นาฬิกาชีวิตกับการรักษาสิว เรื่องที่ไม่ลองคงไม่รู้ว่าช่วยให้สิวหายได้จริงหรือเปล่า?


นาฬิกาชีวิตกับการเกิดสิว

"นาฬิกาชีวิตกับการรักษาสิว" เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผมอยากเขียนถึงมากที่สุด เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอาจไม่รู้สึกว่าเกี่ยวกับเรื่องสิวสักเท่าไร เพราะมันไม่มีเนื้อหาส่วนไหนที่บอกว่าช่วยรักษาสิวได้เลย แต่ในความรู้สึกของผมนั้นนาฬิกาชีวิตเรือนนี้มันมีของดีที่รอให้เราเข้าไปค้นหาซ่อนอยู่ เป็นวิธีที่ไม่รู้ว่าทำแล้วจะช่วยลดการเกิดสิวได้จริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆถ้าเราเข้าใจและทำได้ สุขภาพของเราต้องดีขึ้นแน่นอน


นาฬิกาชีวิต คืออะไร?


จากที่ผมได้ลองค้นหาข้อมูลมาเค้าบอกไว้ว่า ในร่างกายของคนเรามีนาฬิกาที่คอยควบคุมการใช้ชีวิตของเราอยู่ นาฬิกาชีวิตเรือนนี้จะคอยบอกเราว่าเวลานี้เราควรทำอะไร เวลานี้เราไม่ควรทำอะไร ถ้าเราทำอย่างที่นาฬิกาชีวิตบอกจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา? แล้วถ้าไม่ทำล่ะจะเกิดผลเสียอย่างไร? อยากให้ทุกคนลองอ่านเรื่องนี้ดู ไม่แน่นะมันอาจจะเป็นวิธีรักษาสิวที่เราตามหามานานก็เป็นไปได้ ลองดูช่วงเวลาดังต่อไปนี้ มันคือช่วงเวลาของการใช้ชีวิตที่ดีของเรา

01.00-03.00 น. หลับนอนให้สนิท


ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เราควรเข้านอนและหลับให้สนิทที่สุด ตี 1 - ตี 3 นี้ เป็นเวลาการทำงานของตับ ซึ่งมีหน้าที่ขับถ่ายสารพิษ ผลิตอินซูลิน และผลิตน้ำดีเพื่อเอาไว้ย่อยไขมัน ซึ่งถ้า ณ เวลานี้เรายังไม่ยอมหลับยอมนอน ตับของเราก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ แทนที่จะเอาพลังงานมาทำหน้าที่ที่ควรทำ กลับต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในส่วนอื่นๆอีก ซึ่งแน่นอนผมเสียที่ตามมาก็คือร่างกายเราจะกำจัดของเสียได้ไม่ดี ผลิตอินซูลินได้น้อย ถ้านอนดึกบ่อยๆก็อาจส่งผลให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เบาหวาน โรคหัวใจ และอีกหลายโรคตามมาได้

03.00-05.00 น. ตื่นนอนได้แล้ว


ช่วงเวลาตี 3 - ตี 5 เป็นช่วงเวลาที่เราควรลุกจากที่นอนขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวทำกิจวัตรประจำวัน เป็นช่วงเวลาการทำงานของปอดที่จะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ถ้าเราตื่นนอนขึ้นมาเวลานี้ก็จะช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ทำให้การขับถ่ายของเสียมีประสิทธิภาพ และว่ากันว่าถ้าเราตื่นนอนในช่วงเวลานี้เป็นประจำจะช่วยให้ผิวพรรณของเราผ่องใส มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นอีกด้วย

05.00-07.00 น. ออกกำลังกายยามเช้า


การออกกำลังกายตอนเช้าจะช่วยให้เราได้บริหารลำไส้ไปในตัว ช่วยให้เราการขับถ่ายของเราดีขึ้น ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาของการขับถ่าย ถ้าเราขับถ่ายคล่อง ท้องไม่ผูก แน่นอนว่าเราก็ไม่ต้องมานั่งเครียดกับอาการท้องผูก และที่สำคัญสำหรับคนเป็นสิวก็คือ ถ้าท้องไม่ผูกก็สามารถช่วยลดปัญหาสิวสำหรับบางคนได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวที่คางบ่อยๆ น่าจะลองออกกำลังกายตอนเช้าดู เผื่อช่วยแก้ปัญหาสิวที่เกิดขึ้นได้บ้างครับ

