ในครีมรักษาสิวหรือครีมบำรุงผิว 1 หลอดนั้นเกิดจากการรวมตัวกันของครีมมากมายหลายชนิด ส่วนใหญ่แล้วส่วนผสมที่อยู่ในครีมจะมี 2 กลุ่มหลักๆ คือ
1. ส่วนผสมที่เป็นสารตัวหลัก
2. ส่วนผสมตัวประกอบ
1. ส่วนผสมที่เป็นสารตัวหลัก
ในครีม 1 หลอดจะต้องมีสารตัวหลักหรือเรียกว่าสารพระเอกอย่างน้อย 1-2 ตัวเพื่อเป็นจุดขายของสินค้า เช่น วิตามินซี , วิตามินอี วิตามิน B3, Q10 , คอลลาเจน , Hyaluronic acid , กรดวิตามินเอ , Allium cepa เพื่อบอกให้เรารู้ว่าครีมบำรุงผิวที่เรากำลังจะใช้อยู่นั้นเน้นแก้ปัญหาเรื่องใดให้กับเราเป็นพิเศษ
2. ส่วนผสมตัวประกอบ
นอกจากส่วนผสมตัวพระเอกแล้ว ในครีม 1 หลอดก็จำเป็นต้องมีส่วนผสมตัวประกอบเพื่อช่วยส่งเสริมการทำงานของสารตัวหลักอยู่ด้วย เปรียบแล้วก็คงเหมือนเพื่อนพระเอก ที่ถ้าไม่มีหนังก็คงไม่สนุก พระเอกก็คงดูไม่เด่น ตัวอย่างสารที่ว่า เช่น Paraben , Polymer , Alcohol , Cabomer , Sodium Lauryl Sulfate , Xanthan Gum , Fragance
ทีนี้เรามาทำความรู้จักกับสารแต่ละตัวกันดีกว่าว่ามันคืออะไร มีคุณสมบัติเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ขอยกตัวอย่างตัวที่สำคัญๆหรือเห็นบ่อยๆก็แล้วกันครับ ตามมาดูกันได้เลย
ส่วนผสมในครีมทาผิวที่น่าสนใจ
1. Mineral Oil (Petrolatum)
เป็นสารสกัดที่ได้มาจากการสกัดจากน้ำมันปิโตเรียม นิยมใส่ลงในครีม มอยเจอไรเซอร์ เพื่อเป็นสารให้ความชุ่มชื้นกับผิว ส่วนใหญ่ครีมสมัยก่อนนิยมใส่กัน แต่ครีมตัวใหม่ๆจะไม่ค่อยผสม Mineral Oil ลงไปด้วย เพราะ Mineral Oil เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการตกค้างและอาจทำให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขนได้
2. Polyethylene
เป็นพลาสติกขนาดเล็กตัวหนึ่ง นิยมผสมอยู่ในโฟมล้างหน้าสูตรที่ช่วยสครับผิวหรือครีมขัดผิวต่างๆ มีความลื่นและยืดหยุ่นได้ดี แต่ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้เช่นกัน คนเป็นสิวควรหลีกผลิตภัณฑ์ที่ผสมเม็ดบีทตัวนี้
3. Silicone
Silicone เป็นสารที่มีลักษณะคล้ายยาง มีความยืดหยุ่นสูง มักผสมอยู่ในครีมนวดผม น้ำยาเคลือบผมเพื่อให้ผมลื่น เงางาม รวมไปถึงใส่ในครีมกันแดด BB ครีม เบส เพื่อช่วยกันน้ำ ช่วยให้ผิวเนียน แต่งหน้าง่ายขึ้น แต่ข้อเสียของ Silicone คือ มันก่อให้เกิดอาการอุดตันผิวง่ายๆ ไม่ค่อยเหมาะกับคนเป็นสิวสักเท่าไร
4. PEG (Polyethylene Glycol)
เป็นสารสังเคราะห์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสารให้ความชุ่นชื้นกันผิว นิยมผสมอยู่ในเครื่องสำอางค์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า Cleansing , Remover หรือครีมบำรุงผิวต่างๆ สถาบันเผยแพร่ข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัตถุในสหรัฐอเมริกา (III) ได้ออกคำเตือนให้หลีกเลี่ยงการใช้สาร PEG ในเครื่องสำอาง เพราะเป็นสารที่สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวได้สูง นอกจากนี้ยังอาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติในตับและไต และอาจเกิดการปนเปื้อน จากการผลิตซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับและจมูก
5. SLES (Sodium Laureth Sulfate)
เป็นสารลดแรงตึงผิวที่นิยมใส่ลงในเครื่องสำอางค์หลากชนิด เช่น สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า คลีนเซอร์ เป็นสารที่ช่วยกำจัดความมันบนผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้เวลาใช้เราจะรู้สึกว่าล้างได้สะอาดดี แต่จริงๆแล้วสาร SLES ที่ว่านี้ก็มีประเด็นที่น่ากังวลอยู่คือ ถ้ากระบวนการผลิตที่ต้องผสมสาร SLES ลงไปเกิดมีการปนเปื้อน พูดง่ายๆคือ ผลิตแบบไม่ได้มาตรฐานก็มีโอกาสทำให้สาร SLES เป็นสารที่อันตรายขึ้นมาได้ เพราะอาจเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งนั่นเอง
6. Paraben Preservatives
เป็นสารกันเสียในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีมเกือบทุกตัวต้องผสมสาร paraben ตัวนี้ ชื่อที่เห็นได้บ่อยข้างขวดหรือหลอดของผลิตภัณฑ์ คือ เมธิลพาราเบน (Methylparaben) และ เอธิลพาราเบน (Ethylparaben) จริงๆแล้วสารกันเสียเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวมาก กับเรื่องสิวก็คงไม่มีปัญหาอะไร % แพ้มีน้อยมาก แต่เค้าบอกมาว่า paraben พวกนี้มันถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดี ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมได้มาก จึงมีการจำกัดปริมาณการใช้สาร paraben ในผลิตภัณฑ์ต่างๆไม่ให้มีมากเกินไป
