่าเราเลือกซื้อครีมไม่เหมาะกับสภาพผิวจริงๆของเรา

    เรื่องประเภทของผิวก็เช่นเดียวกัน เช่น เราเป็นคนผิวมัน เราก็เลยคิดว่าควรใช้ครีมที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือ Oil free ดีที่สุด แต่พอเข้าหน้าหนาว อากาศแห้ง ทำให้ผิวแห้ง หน้าแตกเป็นขุย แต่ไม่ยอมทาครีมบำรุงผิวเลยเพราะกลัวว่าทาแล้วสิวจะขึ้น ก็อาจกลายเป็นว่ายิ่งไม่ทาสิวกลับยิ่งขึ้นมากกว่าเดิม นี่เป็นเรื่องจริงที่อาจเกิดขึ้นได้ จริงอยู่ที่คนเป็นสิวไม่ควรใช้ Skincare ที่มันๆ แต่บางครั้งมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับประภทผิวของเราเพียงอย่างเดียว มันอาจมีปัจจัยอื่นๆเข้ามามีผลด้วย อย่างเช่นเรื่องสภาพอากาศที่ยกตัวอย่างให้ดู เพราะฉะนั้นอย่างยึดติดกับทฤษฎีมากเกินไป ปรับสูตรใช้ให้ยืดหยุ่นดีที่สุดครับ


เลือก Skincare ณ วันนี้

5. เลือก Skincare ณ วันนี้


    ข้อนี้คล้ายๆกับข้อข้างบน คืออย่ายึดติดกับความคิดเดิมๆ หรือความเคยชินมากนัก ควรเลือกใช้ Skincare ให้เหมาะกับสภาพผิว ณ ปัจจุบันของเราดีที่สุด เช่น เมื่อก่อนเราไม่เคยมีรอยตีนกา เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมลดรอยตีนกา แต่วันนี้มันมาแล้วถ้าไม่อยากให้มันลุกลามไปมากกว่านี้ ก็ต้องหาครีมมาทาบ้างแล้วล่ะ หรือว่าเมื่อวานไปตากแดดเล่นน้ำทะเลมา วันนี้ผิวดำคล้ำ แสบไปหมด จากที่ไม่เคยทาเจลว่านหางจระเข้ก็ต้องรีบหามาทา คือ เราไม่จำเป็นต้องทาครีมแบบเดิมในทุกวัน วันไหนรู้สึกขาดอะไรไปก็หาครีมตัวใหม่ๆเติมเข้าไป หรือวันไหนบอกทาเยอะไป อึดอึดหน้าก็ลดลงบ้างก็ได้ เอาผิว ณ วันนี้เราเป็นตัวกำหนด เป็นความคิดที่ผมเองก็ยังนึกไม่ถึงเหมือนกันครับ

    บัญญัติ 5 ข้อในการเลือกใช้ Skincare ของคุณหมออนัน ผมว่าเป็นความคิดที่เรียบง่ายแต่ล้ำลึกจริงๆครับ อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย แต่ยังไงก็ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า บทความนี้มีแนวคิดมาจากของคุณหมอจริง แต่ผมก็ได้เขียนแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมไปเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะส่วนเสริมในเรื่องเกี่ยวกับสิว หวังว่าคงจะสอดคล้องกับบัญญัติทั้ง 5 ข้อนี้นะครับ เขียนมายาวแล้ววันนี้ Acnedefend คงต้องขอจบการนำเสนอแต่เพียงเท่านี้ พบกันได้อีกในบทความต่อไป สวัสดีครับ ^^

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น