ผมคิดว่าคนเราทุกคนย่อมมีความเชื่อเป็นของตัวเอง ไม่รู้นะว่าความเชื่อนั้นเกิดมาจากที่ไหนหรือเมื่อไร แต่ผมเชื่อว่าความเชื่อที่เราเชื่อนั้นมีผลต่อชีวิตของเราอย่างแน่นอน ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องสิวที่ผมจะเขียนถึงในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน บางที่สิ่งที่เราเชื่ออาจไม่สามารถช่วยให้สิวบนหน้าหาย หรือบางทีสิ่งที่เราเชื่อมันอาจถูกต้องแล้วก็ได้ มาดูความเชื่อแต่ละเรื่องกันดีกว่าครับ ว่ามันจริงหรือไม่จริงกันแน่!!!
1.กินช็อคโกแลตแล้วทำให้สิวขึ้น
ความเชื่อนี้ผมเจอมากับตัวเลย ตอนเด็กจำได้เลยว่ามีคนเคยบอกผมว่า "กินช็อคโกแลตแล้วสิวขึ้น" จำไม่ได้ว่าใครบอกแต่ที่แน่ๆตอนนั้นผมเชื่อสนิทใจเลย จากที่เป็นคนชอบกินช็อคโกแลตเป็นชีวิตใจ พอรู้ว่ากินช็อคโกแลตแล้วทำให้สิวขึ้นผมเลิกกินเลย ถามว่าเลิกกินแล้วสิวหายมั้ยก็ไม่หายนะครับ แต่ผมเคยสังเกตตัวเองนะเวลาที่กินของหวานอย่างพวกช็อคโกแลตทีไร สิวจะชอบอักเสบเป็นประจำ ผมเคยอ่านหนังสือและบทความเกี่ยวกับการรักษาสิวมีพูดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันแต่ตอบคำถามต่างแนวทางกันออกไป บ้างก็บอกว่าไม่เกี่ยวกันเลย กินแล้วสิวไม่เห็นขึ้นเลย บ้างก็บอกว่าจริงๆแล้วตัวช็อคโกแลตไม่ได้มีผลต่อการเกิดสิว แต่น้ำตาลที่อยู่ในช็อคโกแลตต่างหากที่ไปกระตุ้นทำใหสิวขึ้น ไม่รู้จะเชื่อใครดีสุดท้ายก็เลยเชื่อตัวเอง ผมกินแล้วรู้สึกว่าสิวมันขึ้นเยอะผิดปกติผมก็หยุดกิน หรือกินให้น้อยลง นอกจากจะช่วยให้สิวบนหน้าน้อยลงแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย แล้วผู้อ่านล่ะครับคิดยังไงกับความเชื่อนี้
2.ฝุ่นและความสกปรกเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
ความเชื่อนี้ดูมีเหตุผล ส่วนใหญ่คนเป็นสิวจะรู้ว่าสิวเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดจากการอุดตันเป็นหลัก เราก็เลยคิดไปว่าฝุ่นหรือมลภาวะที่อยู่รอบตัวเราเป็นสาเหตุของการเกิดสิว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ครับ จริงแล้วฝุ่นที่เราเจอในชีวิตประจำวันแทบไม่มีผลต่อการเกิดสิวเลย ไม่งั้นคนที่เจอฝุ่นทุกคนต้องเป็นสิว หรือถ้าเราล้างหน้าบ่อยๆล้างหน้าให้สะอาดสิวต้องหายสิ แต่ทำไมยิ่งล้างหน้าบ่อยสิวยิ่งขึ้นยิ่งอักเสบมากกว่าเดิมล่ะ เป็นเรื่องที่น่าคิดใช่มั้ยครับ
ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่าจริงๆแล้วความสกปรกไม่ได้เป็นสาเหตุการเกิดสิวที่แท้จริง แต่ความผิดปกติของผิวหน้าและฮอร์โมนภายในร่างกายของเราต่างหากที่ทำให้เป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ควรล้างหน้าให้สะอาดนะครับ ล้างให้สะอาดน่ะถูกต้องแล้ว แต่อย่าล้างบ่อย และควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา สิ่งนี้จะช่วยให้การรักษาสิวได้ผลดียิ่งขึ้นครับ