07.00-09.00 น. กินข้าวเช้าอย่าให้ขาด


อาหารเช้าเป็นอาหารมื้อสำคัญที่สุด เพราะเป็นมื้อที่เป็นแหล่งพลังงานสำหรับการทำเริ่มทำกิจวัตรประจำวันของคนเรา ซึ่งตรงกับการทำงานของนาฬิกาชีวิตที่บอกไว้ว่าช่วงเวลา 7 โมง - 9 โมงเช้า เป็นเวลาที่กระเพาะอาหารทำงานได้ดีที่สุด ย่อยอาหารได้มีประสิทธิภาพสูงสุด นั่นหมายความว่าถ้าเรากินอาหารที่เป็นประโยชน์เข้าไป ก็จะช่วยให้เราได้รับสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ แล้วถ้าเราไม่ยอมกินข้าวเช้าจะเกิดอะไรขึ้น ผลที่ตามก็คือกระเพาะอาหารไม่มีอะไรให้ย่อย ก็ย่อยตัวเองไป สารอาหารก็ไม่ได้รับ ไม่มีพลังงานไปใช้ต่อสู่ในชีวิตประจำวัน เป็นที่มาของโรคกระเพาะและโรคอื่นๆที่จะตามมาอีกเพียบ


09.00-11.00 น. ห้ามเครียด


ว่ากันว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ม้ามกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น ม้าทำหน้าที่เก็บพลังงานสำรอง ควบคุมเม็ดเลือดและไขมัน สร้างน้ำเหลือง และกรองเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายทุกชนิด ถ้าเราเกิดความเครียดในช่วงเวลานี้จะทำให้ม้ามอ่อนแอ ทำงานได่ไม่เต็มที่  ถ้าเป็นผู้หญิงจะทำให้มดลูกบวมหรือหย่อน ถ้าเป็นผู้ชายจะส่งผลต่อต่อมลูกหมาก เครียดมากไม่ดีนะครับ (แม้แต่จะเครียดยังต้องเลือกเวลา)

11.00-13.00 น. หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ


เป็นช่วงเวลาที่หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดี  เป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรเกิดความเครียด หรือเรื่องที่ทำให้ตกใจอย่างแรง เพราะจะทำให้หัวใจทำงานหนัก ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้

13.00-15.00 น. งดกินอาหาร ขนม งดกินจุ๊กกินจิ๊กชั่วคราว


ช่วงเวลาบ่ายโมงถึงบ่ายสามโมงนี้ เป็นช่วงเวลาที่ลำไส้เล็กกำลังทำงานอย่างหนักอยู่ หน้าที่ของลำไส้เล็กคือ ดูดซึมอาหารที่เป็นน้ำ เช่น วิตามินบี ซี และโปรตีนเพื่อนำไปสร้างกรดอมิโนเพื่อใช้ในการสร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สำหรับผู้หญิงจะช่วยในการสร้างรังไข่ ช่วงนี้จึงควรงดกินอาหารทุกชนิดการกินของทอด ของมัน หรือขนม จะทำให้ลำไส้เล็กตอนบนไม่หลั่งด่างออกมาทำให้อาหารย่อยยาก และถ้ากินติดต่อกันนานๆ จะทำให้ลำไส้เล็กบวม มีแก๊สและดูดซึมยาก ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบกับสมองด้วย

15.00-17.00 น. อย่าอั้นปัสสาวะ


ช่วงเวลานี้กระเพาะปัสสาวะขอเรากำลังทำงานอยู่ การอั้นปัสสาวะเป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว แต่การอั้นปัสสาวะในช่วงเวลานี้จะยิ่งส่งผลเสียต่อร่างกายมากขึ้น เพราะอาจทำให้ปัสสาวะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และกล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะปัสสาวะอาจเกิดการอักเสบได้


ลดเครียด ลดสิว

17.00-19.00 น. หยุดทำงานได้แล้ว


ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า 5 โมงเย็นก็ควรเลิกทำงานได้แล้ว ถึงเวลาของการพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้น แต่ถ้าใครยังไม่ยอมหยุดทำงาน หรือต้องทำ OT ต่อ ก็จะส่งผลต่อการทำงานของไต ไตทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของกระดูก ไขข้อ ฮอร์โมน อวัยวะสืบพันธ์ เส้นผม เลือด หูและตาการทำงานหนักโดยไม่ได้พักผ่อนจะทำให้ไตอ่อนแอและเสื่อมได้ โดยเฉพาะหญิงมีครรภ์ อาจทำให้แท้งลูก หรือถ้าไม่แท้งลูกก็อาจทำให้ลูกไม่แข็งแรง รู้อย่างนี้แล้วอย่าทำงานหนักมากเกินไปนะครับ เข้าใจว่าถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน ไม่มีเงินแล้วจะสบายได้อย่างไร แต่ก็อย่าลืมว่าถ้าเราห่วงแต่การเก็บเงินโดยไม่ห่วงสุขภาพ อีกหน่อยเราอาจต้องใช้เงินที่เก็บไว้ไปใช้รักษาตัวเองก็เป็นได้ ถ้าเป็นอย่างนี้เราจะทำงานหนักไปเพื่ออะไร ผมว่าทำทุกอย่างให้พอดี ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไปจะดีกว่าครับ

