เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา(25/11/2557) รายการตีสิบได้สัมภาษณ์คุณหญิง สาวสวยคนหนึ่งซึ่งหน้าเกือบพังเพราะครีมจากตลาดนัด เป็นสิวทุกชนิดทั้งสิวผด สิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวหัวช้าง เป็นชนิดที่ว่าใบหน้าแทบไม่มีที่ว่างเหลือเลย ส่องกระจกทีไรต้องร้องไห้แทบทุกครั้ง
วันนี้ Acnedefend ก็เลยอยากนำเสนอเรื่องราวการเกิดสิวของคุณหญิงโดยขอสรุปจากบทสัมภาษณ์มาให้อ่านกันเพื่อเป็นอุทาหรณ์ หรือสิ่งเตือนใจสำหรับคนที่กำลังคิดอยากลองครีมหน้าขาวตามตลาดนัดอยู่
เรื่องเล่าก่อนซื้อครีมมาใช้
เริ่มแรกเดิมที่คุณหญิงเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้ากลางๆ คือไม่ได้ขาวมากแต่ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร มีสิวขึ้นบ้าง กระบ้างนิดหน่อย รูขุมขนกว้าง และปัญหาผิวไม่สม่ำเสมอเล็กน้อย แต่ธรรมชาติของมนุษย์เราย่อมอยากให้ใบหน้าดูขาวใสดูดีขึ้นด้วยกันทั้งนั้น คุณหญิงก็เช่นเดียวกัน พอรู้ว่าเพื่อนใช้ครีมตัวหนึ่งแล้วช่วยให้หน้าใสขึ้นก็เลยอยากลองใช้บ้าง และนี่คือเรื่องที่เปลี่ยนชีวิตคุณหญิงไปเลยก็ว่าได้
ครีมตลาดนัดกระปุกละ 300 บาท
หลังจากที่คุณหญิงรู้ว่าเพื่อนไปซื้อครีมกระปุกละ 300 บาทที่ตลาดนัดมาใช้แล้วช่วยให้หน้าขาวใสก็เลยตัดสินใจไปซื้อมาลองใช้บ้างโดยที่ไม่ได้หาข้อมูลหรือเอะใจแต่อย่างใด ใช้ไปได้ 1 อาทิตย์ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รูขุมขนดูเล็กลง หน้าขาวขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น พอผิวหน้าดีขึ้นแบบติดจรวดคุณหญิงก็เริ่มกลัวว่าครีมตัวนี้มันจะมีสารอันตรายหรือเปล่าก็เลยลองไปหาข้อมูลจากใน Internet ก็ไปเจอคนที่ใช้ครีมตัวเดียวกันมา review บอกว่าครีมตัวนี้ผสมสารปรอท เวลาใช้ต้องค่อยๆลดปริมาณการใช้ลงเรื่อยๆเพื่อไม่ให้หน้าเกิดอาการแพ้ คุณหญิงได้อ่านก็ตกใจแต่ก็ตัดสินใจใช้ครีมจากตลาดนัดตัวนี้ต่อไปอีก 3 สัปดาห์ 1 เดือนผ่านไปครีมหมดกระปุกก็เลยตัดสินใจหยุดใช้
1 เดือนผ่านไปสิวเริ่มปะทุ
หลังจากเลิกใช้ครีมจากตลาด 1 เดือนผ่านไป หน้าคุณหญิงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเริ่มจากหน้าแดงผิดปกติ เริ่มมีผดผื่นเล็กๆขึ้นที่หน้า จากเม็ดเล็กเม็ดน้อยก็เริ่มใหญ่และขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ลามไปเป็นสิวอักเสบ สิวหัวช้างขนาดใหญ่เต็มหน้าไปหมด เป็นสิวชนิดที่ว่าหน้าแทบไม่มีที่ว่างเหลือเลย ไปฝึกสอนนักเรียนนักเรียนเรียกคุณหญิงว่าครูหน้าสิว คนรู้จักพอเห็นหน้าก็ถามตลอดว่าไปทำอะไรกับหน้ามาสิวถึงขึ้นเยอะขนาดนี้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้สร้างความทุกข์ใจให้คุณหญิงเป็นอย่างมากจนทำให้เธอไม่อยากออกไปพบปะผู้คน หลังเลิกงานก็จะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องแม้แต่ข้าวเย็นยังต้องให้เพื่อนซื้อมาส่งให้ เรียกได้ว่าใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ว่ามันปวดใจขนาดไหน
