การฉีดสิวอักเสบ ฉีดสิวหัวช้าง ดีหรือไม่ดียังไงที่นี่มีคำตอบ!!!

Tweet

เวลาที่เราเป็นสิวบวมแดงเม็ดใหญ่เราก็คงอยากจะจัดการมันให้ออกไปให้พ้นๆหน้าของเราโดยเร็วที่สุด วิธีที่หลายๆคนนิยมใช้กำจัดสิวนั้นก็คือ "การฉีดสิว" นั่งเอง เพราะเป็นวิธีทำให้สิวอักเสบ สิวหัวหนอง หัวช้างนั้นยุบหายไปอย่างรวดเร็วทันใจ โดยใช้เวลาฉีดไม่นาน ส่วนในเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นก็เป็นอะไรที่สามารถจ่ายได้สบายๆ เพียงเม็ดละ 60-100 บาท จึงมีหลายคนที่เมื่อเป็นสิวเม็ดใหญ่ๆแล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไปฉีดสิวเม็ดนั้นที่คลินิคแป๊บเดียวก็ยุบแล้ว ไม่ต้องทนเจ็บ ไม่ต้องคอยให้สิวสุกถึงจะบีบออกมาได้ ไม่ต้องกลัวเป็นแผลเป็น

แต่จะมีกี่คนที่จะรู้ว่าจริงแล้วการฉีดสิวนั้นก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป ข้อเสียที่เกิดจากการฉีดสิวนั้นก็มีอยู่หลายข้อด้วยกัน จนบางครั้งก็แอบคิดไม่ได้ว่าตกลงการฉีดสิวเนี่ยมันดีหรือไม่ดีกันแน่ วันนี้ acnedefend ก็เลยอยากจะยกเรื่องข้อดีและข้อเสียจากการฉีดสิวมาให้เพื่อนๆลองคิดกันดูว่าการฉีดสิวที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้เป็นยังไงกันแน่

สารที่ใช้ฉีดสิว

สารที่ใช้ฉีดสิวจะเป็นสารจำพวกสเตียรอยด์ หรือสเตอรอยด์(Steriod ) หรือบางทีก็จะมีการผสมยาชาเข้าไปด้วยโดยสารสเตียรอยด์นี้จะไปช่วยลดการอักเสบของสิว โดยจะไปหยุดการทำงานของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอักเสบบนหน้าของเรานั่นเอง เมื่อเชื้อแบคทีเรียมันทำงานต่อไม่ได้ สิวของเราก็จะไม่บวมมากขึ้นแล้วก็จะยุบไปเอง แต่สเตียรอยด์แค่เข้าไปยับยั้งการทำงานของเชื้อแบคทีเรียเท่านั้นไม่ได้ฆ่ามันให้ตาย ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดสิวซ้ำที่จุดเดิม หรือบางทีเมื่อสิวเม็ดที่ถูกฉีดยุบลงไปแล้ว ก็ชอบเกิดสิวบริเวณใกล้ๆขึ้นมาอีก ก็เพราะเชื้อแบคทีเรียได้กระจายตัวไปบริเวณใกล้ๆกับจุดที่เคยเป็นสิวนั่นเอง

ข้อดีของการฉีดสิว

• ช่วยให้สิวยุบอย่างรวดเร็ว ฉีดไปแป๊บเดียวก็ยุบแล้ว


• ไม่ต้องทนเจ็บนาน เนื่องจากการเป็นสิวเม็ดใหญ่อย่างสิวอักเสบ สิวหัวช้างนั้นมันจะเจ็บมากๆ เทียบกับการโดนเข็มฉีดไปที่สิวแล้ว การฉีดสิวเจ็บแป๊ปเดียวก็หาย


• ลดความเสี่ยงจากการเกิดหลุมสิว เนื่องจากเวลาที่เราเป็นสิวอักเสบนานๆถ้าไม่รีบเอาหนองและหัวสิวออกแล้วจะทำให้ผิวบริเวณนั้นถูกกิน หรือถูกทำลายซึ่งเป็นที่มาของการเกิดแผลเป็นหรือหลุมสิวนั่นเอง การฉีดสิวทำให้สิวยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดการเกิดหลุมสิวได้เป็นอย่างดี

