วันนี้นั่งทำงานอยู่เพลินๆก็นึกถึงวิธีรักษาสิวแบบง่ายๆขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ผมคิดว่ามีความสำคัญและช่วยในเรื่องการรักษาสิวเป็นอย่างมาก วิธีที่ว่าก็คือ "การเปลี่ยนความคิด" ของเรา การเปลี่ยนความคิดและมุมมองต่อตัวเราเอง ผมก็ไม่รู้นะครับว่าคนที่เป็นสิวมีความรู้สึกต่อตัวเองยังไงกันบ้าง โดยเฉพาะในเรื่อง "ความมั่นใจในตัวเอง" โดยส่วนใหญ่แล้วสำหรับคนที่เป็นสิวอย่างหนักหน่วงแล้วล่ะก็ มักจะขาดความมั่นใจในตัวเองไปโดยอัตโนมัติ ผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้นที่สูญเสียความมั่นใจไปให้กับพวกสิวที่อยู่บนหน้าไปมากมาย จนบางครั้งรู้สึกว่าทำไมเราถึงต้องเป็นแบบนี้ด้วย ในขณะที่เพื่อนๆของเราที่ไม่ค่อยเป็นสิวกัน บางคนก็หน้าใสจนอดอิจฉาไม่ได้ แล้วทำไมเราถึงต้องรับกรรมในเรื่องนี้ด้วย(โทษเวรกรรมซะงั้น)
คำถามบวกกับสภาพหน้าที่เป็นสิวอย่างหนักมันเป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจ บั่นทอนความมั่นใจ บั่นทอนสภาพจิตใจของผมลงทุกวันๆ ยิ่งเวลาที่เราคุยกับเพื่อนอยู่แล้วอยู่ดีๆเพื่อนก็ทักเราว่า "ทำไมหน้านายเป็นสิวเยอะจัง ไปทำอะไรมา" คำนี้ดูเหมือนเป็นคำถามทั่วๆไปที่เพื่อนแค่อยากรู้ หรืออาจจะถามเราด้วยความห่วงใย แต่ในใจลึกๆของผมมันช่างเป็นคำถามที่ทิ่มแทงใจอยู่ลึกๆ เป็นคำถามที่ไม่อยากตอบ เป็นคำถามที่ทำให้ความมั่นใจผมลดลงจนขีดต่ำสุด ยิ่งถ้าคนที่ถามเป็นคนที่เราแอบชอบอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งทำให้เจ็บจี๊ดที่ใจโดยที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
แต่เมื่อผมมาลองคิดดูแล้ว บางทีการที่เรามีความคิดอย่างนี้ ความคิดที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ความคิดที่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ความคิดที่ท้อแท้สิ้นหวังไม่มีกำลังใจ ไม่รู้จะทำยังไงให้สิวหายไปได้ ฟังผมพูดอาจจะดูเว่อร์ บางคนอาจจะสงสัยว่าแค่เป็นสิวต้องท้อแท้สิ้นหวังขนาดนี้เลยหรอ ผมก็ไม่แน่ใจนักว่าคนอื่นๆจะคิดยังไงนะครับ แต่สำหรับผมผมรู้สึกอย่างที่บอกจริงๆ หรือว่าความคิดเหล่านี้เป็นเหมือนกำแพงที่กั้นผมไม่ให้หายจากการเป็นสิว ?
พอลองย้อนกลับไป ณ วันนั้น ก็เริ่มจะเห็นถึงสาเหตุบางอย่างที่ทำให้สิวของผมไม่หายสักที สาเหตุที่ว่าก็คือ "เรื่องความคิดที่อยู่ในใจของผม" นั่นเอง ความคิดในด้านลบต่อตัวเอง ที่ทำให้สภาพจิตใจหดหู่ ส่องกระจกทีไรก็เห็นแต่หน้าที่เป็นสิว หลุมสิวมากมายเหลือเกิน เกิดเป็นความเครียดขึ้นมาในร่างกายและจิตใจอย่างไม่รู้ตัว ยิ่งคิดก็ยิ่งจดจ่อกับมันมากเกินไป ผลสุดท้ายมันก็ส่งผลให้การรักษาสิวนั้นไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้ สิวบนหน้าของเราก็ไม่หายไปสักที
จะดีกว่ามั๊ยถ้าเราจะลองเปลี่ยนความคิดของเราดู ปรับมุมมองของเราซะใหม่ เผื่อว่าจะมีอะไรดีขึ้น เผื่อว่ามันจะเป็นอีกทางออกหนึ่งสำหรับการรักษาสิวที่อาจจะไม่ต้องมีการลงทุนด้วยเงินแต่อย่างใด แค่เพียงเปลี่ยนที่ใจของเราดู ลองทำตามคำแนะนำที่ผมจะบอกต่อไปนี้ดูก็ได้นะครับ
เปลี่ยนความคิดพิชิตสิว
คิดบวกเข้าไว้
บางครั้งการที่เรารู้สึกอาย ไม่มั่นใจในตัวเอง มันเหมือนกับเป็นความคิดด้านลบที่เกิดขึ้นมาในใจของเราโดยไม่รู้ตัว เราอาจจะคิดว่าการเป็นสิวมันทำให้ชีวิตของเราไม่ค่อยสนุก ถ่ายรูปที่หนึ่งก็ไม่กล้าโพสลง Facebook เพราะอายหน้าตัวเอง ลบ ลบ แล้วก็ลบอยู่อย่างนั้น ลองปรับความคิดซะใหม่ เปลี่ยนความคิดให้เป็นบวกดู คิดซะว่าโลกนี้มีอะไรให้เราทำอีกมากมายที่นอกเหนือกับการมาจดจ่ออยู่กับหน้าที่เป็นสิวของเรา คิดในสิ่งดีๆ ในเรื่องดีๆ พูดดี และทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทำในสิ่งที่เรารู้สึกสนุก มีความสุข และเป็นการกระทำที่ไม่ทำให้ผู้อื่นหรือตัวเราเองเดือดร้อน เปลี่ยนลบให้เป็นบวก เชื่อเถอะครับว่าอาการสิวของเราจะดีขึ้นอย่างแน่นอน บวก บวก และบวกเข้าไว้
