ไปยิง VIPL ลดรอยสิว จุดด่างดำ ที่นิติพลมา ไม่เจ็บแต่จี๊ด!!!!


ยิง VIPL ที่นิติพลคลินิก ดีมั้ย?

เมื่อ 5 วันก่อนผมไป ยิง VIPL ที่นิติพลมา ก็อย่างที่บอกไว้ในบทความที่แล้วว่าจะเอาเรื่องการทำ VIPL นี้กลับมาเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ว่าเค้าทำอะไรกับผมบ้าง ทำแล้วช่วยให้รอยสิว จุดด่างดำจากสิวหายได้จริงหรือเปล่า วันนี้ได้รู้กันครับ


ไปทำ VIPL เพื่ออะไร?


    คือจริงๆผมไม่ได้ตั้งใจไปทำ VIPL หรอกครับ ที่ผมจะทำจริงๆคือตัว Mini subcision เป็นตัวที่ใช้รักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ แต่ตอนคุยกับหมอหมอบอกว่าถ้าทำร่วมกับ VIPL ด้วยจะช่วยให้การรักษาหลุมสิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับบอกราคาโปรโมชั่นแบบเหมาๆมาเสร็จสับ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกนะครับว่าโปรโมชั่นที่บอกมันถูกจริงหรือเปล่า แต่ผมสนใจเรื่องที่ว่าถ้าทำ Mini subcision + VIPL แล้วมันช่วยให้หลุมสิวหายหรือดีขึ้นแบบมีนัยยะได้ผมก็จะทำ การทำ VIPL ที่นิติพลครั้งนี้จึงเป็นเหมือนผลพลอยได้มากกว่า

VIPL ช่วยเรื่องอะไร?


    VIPL นั้นเป็นแค่คลื่นแสงนะครับไม่ใช่เลเซอร์ บางคนเข้าใจผิดว่า VIPL เป็นเลเซอร์ไม่ใช่นะครับ เป็นคลื่นแสงที่ถูกส่งเข้าไปใต้ผิวของเราเพื่อช่วยลดรอยดำจากสิว ทำให้จุดด่างดำบนหน้าจางเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปในตัวด้วย ซึ่งการยิง VIPL นี้จะไม่ก่อให้เกิดแผล หรือสะเก็ดแผลมากมายเหมือนการยิงเลเซอร์

เข้าเรื่องกันดีกว่า


    ผมจะเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดให้ฟัง เอาตั้งแต่เดินเข้าร้านเลยก็แล้วกัน อยากให้ผู้อ่านรับรู้ถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด วันนั้นผมไปถึงคลินิกประมาณบ่าย 2 เดินเข้าไปก็เอาบัตรยื่นให้พนักงานแล้วก็นั่งตรงหน้าเคาน์เตอร์ด้านหน้า นั่งปุ๊บพนักงานก็ขายคอร์สปั๊บ บอกช่วงนี้ทางคลินิกมีโปรโมชั่นวันแม่ลดคอร์สทุกคอร์ส 20% แล้วก็เอาโบรชัวร์มายื่นให้ผมดู ผมดูแล้วก็ถามว่าถ้าซื้อแล้วให้คนอื่นทำได้มั้ยพอดีมีเพื่อนสนใจจะทำอยู่ พนักงานก็บอกว่าทำได้ให้คนอื่นได้แต่ต้องจองไว้ก่อนนะคะ ผมก็เลยบอกว่างั้นผมขอโบรชัวร์ไปให้เพื่อนดูหน่อย เผื่อเพื่อนสนใจ พนักงานบอกว่าไม่มีโบรชัวร์สำหรับแจกค่ะ ที่ให้ดูนี่เป็นราคาพิเศษจริงๆ ผมก็เริ่มงงละก็เลยบอกไปว่าคือผมคงยังไม่ซื้อหรอกครับ เอาไว้ทำคอร์สนี้ให้เสร็จก่อนค่อยว่ากัน ในใจก็คิดว่าผลการทำ Mini subcision + VIPL ก็ยังไม่ออกมา ดีหรือไม่ดีก็ยังไม่รู้ เกิดไม่ดีขึ้นมาแล้วจองคอร์สอื่นไว้ล่วงหน้าอีก ไอ้ที่จองไว้ก็คงไม่อยากทำแล้ว แต่ก็เข้าใจนะครับว่าเป็นหน้าที่ของเค้า