สุดทนจนต้องไปหาหมอ
เมื่ออาการสิวบนหน้ามันลุกลามใหญ่โตขนาดนี้คุณหญิงจึงตัดสินใจไปหาหมอผิวหนัง พอหมอตรวจใบหน้าเสร็จก็บอกกับคุณหญิงว่าเธอโดนมาหนัก รูขุมขนเกิดการอักเสบ ต้องใช้เวลารักษานานกว่าสารปรอทที่สะสมอยู่ผิวจะออกมาหมด ต้องใจเย็นๆอย่าเครียด ไปหาหมอได้ 3 สัปดาห์ตัดสินใจหยุดหาหมอเปลี่ยนมารักษาสิวด้วยตัวเองเพราะไม่มีเวลา ต้องเดินทางไปหาหมอไกล รอคิวนาน
เริ่มรักษาสิวด้วยตัวเอง
เมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้วคุณหญิงตัดสินใจลองรักษาสิวด้วยตัวเอง โดยวิธีที่ใช้ในการรักษาสิวนั้นสรุปออกมาเป็นข้อๆได้ดังนี้
- ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์เวชสำอางค์
- เช็ดทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำเกลืออีกที
- คุมอาหาร ลดอาหารมัน
- ออกกำลังกาย ดื่มน้ำมาก
- งดแต่งหน้าเพราะกลัวแพ้
นี่คือสิ่งที่คุณหญิงในระหว่างที่พยายามรักษาสิวด้วยตัวเอง 1 ปีผ่านไปผิวหน้าดีขึ้นมาก ดีขึ้นมาประมาณ 80% แต่ก็ยังมีสิวขึ้นอยู่บ้างขึ้นอยู่กับปัจจัยในแต่ละวัน ถ้าดูจากในคลิปจะเห็นว่าหน้าใสขึ้นมากจริงๆ หากเทียบกับตอนที่สิวปะทุหนักๆแล้วแทบจะดูไม่ออกเลยว่าเป็นคนคนเดียวกัน
มุมมองผ่าน Acnedefend
เรื่องอาการแพ้ สิวเห่อเพราะครีมผสมสารปรอทหรือสเตียรอยด์ เป็นเรื่องที่ยังเห็นได้เรื่อยๆ และเชื่อว่ายังมีคนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกันกับคุณหญิงอีกมาก ถ้าคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้ หรืออย่างตัวผมเองที่ต้องเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องสิวทุกวันจะรู้เลยว่ามันเยอะจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว คือผมเข้าใจคนที่เป็นสิวสเตียรอยด์แบบนี้นะครับเพราะแม่ผมท่านก็เป็นมาก่อน เป็นหนักกว่าคุณหญิงหลายเท่า รักษาจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว สุดท้ายปล่อยไปตามธรรมชาติหน้าจึงค่อยๆดีขึ้น จนเดี่ยวนี้กลายเป็นคนผิวแพ้ง่ายไปเลย ใครสนใจอ่านเรื่องราวการรักษาสิวสเตียรอยด์ของแม่ผมตามไปอ่านได้ที่บทความนี้ครับ Case study การรักษาสิวของแม่กับการเกิดสิวสเตียรอยด์แบบไม่รู้ตัว
สุดท้ายนี้อยากฝากเรื่องการซื้อครีมมาใช้ ทั้งครีมหน้าขาวหรือแม้กระทั่งครีมที่บอกว่าใช้แล้วช่วยให้สิวหายได้นั้นคิดให้ดีก่อนซื้อครับ ผมไม่คิดว่าครีมเหล่านี้จะดีไปกว่ายารักษาสิวที่ได้มาตรฐานจริงๆ แค่ยารักษาสิวที่ขายตามร้านขายยาก็สามารถช่วยรักษาสิวให้หายได้แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมแปลกๆ ครีมหน้าใสขั้นเทพแต่อย่างใด แต่ถ้าจะให้ดีก็ไปปรึกษาหมอผิวหนังโดยตรง ให้หมอดูอาการให้จะดีกว่า เพราะบางทีเราอาจไม่โชคดีเหมือนคุณหญิงหรือแม่ผมที่รักษาสิวด้วยตัวเองจนหายก็ได้ เป็นเรื่องที่น่าคิดจริงมั้ยครับ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น