อีกหนึ่งสาเหตุการเกิดสิวที่ทำให้คนเป็นสิวมากมายนั่นก็คือ "สิวเครื่องสำอาง" ซึ่งเหยื่อที่เป็นนั้นมักจะไม่ค่อยรู้ตัว ที่ไม่รู้ตัวไม่ใช่ว่าไม่รู้นะว่าเป็นเพราะเครื่องสำอาง แต่ที่ไม่รู้ก็คือมันเป็นที่ตัวไหนนั่นแหละที่ทำให้หน้าเราเป็นสิว ซึ่งก็เข้าใจนะว่าแต่ละคนก็คงจะพยายามสังเกตกันอยู่ว่าเครื่องสำอางตัวไหนที่ทำให้สิวขึ้น ตัวไหนที่ใช้แล้วดี เพราะในชีวิตนี้แทบทุกคนต้องเปลี่ยนเครื่องสำอางที่ใช้กันมาแทบจะเกิน 100 ตัวแล้วเห็นจะได้ โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่ใช้ทาหน้าทาสิวนั้น เปลี่ยนกันเป็นว่าเล่น ส่วนใหญ่แล้วที่เปลี่ยนก็มาจากการไปเจอว่าคนอื่นใช้ดี ใช้แล้วสิวหายก็ใช้ตามๆกันไป แต่มันดันไม่หายเหมือนที่เค้าใช่น่ะสิ
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าผิวหน้าของคนเราไม่เหมือนกัน ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย รวมไปถึงประสบการณ์การใช้เครื่องสำอางที่ผ่านมาซึ่งก็อาจจะมีผลทำให้สภาพผิวหน้าของเราไม่เหมือนเดิม คือมันเปลี่ยนแปลงไปตามครีมที่เราใช้ สุดท้ายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็ไม่เจอตัวที่ใช่ ตัวที่ช่วยให้สิวบนหน้าของเราหายสักที กลายเป็นวงจรชิวิตสิวที่ไม่จบสิ้น
จะดีกว่ามั๊ยครับถ้าเราจะมาตั้งใจลองสังเกตเครื่องสำอาง ครีม โทนเนอร์ มอยเจอไรเซอร์ ครีมทาสิว โฟมล้างหน้า หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราต้องเอามาโดนหน้าของเรา ว่ามันมีส่วนผสมอะไรบ้าง แล้วมาลองวิเคราะห์กันว่าส่วนผสมในเครื่องสำอางตัวไหนกันแน่ที่ทำให้เราแพ้ หรือทำให้สิวบนหน้าไม่หายสักที ซึ่งวันนี้ Acnedefend มีข้อมูลของสารต่างๆที่อยู่ในเครื่องสำอางที่อาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ โดยจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ มาลองดูกันไปที่ละตัวกันครับ
เครื่องสำอางกลุ่ม Mineral Oil
Mineral Oil ก็ชัดเจนครับมันก็คือน้ำมันนั่นเอง โดยจริงแล้วมันคือผลิตภัณฑ์จากสารสังเคราะห์ปิโตรเลียมนั่นเอง เครื่องสำอางในกลุ่ม Mineral Oil จะมีโมเลกุลขนาดใหญ่ หรือบางอย่างก็จะเป็นไม่ว่าจะเป็น wax หรือสารเคลือบผิว ที่มักใช้ในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งก็คือพวกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เราใช้กันอยู่นั่น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นน้ำมันจากธรรมชาติ หรือจากการสังเคราะห์ก็สามารถทำให้ผิวของเราอุดตันได้ง่ายเช่นกัน เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอย่างดี โดยเฉพาะสิวอุดตัน ลิปสติคบางตัวก็จะผสมสาร Butter เข้าไปด้วยซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่ปากได้ ใครที่เป็นสิวที่ปากลองสังเกตดูนะครับ
เครื่องสำอางกลุ่ม Lanolin
หรือที่เราจะคุ้นหูกันในชื่อ "ไขมันแกะ(Sheep sebum)" จะเป็นน้ำมันที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ สามารถใช้สร้างความชุ่นชื้นกับผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ผิวแห้ง แต่สำหรับคนที่เป็นสิวส่วนใหญ่ซึ่งจะมีผิวมัน ไขมันแกะมันจะทำให้เกิดความมันมากขึ้น ทำให้เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกได้ง่ายขึ้น และแน่นอนโอกาสการเกิดสิวก็มากขึ้นเช่นกัน วิธีสังเกตง่ายๆว่าเครื่องสำอางที่เราใช้อยู่มีส่วนผสมนี้หรือไม่ก็ให้ดูว่ามันมีสารที่ลงท้ายด้วย Lanolin อยู่หรือเปล่า หรือดูจากสารที่เขียนไว้ดังต่อไปนี้
- Lanolin Alcohol
- Acetylated Lanolin
- PEG75 Lanolin
เครื่องสำอางกลุ่ม Isopropyl Myristate
เป็นสารที่มักจะผสมในเครื่องสำอางที่เราใช้โดยมันจะทำให้เรารู้สึกว่าทาได้ง่าย ซึมเร็ว ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ มีความมันวาว ทาแล้วจะรู้สึกว่าหน้าไม่มัน ซึ่ง Isopropyl Myristate จะทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่าย และมันยังใช้กันสนิมของกระป๋องในอาหารกระป๋องด้วย (เริ่มน่ากลัวขึ้นมาทันที) ชื่อสารที่เมื่อพบแล้วควรหลีกเลี่ยง
- isopropyl palmitate
- isopropyl isothermal
