วิธีการรักษาหลุมสิวด้วย IPL
สำหรับการรักษาหลุมสิวด้วย IPL นั้นจะใช้เครื่องยิงIPLโดยเฉพาะ ยิงลำแสงไปที่ใบหน้าในตำแหน่งหลุมสิวที่ต้องการ โดยที่ลำแสงที่ยิงออกไปนั้นจะผ่านทะลุผิวหนังชั้นนอกและเข้าไปกระตุ้นผิวหนังชั้นในให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินซึ่งเป็นเส้นใยเนื้อเยื่อ ให้มีการสร้างที่รวดเร็วและดีขึ้นกว่าการสร้างตามปกติของร่างกาย เกิดการดันตัวของเซลผิวใหม่ที่อยู่ข้างล่าง ให้ขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าทำให้หลุมสิวบนใบหน้าตื้นขึ้นได้
ข้อดีของการรักษาหลุมสิวด้วย IPL
- ไม่เกิดรอยไหม้ที่ผิวหน้า เพราะเป็นการยิงลำแสงเข้าไปเพื่อกระตุ้นเซลผิวชั้นใน
- ไม่เจ็บ ถ้าเทียบการการยิงลำแสงประเภทอื่นๆ
- หลังจากทำไม่ต้องพักฟื้นนาน ใช้ชิวิตได้ตามปกติ แบบว่าทำคืนนี้พรุ่งนี้ก็ทำงานได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
- ไม่ทำให้หน้าบาง เพราะไม่ได้เป็นการลอกผิวออก
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวชั้นหนังแท้ได้เป็นอย่างดี
ผลข้างเคียงของการรักษาหลุมสิวด้วย IPL
- อาจจะเกิดรอยแดงบวม แต่ไม่ต้องกังวลเพราะรอยจะหายไปภายใน 3-7 วัน
- อาจมีตุ่มใสเกิดขึ้น
- อาจมีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวบ้าง
ซึ่งผลข้างเคียงที่ได้กล่าวมาส่วนใหญ่จะหายไปเองในเวลาไม่นาน เต็มที่ก็ไม่เกิน 4 สัปดาห์ แต่หากมีอาการเหล่านี้มากและยาวนานผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
การรักษาหลุมสิวด้วย IPL เป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายและมีผลข้างเคียงที่น้อย ซึ่งเป็นการรักษาที่เหมาะกับหลุมสิวประเภท Rolling Scar คือเป็นรอยหลุมสิวที่มีลักษณะเป็นแอ่งเว้า หากเป็นหลุมสิวแบบอื่นๆแนะนำให้รักษาโดยใช้วิธีอื่นจะเหมาะกว่า
สิ่งที่ต้องคำนึงอีกอย่างหนึ่งคือในเรื่องของ ค่าใช้จ่าย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง โดยคิดค่าบริการจากการยิงลำแสงเพื่อรักษาหลุมสิวในแต่ละครั้ง หรือที่เรียกว่า shot ซึ่ง 1 shot จะอยู่ที่ 100-300 บาท หรืออาจจะเป็นการเหมาจ่ายทั้งหน้าก็ได้ขึ้นอยู่กับสภาพหลุมบนใบหน้าของเราว่ามีกี่จุด ก่อนที่จะตัดสินใจรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้ก็ลองช่างใจกันดูครับ ว่าจะคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายไปหรือเปล่า หรือว่าจะลองถามคำแนะนำจากแพทย์ดูก่อนก็ได้ครับ แต่ก็อย่าไปเชื่อ 100% ครับ ลองหาข้อมูลดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจครับ มีคนแชร์ประสบการณ์ไว้เยอะ จะได้ไม่เดินทางผิดเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน และที่สำคัญเสียหน้าอีกต่างหาก
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น