    นั่งรอสักพักหมอก็เรียกเข้าไปพบที่ห้องเพื่อดูสภาพผิวหน้าก่อนทำ คุยกันสักพักก็บอกให้ผมออกไปรอข้างนอก รอเรียกเข้าห้องยิง พอเดินออกไปพนักกงานก็เอายามาให้ผม 2 ถุง แล้วก็อธิบายว่าต้องกินตอนไหน กินครั้งละกี่เม็ด ผมก็ตั้งใจฟัง จากนั้นพนักงานก็พาผมไปเตรียมตัวที่ห้องเพื่อรอคุณหมอมายิง VIPL

ขั้นตอนการทำ VIPL


  • เริ่มจากพนักงานเข้ามาทำความสะอาดหน้าให้ก่อน ก็เช็ดๆหน้า ระหว่างที่เช็ดก็จะพูดคุยกับเราอย่างเป็นกันเอง ถามผมว่าเคยทำ VIPL มั้ย ผมก็ตอบว่าไม่เคยครับนี่ครั้งแรก จากนั้นพนักงานก็เริ่มบอกว่า VIPL คืออะไรพร้อมบอกสรรพคุณของการทำอย่างเสร็จสับ
  • พอหมอเดินเข้ามาในห้อง พนักงานก็เอาหมวกคลุมผมมาคลุมให้ แล้วก็เอาผ้ากับแว่นตากันแสงมาปิดที่ตาไว้ เพื่อกันอันตรายจากแสง VIPL เข้าตา
  • ก่อนยิงผมได้ยินหมอคุยกับพนักงานว่าให้ตั้งค่าความแรงเครื่องเท่าไร หมอก็บอกว่าเอาที่ 6 ก่อน แล้วเดี๋ยวตอนย้ำค่อยเพิ่มเป็น 7
  • จากนั้นหมอก็เริ่มยิง VIPL มาที่หน้าผม โดยเริ่มจากหน้าผากก่อน ยิงช็อตแรกแล้วก็ถามผมว่าเป็นไงคะเจ็บหรือเปล่า ผมก็ตอบว่าไม่เจ็บครับ พอบอกไม่เจ็บหมอก็เริ่มกระหน่ำยังไปทั่วหน้าทันที (ยิงไปยิงมาเจ็บเหมือนกันนะ)
  • ในระหว่างที่ยิง VIPL จะมีการเป่าลมเย็นอยู่ข้างๆหน้า แล้วก็จะประคบเย็นทุกครั้งก่อนที่จะยิงในแต่ละช็อตเพื่อลดความร้อนของแสงที่เกิดขึ้น (ขนาดประคบแล้วนะ บางช็อตยังร้อนแบบรู้สีกได้)
  • พอหมอยิงไล่ตั้งแต่หน้าผาก ขมับ แก้ม คาง เสร็จ ก็กลับมายิงย้ำตรงตำแหน่งที่เป็นหลุมสิวเยอะๆคือบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง ก็ยิงไปอีกหลายช็อต ใช้เวลารวมทั้งหมดประมาณ  10 นาทีก็เสร็จ

    ก่อนที่หมอจะเดินออกไปก็ได้บอกวิธีการดูแลผิวหน้าหลังยิง VIPL คือ กลับไปสามารถล้างหน้า ทาครีมได้ตามปกติ แต่อาจจะมีสะเก็ดแผลเล็กๆเกิดขึ้นบ้างบางตำแหน่งก็ไม่ต้องตกใจ หน้าอาจจะรู้สึกตึงๆในช่วงนี้ พยายามอย่าโดนแดด แล้วก็ทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน ภายใน 3-4 วันหน้าจะเริ่มค่อยๆดีขึ้น 7-10 วันจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าได้อย่างชัดเจน พูดเสร็จแล้วก็เดินจากไป

    หลังจากหมอเดินออกไป พนักงานก็จัดการทำความสะอาดหน้าและลงครีมให้ผม 3 ตัว คือ 

1. Sensitive เป็นครีมลดการระคายเคืองผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นหลังยิง VIPL 
2. ครีมลดการอักเสบของผิว
3. ครีมกันแดด

