บทความสำหรับวันนี้ก็ตามหัวข้อเลยครับ "กินยากินรักษาสิวเยอะ สิวหาย แต่ตับพัง คุ้มกันมั๊ยเนี่ย" ความจริงแล้วการกินยากินรักษาสิวนั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่หมอใช้รักษาสิวให้กับคนที่เป็นสิวอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่อันตรายแต่อย่างใดหากมีการกินยากินรักษาสิวในปริมาณที่เหมาะสมตามที่หมอได้สั่งจ่ายยาให้
แต่ที่ทำให้การกินยากินรักษาสิวนั้นเกิดอันตรายต่อร่างกายของเราขึ้นมักจะเกิดจากการที่ คนที่เป็นสิวนั้น "ซื้อยารักษาสิวมากินเอง" โดยอาจจะเคยได้รับการสั่งจ่ายจากหมอมา แต่ตอนหลังขี้เกียจหาหมอสิวก็ไปซื้อมากินอย่างที่หมอเคยจัดให้ หรือว่าเห็นเพื่อนกินแล้วสิวหายหน้าใส อยากสิวหายบ้างก็ไปกินยารักษาสิวตามเพื่อนซะ ผลที่เกิดขึ้นก็คือกินยากินรักษาสิวมากเกินไป จนทำให้กลายเป็น "โรคตับอักเสบ" ตับพังไปเลยก็มี ทีนี้เราลองมาดูเหตุผลที่ไม่ควรซื้อยากรักษาสิวกินเองสักหน่อยดีกว่า เผื่อจะได้ระวังในการกินยารักษาสิวกันมากขึ้น
ทำไม? ถึงไม่ควรซื้อยารักษาสิวกินเอง
ความต้องการยารักษาสิวของคนเราไม่เท่ากัน
ปริมาณการกินยากินรักษาสิวของคนแต่ละคนจะไม่เท่ากัน จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความรุนแรงของสิวที่เป็น ประเภทสิวที่เป็น น้ำหนักตัว ซึ่งมีผลต่อการคำนวณปริมาณการกินยากินรักษาสิวทั้งสิ้น ซึ่งคนที่จะตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดก็คือหมอรักษาสิวที่เราไปหานั่นเอง หมอจะสามารถวิเคราะห์และประเมินได้ว่า เราควรจะกินยากินรักษาสิวแบบไหน แรงมากน้อยเท่าไร กินในปริมาณเท่าไร กินนานแค่ไหน ควรหยุดกินเมื่อไร หรือเราไม่ควรกินเลย เพราะหากเรากะปริมาณยาที่กิน แล้วไปซื้อยามากินเอง ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี อย่างที่บอก "หน้าใส แต่ตับพัง" มันไม่คุ้มจริงๆ
ยากินรักษาสิวเป็นอันตรายอย่างมากต่อคนที่ตับไม่ปกติ
คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับ เช่น ตับอักเสบ หรือคนที่มีพาหะและความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้อยู่แล้ว เมื่อกินยากินรักษาสิวเข้าไปมันจะไปกระตุ้นให้เอนไซม์ในตับสูงขึ้น ทำให้ตับทำงานอย่างหนัก และตับก็จะเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว เพราะยารักษาสิวเหล่านี้จะถูกขับออกทางตับและไตเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นพอคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคตับกินยารักษาสิวเข้าไปในปริมาณที่มาก และกินติดต่อกันนาน ก็จะทำให้เป็นโรคตับอักเสบได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่มีความเสี่ยงจะไม่เป็นนะ หากกินเยอะๆนานๆสุดท้ายก็สามารถเป็นโรคตับอักเสบได้เช่นกัน
ความแรงของยากินรักษาสิวมีหลายระดับ
ยากินรักษาสิวนั้นมีให้เลือกหลายขนาด หลายความแรง และหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะในเรื่องความแรงของกินยากินรักษาสิวนั้นมีผลต่อการรักษาสิวในแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน บางคนเป็นสิวแค่กินยากินรักษาสิวอย่างอ่อนๆก็ช่วยให้สิวหายได้ แต่บางคนอาจต้องการยากินรักษาสิวที่แรงๆมากๆถึงจะส่งผลต่อการรักษาสิวของตัวเองได้ หากเราเลือกที่จะซื้อยากินรักษาสิวด้วยตัวเอง จะเป็นเรื่องที่ยากมากที่เราจะรู้ว่าเราเหมาะกับยากินรักษาสิวที่มีขนาดความแรงเท่าไร? การที่เรากินยากินรักษาสิวที่มีความแรงเท่ากับเพื่อนเรา หรือญาติเรานั้น ถ้าโชคดีก็อาจจะช่วยให้สิวหายได้อย่างต้องการ แต่จะโชคดีทุกครั้งหรือเปล่า? และเกิดเราโชคไม่ดีเลือกผิดขึ้นมา มันคงไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไปอย่างแน่นอน
ยากินรักษาสิวมีผลค้างเคียงเยอะมากๆ
ยากินรักษาสิวนั้นจัดเป็นยาที่มีผลข้างเคียงเยอะมากๆตัวหนึ่ง แล้วแต่ละอันนั้นมันดูน่ากลัวยังไงไม่รู้(ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) เอาเป็นว่าด้วยผลข้างเคียงพวกนี้ทำให้ผมไม่กล้ากินยากินรักษาสิวจริงๆ ลองมาดูกันครับว่าผลข้างเคียงจากการกินยากินรักษาสิวมีอะไรกันบ้าง
ผลข้างเคียงของยากินรักษาสิว
- ปากแห้ง ตาแห้ง
- เยื่อบุแห้ง
- ไวต่อแสงแดด
- คลื่นไส้อาเจียน
- ปวดข้อ
- หน้าแสบร้อน
- อาการทางจิตเวช
- การมองเห็นผิดปกติ
- ตับอักเสบ
- ตับวาย
- แผลทางเดินอาหาร
- โรคกระเพาะ
- เด็กในท้องพิการ
- แท้งลูก
เป็นไงบ้างครับอ่านแล้วเสียวๆกันบ้างมั๊ยครับกับการกินยากินรักษาสิว แต่เรื่องที่บอกมาทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นหากเรากินยารักษาสิวอย่างถูกต้อง นั่นก็คือกินตามที่หมอสั่ง และเข้ารับการตรวจสุขภาพ ตรวจโรคประจำตัวและความเสี่ยงก่อนที่จะกินยารักษาสิวทุกครั้ง
อย่างก่อนกินยานั้นเราต้องตรวจเลือดก่อนเพื่อจะได้รู้ว่าเราเป็นโรคที่เสี่ยงเมื่อได้รับยากินรักษาสิวหรือเปล่า เช่น ตับอักเสบ โรคไต โรคไวรัสตับบี หากเราเป็นโรคที่ว่าหรือมีความเสี่ยง หมอก็จะไม่ให้เรากินยากินรักษาสิวเป็นอันขาด เพราะมันอันตรายมากเกินไป แต่ถ้าเราไม่ไปหาหมอและซื้อยามากินเอง แล้วบังเอิญเราดันเป็นโรคหรือมีความเสี่ยงอย่างที่บอกมา คงไม่ต้องบอกว่าอนาคตสุขภาพของเราจะเป็นยังไง ก็คงไม่พ้นที่ตับจะพังอย่างแน่นอน!!! ระวังในการกินยากินรักษาสิวให้มากๆครับ เพื่อตัวเราเอง และคนที่เรารักครับ ด้วยความปรารถนาดีจาก Acnedefend
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น