- putty stearate
- isostearyl neopentonate
- myristyl myristate
- decyl oleate
- octyl sterate
- octyl palmitate
- isocetyl stearate
- PPG myristyl propionate
เครื่องสำอางกลุ่มที่มีส่วนผสมของผง Mica
Mica เป็นอนุภาคแวววาว มีแผ่นเป็นหยักๆ โดยมันจะผสมอยู่ในเครื่องสำอางที่เวลาทาแล้วมันจะดูปิ๊งปั๊ง สะท้อนแสงแวววาว เช่น พวก Glitter ทาหน้า ทาตัว ซึ่งเมื่อเอามาทาที่ผิวหนังจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ดูสวยแต่เป็นสิวก็ไม่ค่อย work เท่าไรนะ
เครื่องสำอางกลุ่ม Artificial Fragrance
เครื่องสำอางกลุ่ม Artificial Fragrance หรือ พวกที่เป็นน้ำหอมสังเคราะห์ต่างๆ ซึ่งมักจะถูกผสมอยู่ในเครื่องสำอางแทบทุกชนิด เพื่อให้ดูน่าใช้ น่าทา แต่จริงๆแล้วน้ำหอมพวกนี้นั่นเอง ที่เป็นตัวการของการเกิดสิวของเรา โดยมันจะทำงานได้ดีกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย อาจจะทำให้เป็นผื่นแดง และเกิดเป็นสิวอักเสบได้ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเครื่องสำอางที่เราใช้มีพวกน้ำหอมนี้อยู่ ก็ให้หาดูคำว่า Fragrance ได้เลย ส่วนใหญ่มันจะต่อท้ายด้วยคำที่ว่านี้นั่นเอง
เครื่องสำอางกลุ่ม SLS (Sodium Laureth Sulfate)
สาร SLS เป็นสารที่มักจะผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวต่างๆ เช่น สบู่เหลว แชมพู โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน โดยมันมีความสามารถในการลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้เวลใช้จะรู้สึกว่าช่วยชะล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี แต่มันมีข้อเสียตรงที่มันจะทำให้ผิวของเราเสียสมดุลไป ทำให้ผิวหน้าของเราอ่อนแอลง อาจทำให้หน้าเราแพ้ง่ายขึ้นในระยะยาว และหากกระบวนการผลิตที่ผสม SLS ไม่ดีมีสารปนเปื้อนเข้าไป ก็อาจจะทำให้เกิดเป็นสารก่อมะเร็งตามมา สำหรับคนที่เป็นสิวแล้วก็มีหลายคนที่แพ้สาร SLS ที่ว่า คือใช้แล้วสิวเห่อ แดง ขึ้นมาเลย ใครที่กำลังใช้อยู่แล้วสิวไม่หายสักทีอาจจะเป็นเพราะตัวนี้ก็ได้นะ
เครื่องสำอางกลุ่ม Polyethylene
Polyethylene เป็นพลาสติกขนาดเล็ก มีความยืดหยุ่นสูง ผิวจะลื่นๆ มักใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางที่นำมาใช้สครับต่างๆ ที่เห็นได้ชัดก็คงเป็น โฟมล้างหน้าที่นำมาใช้สครับหน้า ซึ่งปกติการสครับหน้ามักจะทำให้เกิดการระคายเคืองอยู่แล้ว แล้วยิ่งเอาพลาสติกไปขัดหน้าอีก ยิ่งเพิ่มโอกาสการเป็นสิวมากขึ้นไปอีก
เครื่องสำอางกลุ่มของแอลกอฮอล์, เอสเทอร์, อีเทอร์
ส่วนใหญ่การใส่พวกแอลกอฮอล์เข้าไปในเครื่องสำอางต่างก็เพื่อใช้เป็นตัวทำละลายสารตัวอื่นๆ โดยเฉพาะกับตัวที่มันไม่ละลายในน้ำ และแอลกอฮอร์ยังช่วยให้สารต่างๆซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วยิ่งขึ้น แต่สำหรับคนเป็นสิวแล้ว แอลกอฮออร์คือศัตรูเลยก็ว่าได้ เพราะคนที่หน้าเป็นสิวจะไวต่อการระคายเคืองแอกอฮอร์ได้ง่ายมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีการระคายเคืองและทำให้เกิดสิวได้ง่าย เพราะฉะนั้นคนเป็นสิวควรหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อให้ไกล ตัวอย่างแอลกอฮอร์
- SD Alcohol
- Ethanol
- Ethyl Alcohol
- Methanol
- Isopropyl Alcohol
- Alcohol Denat
นี่ก็เป็นสารบางตัวซึ่งอยู่เครื่องสำอางและเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หน้าของเรา ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะแพ้นะครับ บางคนก็อาจจะแพ้แค่ 1 ตัว บางคนก็อาจจะ 2 ตัว บางคนก็อาจจะไม่แพ้เลย ซึ่งเป็นลาภอันประเสริฐมาก แล้วที่สำคัญทุกคนแพ้ไม่เหมือนกันครับ ก็อยู่ที่ว่าผิวหน้าของแต่ละคนจะตอบสนองต่อสารตัวไหนมากกว่ากัน ใช้ตัวไหนแล้วสิวอักเสบ สิวผด สิวอุดตันขึ้นก็ต้องมานั่งดูกันแล้วว่าเครื่องสำอางที่เราใช้นั้นมีส่วนผสมเหล่านี้อยู่หรือไม่ เผื่อว่าถ้าเรารู้ตัวได้เร็วจะได้ปรับเปลี่ยนแผนการใช้ครีมกันใหม่ จะได้เปลี่ยนจากหน้าสิวมาเป็นหน้าใสสักที ยังไงก็แล้วแต่ Acnedefend ก็ขอเป็นกำลังให้คนเป็นสิวทุกคนครับ สู้กันต่อไป !!!
Its pretty useful
ตอบลบ