 |
3.หน้ามันทำให้เป็นสิว
เรื่องนี้คล้ายๆกับเรื่องข้างบน เป็นความเชื่อที่ดูแล้วน่าเชื่อถือมาก เพราะส่วนใหญ่คนหน้ามันมักเป็นสิวกันเยอะ ผมก็คนหนึ่งที่เป็นคนหน้ามันแบบ no limit เหมือนน้ำมันมันจะไหลออกจากรูขุมขนตลอดเวลา จนบางครั้งแอบคิดว่ามันรั่วหรือเปล่าออกมาเยอะจัง ซึ่งความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ ความมันไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว แต่การอุดตันและเชื้อแบคทีเรียต่างหากที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ จริงๆแล้วน้ำมันถูกผลิตออกมาเพื่อปกป้องผิวจากเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่อยู่รอบตัว ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้านจนเกินไป ถ้าไม่มีอะไรไปอุดตันรูขุมขนน้ำมันเหล่านี้จะไม่มีพิษมีภัยอะไรกับเราเลย
สุดท้ายก็ต้องโทษหน้าของเรานี่แหละครับที่สร้างความลำบากให้รูขุมขน ทำให้รูขุมขนอุดตันเป็นประจำ สิวอุดตันก็เลยเกิด พอสิวอุดตันรวมตัวกับเชื้อแบคทีเรียได้ส่วนผสมที่ลงตัวก็เกิดวิวัฒนาการเป็นสิวอักเสบขึ้นมาอีก โถ่!!! ชีวิตทำไมมันเศร้าอย่างนี้ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมความมันจึงไม่ใช่สาเหตุการเกิดสิว แต่บางครั้งที่เราต้องทำให้หน้ามันน้อยลงก็เพราะมันทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดสิวเท่านั้นเอง ถ้าหน้าเราเป็นปกติเมื่อไร ความมันจะไม่สร้างปัญหาให้กับคนเป็นสิวแน่นอนครับ
4.จับหน้าบ่อยแล้วทำให้สิวขึ้น
5.มีเพศสัมพันธ์แล้วทำให้สิวดีขึ้นหรือแย่ลง
ความเชื่อนี้เป็นเรื่องน่าคิดครับ เรื่องของเรื่องคือมีคนเค้าสังเกตกันว่าบางคนก่อนแต่งงานหน้าเป็นสิว แต่พอแต่งงานแล้วทำไมสิวหาย หน้าเปร่งปรั่ง ดูมีน้ำมีนวลขึ้น เค้าก็เลยคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์น่าจะช่วยลดการเกิดสิวได้ อาจมีผลกับฮอร์โมนเพศหรือเปล่า มันอาจช่วยลดฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวก็ได้ ซึ่งจริงๆแล้วความเชื่อนี้ไม่จริงครับ การมีเพสสัมพันธ์ไม่ได้มีผลต่อฮอร์โมนเพศใดๆทั้งสิ้น แต่ที่คนแต่งงานแล้วสิวหายผิวดีขึ้นอาจเป็นเพราะมันถึงวัยหมดสิวพอดี ฮอร์โมนเริ่มเข้าที่เข้าทางสิวก็เลยลดน้อยลง ผมว่าน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้มากกว่าครับ
เป็นยังไงบ้างครับกับ 5 ความเชื่อเรื่องสิวๆที่เอามาฝากในวันนี้ อย่างที่บอกว่าว่าบางทีความเชื่อเหล่านี้อาจมีผลต่อการรักษาสิวให้หายของเราก็เป็นได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคน ช่วยเป็นแนวทางให้ทุกคนรักษาสิวให้หายในเร็ววันครับ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น