ข้อเสียของการฉีดสิว

• ไม่ทำให้สิวหายขาด การฉีดสิวเป็นการทำให้สิวยุบตัวลงไปเท่านั้น ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคที่เป็นตันเหตุการเกิดสิว ทำให้มีโอกาสที่สิวจะขึ้นมาอีกได้


• อาจทำให้เกิดไตแข็งๆใต้ผิวหนัง เนื่องมาจากการยุบตัวของสิว และการเกิดสิวซ้ำที่เดิมอีกเป็นๆหายๆอยู่อย่างนั้นทำให้ผิวบริเวณนั้นอาจมีการสร้างพังผืดขึ้นมา เกิดเป็นไตแข็งๆใต้ผิวหนังได้ซึ่งจะทำให้การรักษาสิวนั้นยากขึ้นไปอีก


• อาจทำให้สิวอักเสบมากกว่าเดิม ซึ่งเกิดจากการที่ใช้เข็มที่ไม่สะอาดฉีดเข้าไปที่หัวสิว ทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มเติม นอกจากสิวจะไม่ยุบแล้วยังทำให้บวมเป่งมากกว่าเดิมซะอีก


• อาจทำให้เป็นสิวง่ายกว่าเดิม เนื่องจากเวลาฉีดสิวจะมีการฉีดสารสเตียรอยด์เข้าไปในปริมาณหนึ่งที่หมอกำหนด แต่เมื่อฉีดเข้าไปบ่อยเชื้อโรคก็จะเกิดอาการดื้อยาขึ้นหารรักษาก็จะยากขึ้นไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าช่วยพัฒนาให้มันเก่งขึ้น ซึ่งก็ทำให้เราอาจจะแพ้อะไรได้ง่ายขึ้นเป็นสิวได้ง่ายขึ้นนั่นเอง


• อาจทำให้เกิดหลุมสิว การฉีดสิวนอกจากจะช่วยลดโอกาสการเกิดหลุมสิวแล้ว ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดหลุมสิวได้เช่นกัน เพราะการฉีดสารสเตียรอยด์ไปที่สิวนั้นจะทำให้สิวเกิดการยุบตัวลงได้หากใช้ในปริมาณหรือที่เรียกว่าโดสที่เหมาะสม หากโดสที่ใช้มากเกินกว่าที่ควรจะเป็นแล้วแทนที่มันจะไปยุบสิวอย่างเดียว มันกลับไปยุบผิวหน้าของเราลงไปด้วยทำให้เกิดเป็นหลุมสิวได้เช่นกัน

     ในความคิดเห็นส่วนตัวเรื่องการฉีดสิวของผมจากการฟังหลายๆคนพูด และจากประสบการณ์ตรงของผมนั้น ผมคิดว่าหากไม่มีความจำเป็นอะไรมาก เช่น พรุ่งนี้ต้องไปงานใหญ่แต่สิวดันขึ้นมาเม็ดเป้ง หรือไปทำอะไรที่มันสำคัญมากๆ ก็ไม่ควรฉีดสิวครับ เพราะดูๆไปแล้วข้อดีมันน้อยกว่าข้อเสียเยอะเลย โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาให้หายขาดนั้น การฉีดสิวไม่ได้ตอบโจทย์ข้อนี้เลย และก็มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือได้บอกไว้ว่าการฉีดสิวนั้นจริงๆแล้วเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นในอนาคต รู้อย่างนี้แล้วหากใครที่คิดจะฉีดสิวก็ต้องลองกลับมาคิดดูใหม่ครับว่าจะเอายังไงดี จะฉีด? หรือ ไม่ฉีด? ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละคนแล้วล่ะครับ แต่สำหรับผมไม่คิดฉีดอีกแล้วครับ รักษาสิวแบบธรรมชาติดีกว่ากันเยอะ ประหยัด แถมหายขาดอีกด้วย

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน