Case study หน้าพังเป็นสิวเพราะครีมในเน็ต สุดท้ายหายได้เพราะหมอจากศิริราช


Case study หน้าพังเป็นสิวเพราะครีมในเน็ต

"ปัญหาสิวเห่อ หน้าพังเพราะครีมจาก Internet" ผมว่าจัดเป็นปัญหาระดับชาติเลยก็ว่าได้ มีเคสลักษณะแบบนี้ให้เห็นเต็มไปหมด คุณ LainQrus MooN เป็นหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ต้องเป็นสิวเพราะครีมที่ว่านี้ พยายามรักษาสิวด้วยตัวเองมาหลายวิธีแต่ทำยังไงก็ไม่ยอมหาย สุดท้ายตัดสินใจไปหาหมอรักษาสิว รักษาอยู่ประมาณ 1 เดือน สิวและผื่นที่หน้าหายหมด ขนาดหมอเองยังตกใจว่าทำไมหายเร็วขนาดนี้ เอาล่ะครับเกริ่นมาพอเป็นพิธีแล้ว มาติดตามเรื่องราวการรักษาสิวของคุณ LainQrus MooN แบบละเอียดยิบจากคำบอกเล่าของเจ้าตัวกันดีกว่า


ประสบการณ์สิวเห่อรอบแรก


     เคสแรก...ย้อนไปเดือนกุมภาพันธ์ 57 คือก่อนหน้านั้นเราซื้อครีมในเน็ตมาใช้ ตอนแรกๆก็ใช้ดีนะคะ หน้าใสขาวกันเป็นปีๆเลย แต่พอช่วงต้นปีเราเริ่มมีสิวอุดตันเยอะขึ้น เราเลยไปซื้อที่กดสิวมากดเอง หน้าแหกเลยค่ะ แต่ยังไม่หาหมอนะคะ เราลองหาข้อมูลตามเน็ต คิดว่าตัวเองน่าจะแพ้สารปรอท หรือสเตียรอยด์ในครีมนั้น เราจึงดีทอกซ์หน้าด้วยไข่ขาว ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก ตอนนั้นก็อืมมมม .... หน้าตึงๆ คงจะดีแหล่ะมั้ง แต่พอตื่นเช้ามาเท่านั้น หน้าเราลอก แดงเป็นปื้นๆ แสบๆ ตึงๆ ถึงขนาดอ้าปากพูดแทบไม่ได้เลยทีเดียว ตอนนั้นก็ยังไม่หาหมอนะคะ ยังมาพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง โยเกิร์ต นมสด สารพัดจะพอก ก็ไม่ดีขึ้น .... สุดท้ายไปหาหมอที่ ชำนาญคลินิก ที่เดอะมอลล์บางกะปิ ตอนนั้นคุณหมอจ่ายเป็นมอยเจอไรเซอร์ที่มันไม่ข้นแบบที่เราเคยเห็นทั่วไป หมอให้แค่ตัวนั้นมาตัวเดียวมาบำรุงอยู่ประมาณเดือนนึง หน้าก็กลับมาใสกิ๊กดังเดิม (ตอนหมอจ่ายมาตัวเดียวแบบว่า งง มาก คือเราลองสารพัดวิธี หน้าลอกเป็นดักแด้ แต่หมอจ่ายมาแค่เนี้ย ??)

ประสบการณ์สิวเห่อรอบสอง

ประสบการณ์สิวเห่อรอบสอง


     หลังจากรักษาสิวจากที่เป็นสิวครั้งแรกหายแล้ว จากนั้นมาเราก็แต่งหน้าเบาๆไปทำงานตามปกติ จนกระทั่งเดือนมิถุนายน เราต้องไปทำงานที่สิงห์บุรี (ปกติไปต่างจังหวัดเราจะไม่แต่งหน้า จะไม่ทาอะไรนอกจากครีมกันแดด) ตอนนั้นอากาศร้อนมาก ถึงมากที่สุดค่ะ มีทากันแดดซ้ำ รู้สึกไม่สบายหน้าเท่าไหร่ เริ่มมีคันๆตามซอกคอ ไรผม ข้างแก้ม ก็ไม่ได้เกานะคะ จนตกเย็นอาบน้ำ เริ่มรู้สึกเหมือนมีสิวที่เป็นไตๆอยู่ข้างใน จากนั้นเป็นต้นมา หน้าเรามันขึ้นมาก เรียกว่าอาบน้ำเสร็จไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หน้าก็มันถึงขึ้นทอดไข่ได้เลย และก็มีสิวขึ้นบริเวณที่เราคัน ขึ้นติดๆกันเป็นแผงเลยค่ะ หน้าดำไหม้ๆ ทั้งยังมีรอยดำที่เกิดจากสิวทั้งที่เราไม่ได้แกะหรือบีบ ตกช่วงบ่ายช่วงบริเวณแก้จะมีผดขึ้นและแดงเป็นปื้น (รอบนี้เพราะทิ้งที่กดสิวตั้งแต่หน้าแหกตอนนั้น ) ทีนี้เราเปลี่ยนทุกอย่างค่ะ เปลี่ยนแชมพูเป็นแบบอ่อนโยน เปลี่ยนสบู่ล้างหน้าจากเซตาฟิลที่ว่าอ่อนโยนมาเป็นแอคเน่เอด และซื้อ Benzac 2.5% มาใช้ก็ยังไม่ดีขึ้น แถมยังคันยิบๆ เลยเปลี่ยนมาใช้ skinnoren ก็ไม่มีความคืบหน้า เปลี่ยนกันแดดจากบีโอเรเป็น spectraban SPF 60 และซื้อโลชั่นทาสิวของ ดร.สมชายมาใช้ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หน้ายังมันดำเช่นเดิม จนกระทั่งบ่นๆกับน้องที่ทำงาน ว่าจะไปหาหมอที่ศิริราช เพราะไม่ไหวกับหนังหน้าตัวเองมากๆ น้องเลยแนะนำให้ไปหาหมอที่ เสนาเวชการคลินิก ให้ไปวันที่หมอวรวิทย์เข้าเวร น้องว่าหมอคนนี้ก็มาจากศิริราชเหมือนกัน และที่นี่ราคาไม่แพง เราก็ไม่รีรอค่ะ หาเบอร์โทร หาแผนที่ไปคลินิก โทรไปถามว่าหมอลงวันไหนบ้าง (ลง 3 วัน แต่จำได้แค่อังคารกับเสาร์) เราไปหาหมอวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2557

พบหมอวรวิทย์


 ...... พบหมอ หมอเอาไฟส่องหน้า แล้วบอกว่าตอนนี้สิวเรามีทั้งสิวผดและสิวอุดตัน ในส่วนของสิวผดมีทั้งที่เกิดจากการแพ้และจากเชื้อแบคทีเรีย หมอจึงให้ยาฆ่าเชื้อเรามากิน 5 วัน พร้อมกับยาทาอีก 3 ตัว คือ

  • ยาน้ำยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย SCGM
  • เจลลดสิว B-ACNE ทาหลังล้างหน้าเช้า – เย็น
  • ครีมลดสิวอุดตัน SAC (ตัวนี้ค่อนข้างมีกลิ่นแรง ตัวยาสีเหลือง เวลาทาจะสากนิดๆ)


     ยาตัวสุดท้ายหมอย้ำว่าดูดีๆนะ หมอให้ทาก่อนนอน ไม่ใช่หลังล้างหน้า มันจะมีทาหลังล้างหน้ากับทาก่อนนอน แล้วก็อีกซัก 2-3 อาทิตย์ค่อยมาหาหมอใหม่ ยาที่ให้ไป ทาบางๆ ทางให้ได้เดือนนึงนะ แล้วงดของทอด ของมัน งดช็อคโกแลต งดทุกสิ่งที่จะไปกระตุ้นฮอร์โมน และอย่านอนดึก เราก็รับทราบ...ค่ะๆ แล้วออกไปจ่ายค่ายา ราคายาค่อนข้างน่าตกใจ ที่ตกใจนี่ไม่ใช่แพงนะคะ แต่ค่อนข้างถูกมากเลยที่เดียว วันนั้นยากิน 1 ยาทา 3 ค่าเสียหาอยู่ที่ 565 บาทค่ะ อ้อ !! ก่อนออกมาหมอถามเราว่าทำไมมาหาหมอที่นี่ มาไกลด้วยนะ (เรามาจากบางกะปิ จริงๆก็ไม่ไกลมากเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่มีรถ ค่อนข้างไปลำบาก) เราเลยบอกว่าน้องที่ทำงานแนะนำมา เพราะตอนแรกเราจะลางานไปหาหมอที่ศิริราชแล้ว หมอบอก หมอก็มาจากศิริราช ยาที่นี่ก็สูตรเดียวกับศิริราช

     ขอเสริมอีกนิดนึงค่ะว่า หมอถามว่าออกตจว.บ้างมั้ย เราบอกว่าออกบ้าง เฉลี่ยเดือนละครั้ง ครั้งละ 2-3 วัน ... หมอเลยบอกให้ติดน้ำโพลาลิสไปด้วย เอาไว้ล้างหน้าแทนน้ำจากก๊อก เพราะบางทีเราอาจจะแพ้น้ำจากที่นั่นก็ได้ บางที่อาจเป็นน้ำบาดาล ไม่ใช่น้ำประปาอย่างในกรุงเทพฯ


3 สัปดาห์สิวหายไวเหมือนโกหก

3 สัปดาห์สิวหายอย่างเหลือเชื่อ


     หลังจากนั้นเราทำตามคำแนะนำหมอทุกอย่าง ก็ไม่ได้สังเกตอะไร จนกระทั่งไปต่างจังหวัด แล้วเอามือถือมาเซลฟี่ ก็รู้สึก เฮ้ย!! หน้าฉันดีขึ้นนะ ดีขึ้นมากๆเลยด้วย (หาหมอ 21 ต.ค. ไปตจว. 29 ต.ค.) พอเข้าอาทิตย์ที่ 3 (4 พ.ย.) เราไปหาหมออีกครั้ง หมอบอกหน้าดีขึ้นมาก ไม่คิดว่าจะดีขึ้นเร็วแบบนี้ หมอถามว่าระหว่างที่ให้ยาไปเป็นไงบ้าง เราว่าสิวมันก็มีหัวหนองเล็กๆ ขึ้นมา แล้วก็แห้งหลุดไป หมอบอกงั้นเราก็มาถูกทางแล้ว ตอนนี้หน้าก็เคลียร์เกือบหมดแล้ว ก็ทายาตัวเดิมต่อไป ควบคู่กับการจัดการรอยดำ หมอจะให้ลดรอยดำเพิ่มอีกตัว แล้ววันไหนว่างๆ มากก่อนทุ่มนึง ก็มาทำโฟโนเคลียร์ผิวบ้าง .... จบการหาหมอในวันนั้น หมอไม่ได้นัดอะไร เราเห็นว่าเวลายังเหลือจึงเข้าไปทำโฟโน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ทำแล้วรู้สึกสบายหน้าดีค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ถามว่าโฟโนคืออะไร คิดเอาเองต่อจากคำที่หมอบอกว่าเคลียร์ผิว มันก็คงจะคือการเคลียร์ผิวให้สะอาดขึ้น ทำให้เห็นผิวจริงเราว่าเป็นแบบไหน (มั้ง) แต่ขอบอกว่าออกมาจากร้านด้วยความแฮปปี้ค่ะ แม้หน้าจะยังมีรอยดำอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีสิว ไม่มีผื่นขึ้นที่หน้าแล้วค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่าอาจจะหาหมอที่นี่เดือนละครั้ง คล้ายๆกับฝากหน้าไว้ให้แพทย์ดูแล เผื่อถ้าเกิดเราแพ้หรือเป็นอะไร จะได้ไม่ลองผิดลองถูกจนหน้าแหกอีกค่ะ


มุมมองผ่าน Acnedefend


 สำหรับเคสปัญหาสิวของคุณ LainQrus MooN เป็นเคสที่พบเจอบ่อย ส่วนใหญ่จะเกิดจากการแพ้ครีมที่อาจมีส่วนผสมไม่พึงประสงค์ หรือเป็นครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้ช่วงแรกๆผิวหน้าจะเนียนใส สิวหายหน้าเรียบ แต่พอใช้ไปนานๆหรือหยุดใช้อาการสิวหรืออาการแพ้ต่างๆก็จะค่อยๆแสดงออกมา บางคนเป็นหนักถึงขนาดที่ว่าโครงสร้างผิวหน้าผิดเพี้ยนไป จากที่ใช้อะไรไม่ค่อยแพ้ก็แพ้กระจุยกระจายก็มี ซึ่งในเคสของคุณ LainQrus MooN นี้ต้องบอกเลยว่ามาถูกทาง ได้รับการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์เฉพาะทาง ส่งผลให้อาการแพ้สิวเห่อหายได้อย่างรวดเร็ว 1 เดือนหายถือว่าไม่ธรรมดา

Case study ที่ยกมาในวันนี้ไม่ได้ต้องการโฆษณาให้ใคร หากแต่เป็นเรื่องราวจากประสบการณ์ของคุณ LainQrus MooN ที่อยากเอามาแชร์เพื่อเป็นเรื่องเตือนใจสำหรับคนที่ชอบลองครีมแปลกๆ หรือครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงการบอกเล่าแนวทางการรักษาสิวที่น่าสนใจ เผื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาเหมือนๆกัน สุดท้ายนี้ขอขอบคุณประสบการณ์การรักษาสิวดีๆจากคุณ คุณ LainQrus MooN มา ณ ที่นี้ ที่ได้แบ่งปันเรื่องราวและรูปภาพสำหรับบทความ Case study นี้ และผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกๆคนครับ

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

3 ความคิดเห็น :

  1. ขอบคุณนะคะ ตอนนี้หน้ากำลังแพ้ครีมรกแกะ จะไปหาหมอบ้างค่ะ

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