7. Carbomer
เป็นสารเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ ครีมอะไรที่ข้นๆหรือเป็นเจลมักจะผสม Carbomer เข้าไป ไม่ใช่สารอันตราย ไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวแต่อย่างใด(ถ้าใช้ในปริมาณน้อย)
8. Xanthan Gum
เป็นสารให้ความหนืดอีกตัวหนึ่ง เป็นสารที่ได้มาจากกระบวนการหมักด้วยแบคทีเรีย ดังนั้นจึงจัดเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สารสังเคราะห์ชีวภาพ (Bio Shythesis) นิยมใช้กับเครื่องสำอางค์ทุกประเภท ทั้งโลชั่นทาผิว ครีมลดรอยสิว เจลทาหน้า หรือแม้กระทั่งใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เป็นสารที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ไม่อุดตัน ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
9. Fragance
Fragance คือ หัวน้ำหอม ส่วนใหญ่ครีมที่มีกลิ่นหอมมักจะมีส่วนผสมของ Fragance แทบทั้งสิ้น Fragance หรือน้ำหอมนี้จัดเป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือการแพ้ได้ดีในระดับหนึ่ง มีคนจำนวนไม่น้อยที่แพ้ครีมเพราะแพ้น้ำหอมที่ผสมอยู่ ด้วยเหตุนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ยุคใหม่จึงนิยมชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ด้วยการบอกว่า ไม่ผสมน้ำหอม เพื่อเป็นจุดขายให้ผลิตภัณฑ์ดูน่าสนใจขึ้นด้วยนั่นเอง
10. Glycerin
เป็นสารที่เกิดจากการใช้ด่างเติมลงไปในไขมัน เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแทบทุกตัว ช่วยให้ผลิตภัณฑ์อ่อนนุ่มน่าใช้ และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ดีในขณะที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
11. Butylene Glycol
เป็นสารที่ได้จากก๊าซบีเทน ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว และยังช่วยรักษากลิ่นและเนื้อผลิตภัณฑ์ให้คงรูปใช้งานได้นาน Butylene Glycol มักถูกผสมอยู่ในโลชั่นหรือมอยเจอไรเซอร์ เป็นสารที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหากใช้ภายนอก แต่ถ้าเข้าสู่ร่างกายด้วยการกินจะมีผลต่อระบบประสาท ทำให้ไตวายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
12. Stearic Acid
Stearic Acid หรือ กรดสเตียริค เป็นสารที่ได้มาจากธรรมชาติจากไขมัน และน้ำมันจากสัตว์ เป็นสารอีกหนึ่งตัวที่นิยมผสมอยู่ในเครื่องสำอางค์หลายชนิด เช่น สบู่ ครีมรองพื้น โลชั่น ครีมโกนหนวด แชมพู Stearic Acid ช่วยสร้างความนุ่มนวลให้กับผิว หรือถ้าผสมในแชมพูจะช่วยให้ผมลื่น เป็นประกาย ดูเงางาม เป็นสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้เล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแพ้กัน ได้รับการรับรองว่าเป็นสารที่มีความปลอดภัยตัวหนึ่ง
นี่เป็นส่วนผสมที่มักผสมอยู่ในครีมทาผิว มอยเจอไรเซอร์ แชมพู โฟมล้างหน้า โลชั่น ก็มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป แต่ความจริงของอันตรายจากสารเหล่านี้นั้น ส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม คือไม่เข้มข้นเกินไป ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการแพ้ของแต่ละคน ว่าคนไหนจะแพ้สารตัวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า แน่นอนว่าทุกคนมีการตอบสนองต่อสารที่แตกต่างกัน ไม่จำเป็นที่คนอื่นใช้แล้วแพ้แล้วเราต้องแพ้ด้วยเสมอไป ถ้าอยากรู้ว่าครีมที่เราจะซื้อมาใช้จะเหมาะกับเราหรือเปล่า วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือลองใช้เลย แต่ถ้าจะเอาวิธีที่ดีกว่านี้ก็ลองไปทำ Patch test ดูได้ครับ จะได้รู้ว่าตกลงเราแพ้สารที่อยู่ในครีมตัวไหนบ้าง ใครสนใจเรื่องวิธีการทดสอบ สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ครับ รวมวิธีทดสอบการแพ้ครีมอย่างง่ายๆ ช่วยป้องกันอาการสิวเห่อก่อนใช้จริง(Patch test)
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น