19.00-21.00 น. หาอะไรทำคลายเครียดกันเถอะ


ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาของการเก็บกวาดความเครียด ทำกิจกรรมกับคนในครอบครัมอย่างสนุกสนาน หรือไม่ก็อาจนั่งสมาธิ อ่านหนังสือ ดูหนังสักเรื่อง เครียมตัวเข้านอนกันได้ เป็นช่วงเวลาของการทำงานของเยื่อหุ้มหัวใจ ถ้าเวลานี้ใครยังต้องนั่งทำงานอยู่ นั่งเครียดว่าโปรเจ็คที่ทำอยู่จะเสร็จทันกำหนดหรือเปล่า หรือเครียดเพราะแฟนไม่ยอมรับโทรศัพท์ ก็ระวังจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนัก เลือดข้น ส่งผลให้หัวใจโต อาจทำให้เป็นโรคหัวใจในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นหยุดเครียดและทำใจให้สบายกันดีกว่าครับ

21.00-23.00 น. นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์


ว่ากันว่าช่วงเวลาสำหรับนอนหลับที่ดีที่สุดก็คือเข้านอนไม่เกิน 5 ทุ่ม เพราะหลังจากเวลานี้ร่างกายต้องการความสงบและพลังงานสำหรับการซ่อมแซม ฟื้นฟู ส่วนที่สึกหรอของร่างกายให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ถ้าเป็นรถยนต์ก็คงเหมือนกับการตรวจสภาพรถ ถ่านน้ำมันเครื่องอะไรประมาณนั้น 3 ทุ่ม - 5 ทุ่ม เป็นช่วงเวลาที่นาฬิกาชีวิตต้องการให้ร่างกายรวบรวมพลังงานเอาไว้เพื่อทำภารกิจอย่างที่บอก ดังนั้นเมื่อเวลาเดินมาถึงในช่วงนี้เราควรนอนหลับพักผ่อนให้สบาย และไม่ควรอาบน้ำหรือออกไปข้างนอกเพราะอาจทำให้เราเจ็บป่วยได้ง่าย คนกรุงเทพนี่ลำบากเลย เวลานี้บางคนยังอาจอยู่บนท้องถนน ยังกลับไม่ถึงบ้านด้วยซ้ำ ถ้าต้องทำอย่างนี้ทุกวันหลายๆปี ร่างกายคงทนไม่ไหวเป็นแน่

23.00-01.00 น. นอนต่อไป


ช่วงเวลา 5 ทุ่ม - ตี 1 นี้ เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี มีหน้าที่ย่อยไขมัน เพื่อเปลี่ยนรูปเป็นฮอร์โมน กล้ามเนื้อ กระดูก ไขข้อ เส้นเอ็น ไขสมอง ตา และน้ำหล่อเลี้ยงในร่างกายทั้งหมด เป็นถุงเก็บน้ำย่อยสำรองที่ออกจากตับ และเมื่ออวัยวะใดในร่างกายขาดน้ำก็จะมาดึงจากถุงน้ำดี ช่วงเวลานี้เราไม่ต้องทำอะไรมาก แค่นอนหลับให้สบาย นอนแบบไม่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึก หลับให้สนิทแค่นี้ก็เพียงพอครับ

    ตราบใดที่เรายังคงหายใจ นาฬิกาชีวิตก็ยังคงเดินไปอย่างไม่หยุดยั้ง มันจะทำหน้าที่ของมันอย่างทุ่มเท เที่ยงตรง เพื่อให้ร่างกายของเราสมบูรณ์แข็งแรง แต่ถ้าเราเกิดฝืนการทำงานของนาฬิกาเรือนนี้เข้า ร่างกายของเราอาจต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บที่รออยู่ก็เป็นไปได้

นาฬิกาชีวิตกับการรักษาสิว


โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าการทำงานของนาฬิกาชีวิตมีผลต่อการเกิดสิวของเรา เพราะสิวก็เป็นโรคชนิดหนึ่ง โรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น ก็มาจากการทำงานที่ผิดปกติในร่างกายของคนเรา สิวก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะบอกว่าเป็นสิวต้องโดนเล่นการจากแบคทีเรีย ฝุ่น แสงแดด หรือเครื่องสำอางที่ใช้ แต่ก็มีสิวบางชนิดที่ไม่จำเป็นต้องเจอสิ่งเร้าเหล่านี้ก็สามารถขึ้นมาบนหน้าของเราได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราดูแลร่างกายของเราให้ดี กินอาหารที่เป็นประโยชน์ เข้านอนแต่หัวค่ำ ทำจิตใจให้ผ่องใสไม่เครียด ขับถ่ายให้เป็นเวลา ผมเชื่อเหลือเกินว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะสามารถช่วยให้การรักษาสิวของเราง่ายขึ้น ส่วนจะหายหรือไม่หายก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ไอ้ที่เราควบคุมไม่ได้ก็ปล่อยไป แต่ที่เราควบคุมได้เราก็ควรลงมือทำทันที ถ้าท้ายที่สุดมันไม่ช่วยให้สิวหายก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยๆผมคิดว่าสุขภาพโดยรวมของเราต้องดีขึ้นแน่นอน แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้มแล้วครับ ^^

 ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากเว็บไซต์ momypedia.com มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น