เชื่อมั่นในตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยความมั่นใจ
การเป็นสิวอาจเป็นสิ่งที่บั่นทอนความมั่นใจของเราอย่างสูง จนบางครั้งอาจจะมีผลต่อการกระทำของเราในหลายๆเรื่อง บางเรื่องเราอยากจะทำซะเหลือเกิน แต่ติดอยู่ตรงที่หน้าของเราเป็นสิวนี่แหละ ไม่กล้าแสดงออกเพราะอายหน้าตัวเอง บางคนเสียงดีอยากเป็นนักร้อง แต่หน้าเป็นสิวก็อาจจะไม่กล้าไปประกวดร้องเพลง ก็เป็นการทำลายความฝันของตัวเองไป ลองเปลี่ยนความคิดซะใหม่ มั่นใจในตัวเองมากขึ้น ถึงแม้ว่าหน้าของเราอาจจะดูไม่ดี แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสามารถของเรา มันไม่ได้ทำให้อวัยวะส่วนอื่นๆของเราทำงานได้น้อยลง มันไม่ได้ทำให้ความเก่งในตัวของเราลดลงแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เราขาดไปก็คือความกล้าที่จะทำเท่านั้น จงกล้าและเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วสิ่งนี้แหละจะช่วยให้ปัญหาสิวของเราทุเลาลงได้ในที่สุด
อย่าใจร้อนค่อยเป็นค่อยไป
บางครั้งการที่เราเป็นสิวเยอะๆมันก็อาจจะทำให้เราทำอะไรโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดีซะก่อน เช่น มีคนมาบอกว่าใช้ครีมตัวนั้นแล้วสิวหาย หาหมอที่นั่นแล้วหน้าใส ทำโน่นนี่นั่นแล้วดี เราก็รีบทำตามคนอื่นไปโดยอาจจะลืมคิดถึงผลที่จะตามมาว่า มันจะช่วยให้สิวหายจริงมั๊ย? หรือว่าทำไปแล้วจะยิ่งแย่กว่าเดิม ลองทำวิธีหนึ่งได้แป๊ปเดียวก็เลิกเพราะไม่เห็นสิวจะหายเลย ซึ่งจริงแล้ววิธีรักษาสิวที่เรากำลังทำอยู่อาจจะดีก็ได้ แต่มันต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะเห็นผล การรักษาสิวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่แค่เดือน 2 เดือนก็หายได้ หากหน้าของเราเป็นสิวอย่างรุนแรง การรักษาสิวนั้นมันต้องการวิธีที่เหมาะสมกับตัวเรา บวกกับระยะเวลาที่พอเหมาะ มันถึงจะช่วยให้สิวหายได้ อย่าใจร้อน ค่อยๆคิดและค้นหาวิธีรักษาที่เหมาะกับตัวเราให้เจอ ทำใจให้สบายเลิกสนใจหรือเลิกส่องกระจกไปเลยก็ได้ เราจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่านจะได้มีความคิดดีดีในการรักษาสิวเกิดขึ้นมาในหัวของเรา ให้ใจเย็นๆของเราช่วยตัวเราเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
วิธีเปลี่ยนความคิดเพื่อรักษาสิวนั้น อาจไม่ได้เป็นสิ่งที่ช่วยให้สิวของเราหายได้จริง เพราะในความเป็นจริงแล้วมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ทำให้เกิดสิว ทั้งในเรื่องฮอร์โมน อาหารการกิน กรรมพันธุ์ เครื่องสำอางที่ใช้ รวมไปถึงความแตกต่างของสภาพผิวแต่ละคน ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวได้ทั้นนั้น
แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่าการปรับเปลี่ยนความคิดของเราไปในทางที่ดีขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม มันมีผลต่อการรักษาสิวบนหน้าของเราให้ดีขึ้นได้จริง มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากภายในของเรา หากเราคิดแต่สิ่งดีๆ เราก็จะแสดงออกและทำแต่สิ่งที่ดีๆมีประโยชน์ เราจะไม่ทำอะไรที่จะเป็นโทษต่อตัวเรา ไม่ทำร้ายตัวเอง มีสติอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนความคิดอาจจะไม่ได้ช่วยให้สิวหายไปได้ทั้งหมด แต่ผมคิดว่ามันจะช่วยให่การเป็นสิวของเราทุเลาลงมาบ้าง อย่างน้อยๆแค่เราไม่เครียดก็ช่วยให้สิวไม่ขึ้นได้แล้วจริงมั๊ยครับ เพราะฉะนั้นมาลองเปลี่ยนความคิดกันเถอะครับ เพื่อหน้าใสๆของเรา ^^
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น