จากที่ได้เกริ่นนำมาจากบทความที่แล้ว ที่ว่าด้วยการเลือกใช้ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว จากที่เราได้รู้ข้อดีและความจำเป็นของการใช้ครีมกันแดด ทั้งสำหรับคนทั่วๆไปและคนเป็นสิว
วันนี้กับบทความนี้จะเป็นบทความที่ตรงกันข้ามกับบทความที่ผ่านมา เป็นบทความที่ว่าด้วยเรื่อง "เพราะอะไร? ทำไมเราถึงไม่ควรใช้ครีมกันแดด?" ฟังดูทะแม่งๆขัดกับความรู้สึกกันบ้างมั๊ยครับ ซึ่งผมคิดว่าคงมีหลายคนที่อาจจะสงสัยว่าแดดเมืองไทยร้อนขนาดนี้ ถ้าไม่ใช้ครีมกันแดดทาผิว ทาหน้าก่อนออกจากบ้าน หน้าก็ดำ ไหม้ เกรียม หมดน่ะสิ
แน่ใจหรือว่าใช้ครีมกันแดดแล้วดี?
สำหรับคำถามนี้บอกตามตรงว่าถ้าให้ผมตอบนั้น ผมขอตอบว่าผมก็ไม่แน่ใจนัก ทั้งๆที่ผมก็รู้มานะว่าถ้าเราไม่ใช้ครีมกันแดด แล้วเราต้องไปเจอแสงแดดจัดๆ แรงๆ ในอนาคตเราอาจจะกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ไม่รู้ว่าความรู้นี้ได้มายังไง ถ้าจำไม่ผิดอาจจะได้ตอนเรียนวิชาสุขศึกษามาก็เป็นไปได้ ถึงตอนเรียนจะรู้มาอย่างนั้น แต่พอได้ใช้ครีมกันแดดจริงๆผมกลับไม่ค่อยชอบสักเท่าไร เพราะผมใช้แล้วรู้สึกว่า มันทำให้ผมเป็นสิวมากขึ้น นี่คงเป็นความไม่แน่ใจต่อคำถามที่ถามข้างต้น
แต่สำหรับคำตอบในหนังสือเล่มนี้ บอกเลยว่า "การใช้ครีมกันแดดทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ" ได้มากมายอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ขอแบ่งความเสี่ยงที่ว่าออกเป็นข้อๆดังต่อไปนี้
ครีมกันแดดทำให้เราเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่ายขึ้น
แค่ข้อแรกก็เรียกได้ว่าขัดกับความรู้ความเข้าใจที่มีมาตลอด 20 ปีมานี้ยังสิ้นเชิง จากที่เคยเชื่อมาโดยตลอดว่าครีมกันแดดช่วยป้องกันผิวเราจากการเป็นมะเร็งผิวหนัง แต่หนังสือเล่มนี้กลับบอกผมว่า การใช้ครีมกันแดดมากๆจะทำให้เราเป็นมะเร็งผิวหนัง โดยเหตุผลของเรื่องนี้ก็คือ มีงานวิจัยออกมาว่ารังสี UV ที่มาพร้อมกับแสงแดด สามารถเปลี่ยนคอเลสเตอรอลที่อยู่ใต้ผิวหนังให้เป็นวิตามินดี ซึ่งวิตามินดีนี้เองที่สามารถช่วยป้องกันการเกิดและแพร่กระจายของเชื้อมะเร็งในร่างกายของเรา
ดังนั้นหากเราทาครีมกันแดดที่ผิวของเรา ผิวหนังของเราก็จะได้รับแสงแดดน้อยลง การสร้างวิตามินดีในร่างกายก็น้อยลง ซึ่งจะมีผลทำให้เราอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากขึ้นนั่นเอง
ครีมกันแดดทำให้ผิวเหี่ยว หน้าเหี่ยว แก่ก่อนวัย
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ขัดกับความรู้สึกของผมเอามากๆ เพราะผมมักจะคิดเสมอว่า หากเราโดนแดดเผามากๆผิวเราก็จะแห้ง กรอบ และทำให้ผิวเราเหี่ยวแก่ก่อนวัยอันควร แต่สิ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ ยิ่งเราทาครีมกันแดด จะยิ่งทำให้หน้าเราเหี่ยวและแก่เร็วยิ่งขึ้น โดยหนังสือได้ให้เหตุผลว่า แสงแดดหรือแสง UV ที่รังสีของแสงอยู่ในช่วง 313 nm สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวของเราได้ ช่วยให้ผนังเซลของเราแข็งแรง เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจน และช่วยในการขับสารพิษมากขึ้น ทำให้ผิวของเราชุ่มชื้น มีสุขภาพดี ไม่เหี่ยวย่นง่าย
ดังนั้นถ้าเราใช้ครีมกันแดดทาผิวอยู่ตลอดเวลา ก็จะเป็นการปิดกั้นแสงแดดที่จะทะลุเข้าสู่ผิวของเรา ทำให้ผิวของเราไม่ได้รับการกระตุ้นจากแสงแดดที่มีรังสีของแสงอยู่ในช่วง 313 nm ซึ่งอาจมีผลทำให้ผิวของเราสร้างคอลลาเจนได้ไม่ดีท่าทีควร อาจทำให้ผิวของเราเหี่ยวแห้ง และทำให้หน้าแก่ก่อนวัยได้
ครีมกันแดดอาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่นๆเพิ่มเติม
โรคที่เกิดจากการที่เราได้รับแสงแดดน้อยเกินไป
- มะเร็งผิวหนัง
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
- เบาหวาน
- หัวใจ
- โรคกระดูกพรุน
- ไข้หวัดใหญ่
โดยความเสี่ยงที่ว่าไม่ได้เกิดจากสารเคมีที่อยู่ในครีมกันแดดไปทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนะครับ แต่เป็นความเสี่ยงจากการที่เราใช้ครีมกันแดดแล้วทำให้เราสร้างวิตามินดีในร่างกายได้น้อยลง เมื่อวิตามินดีในร่างกายมีน้อย ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จึงอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่ได้บอกไว้ข้างต้นได้ครับ
ถ้าอย่างนั้นเราไม่ควรใช้ครีมกันแดดเลยหรือ?
ถ้าให้ตอบตามความเข้าใจในหนังสือที่ได้อ่านมาก็คงต้องตอบว่าใช่ เพราะการใช้ครีมกันแดดเหมือนเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและความเสี่ยงต่อการทำให้หน้าเราเหี่ยวย่น แต่ในหนังสือก็บอกว่าการรับแสงแดดที่มากเกินไปก็อาจทำให้เราเกิดอาการไหม้แดด และอาจทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังด้วยเช่นกัน(ตกลงเอาไงกันแน่เนี่ย) ซึ่งข้อมูลในหนังสือไม่สนับสนุนให้เราทาครีมกันแดดเลยก็ว่าได้
แล้วเราเอาไงกับชีวิตดี?
จากที่จับใจความจากหนังสือเล่มนี้ได้ ผู้แต่งได้แนะนำเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับแสงแดดไว้ดังนี้
- อย่าไปกลัวแสงแดดมากเกินไป ให้เราออกไปรับแสงแดดบ้าง เพราะแสงแดดมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ควรรับแสงแดดที่แรงจัด และรับนานจนเกินไป ต้องรับแสงแดดให้พอเหมาะ โดยให้เลือกในเวลาที่แดดไม่แรงมาก และรับแสงแดดพอให้รู้สึกว่าผิวของเรามีสีชมพู ไม่รู้สึกว่าแสบร้อนผิวมากเกินไป โดยช่วงแรกๆอาจใช้เวลาในการผึ่งแดดน้อยหน่อย จากนั้นค่อยๆเพิ่มเวลาให้นานขึ้น จนผิวกลายเป็นสีแทน ซึ่งเป็นผิวที่ดีต่อสุขภาพ สามารถช่วยป้องกันการเกิดผิวไหม้แดดเวลาเจอแดดจัดๆได้
- ถ้าไม่ให้ใช้ครีมกันแดดแล้วใช้อะไรดี จากข้อมูลในหนังสือบอกไว้ว่า การใช้น้ำมันมะพร้างชะโลมผิวก่อนออกจากแดด จะช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันและลดอาการไหม้แดดของผิว แต่ข้อควรระวังสำหรับสาวๆหนุ่มๆที่ไม่ชอบผิวคล้ำ เพราะน้ำมันมะพร้าวจะทำให้ผิวของเรากลายเป็นผิวสีแทนได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้ผิวขาวๆของเรา คล้ำลงได้ง่ายนั่นเอง(แทนไม่เท่ากับดำนะครับ)
ในความคิดผมเกี่ยวกับการใช้ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวนั้น ก็อย่างที่เคยบอกไปว่าไม่ค่อยสนับสนุนให้คนที่เป็นสิวเยอะๆใช้ อยากให้รักษาสิวให้หายก่อน ค่อยกลับมาใช้อีกก็ยังไม่สาย (ยกเว้นคนที่ต้องใช้พวดกรดวิตามิน A นะครับ ที่ผมคิดว่ายังจำเป็นต้องใช้อยู่) แต่สำหรับคนที่มีผิวหน้าที่ไม่แพ้ง่าย เป็นสิวประปราย และคิดว่าครีมกันแดดที่ใช้ไม่ได้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวของเรา ก็ใช้ต่อไปได้ครับ (เว้นแต่ว่าบางคนที่เห็นด้วยกันแนวคิดในหนังสือเล่มนี้)
แต่โดนส่วยตัวแล้ว ผมเป็นคนไม่ชอบใช้ครีมกันแดดครับ หนึ่งก็คือผมรู้สึกว่าทาแล้วมันหนักๆหน้า สองก็คือรู้สึกว่าทาแล้วทำให้เป็นสิวง่าย สามคือผมไม่ค่อยได้ออกไปเจอแดดแรงๆสักเท่าไร และสี่คือผมแอบเชื่อแนวคิดของหนังสือเล่มนี้อยู่เหมือนกัน แต่คนเรามีสิทธิ์ที่จะคิดและชอบในสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าใช่ นานาจิตตังครับ อย่างบทความนี้ผมก็แค่ต้องการแชร์ข้อมูลเรื่องครีมกันแดดอีกมุมหนึ่งที่ผมเคยอ่านมาให้กับผู้อ่านคนอื่นๆได้อ่านดูบ้างเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าให้เชื่อตามข้อมูลในหนังสือนะครับ ก็อย่างที่บอกเราเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า ควรเชื่อ หรือไม่ควรเชื่อ ทำตามหรือไม่ทำตาม เรามีสิทธิ์เลือกจริงๆครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณหนังสือดีดีของท่าน ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา กับหนังสือ รู้ไว้...ไม่โง่ มาไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ใครสนใจอ่านฉบับเต็มไปหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป ส่วนผมซื้อที่ SE-ED งามวงศ์วานครับ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น