    โดยตอนลงครีม Sensitive เข้าใช้เครื่องผลักครีมเข้าผิวที่ชื่อว่า Facial therapy วนๆที่หน้าเรา มันจะรู้สึกเย็นๆสบายหน้าดี ตอนแรกผมได้ยินไม่ชัดว่าเครื่องมือมันชื่ออะไร ผมก็เลยถามพนักงานอีกที จะได้จำไว้เอามาเขียนบล็อกได้ถูก พอรู้ชื่อเครื่องผมก็เลยเกิดข้อสงสัยว่าการทำ Facial therapy กับ Ionto มันต่างกันอย่างไร? พนักงานตอบว่าการทำ Ionto เป็นการผลักครีมหรือตัวยาโดยใช้ความร้อน ซึ่งจะไม่เหมาะกับคนเป็นสิว แต่ Facial therapy จะใช้ความเย็นเป็นตัวผลักซึ่งจะดีกว่า Ionto ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าแต่ฟังดูมีเหตุผล ทาครีมเสร็จก็ลงมาข้างล่างเตรียมกลับบ้าน

    เดินลงมานึกขึ้นได้ว่ายา 2 ถุงที่ได้มายังไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรเลย ได้ยินแต่ว่าให้กินหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก็เลยถามพนักงาน พนักงานบอกว่าเป็นวิตามินซี ช่วยลดจุดด่างดำจากสิว Ok เข้าใจจากนั้นก็เดินออกจากคลินิกกลับบ้าน ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง

ทำ VIPL เจ็บมั้ย?


    ไม่เจ็บครับ แค่จี๊ดๆเหมือนโดนหนังสติ๊กดีดหน้า บางช็อตมีกลิ่นไหม้จากขนมาเตะจมูกบ้างนิดหน่อย แต่แสงที่เกิดขึ้นตอนยิงมันจะวาบซึ่งอาจทำให้เราตกใจได้ แต่จริงๆก็ไม่มีอะไรครับ

5 วันผ่านไปเกิดอะไรขึ้นบ้าง


    วันแรกหลังจากทำ VIPL ก่อนนอนผมก็อาบน้ำล้างหน้าทาครีมตามปกติ แต่พอทาครีมเสร็จความรู้สึกที่หน้าผมมันเริ่มไม่ปกติละ แสบหน้ามาก คือรอยแดง รอยแผลไม่มีเลยนะครับ แต่แสบแบบชัดเจน ก็คิดว่ามันคงเป็นผลข้างเคียงของการทำ VIPL หน้านี่ตึงเหมือนไปดึงหน้ามา พอวันที่ 2 ที่ 3 อาการแสบหน้าจากการทาครีมก็ไม่มีอีก จากนั้นประมาณวันที่ 4 ตอนเย็นผมล้างหน้าตามปกติ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือตอนที่ถูหน้าด้วยโฟมล้างหน้าอยู่รู้สึกว่าผิวหนังที่หน้ามันลอกออกมาเต็มไปหมด ผมก็ถูใหญ่เลยกะว่าเอาออกให้หมด วันที่ 5 ก็รู้สึกว่าหน้านุ่มขึ้น สว่างขึ้นด้วย(ไม่สว่างได้ไง ลอกซะขนาดนั้น) แล้วผิวหน้าก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ คือไม่แห้งเหมือนวันแรกๆ ถ้าไม่ได้ฮาดะลาโบะกับเจลว่านหางจระเข้ช่วยไว้สงสัยหน้าจะแห้งเอามากๆ ต้องขอบคุณครีม 2 ตัวนี้จริงๆ เดี๋ยวนี้ขาดไม่ได้เลย ครีมกันแดดอีกตัว ปกติไม่ชอบทา แต่ตอนนี้ต้องทา กลัวว่าถ้าหน้าโดนแดดเผาเยอะๆแล้วจะเสียเงินค่าทำ VIPL ฟรี ช่วงนี้ก็ขาดครีมกันแดดไม่ได้เหมือนกันครับ

    นี่ก็เป็นขั้นตอนการทำ VIPL อย่างละเอียดที่ผมอยากนำเสนอในวันนี้ ไม่รู้ผลจะออกมาเป็นยังไง นี่เป็นเพียงการยิงครั้งที่ 1 เท่านั้น เหลืออีก 3 ครั้ง อีกนานกว่าจะจบคอร์ส ก็หวังว่ามันจะทำให้หน้าผมดีขึ้นนะ เล่าไปเล่ามาก็รู้สึกสนุกดี ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวจะเขียนเล่าขั้นตอนการทำ Mini subcision ให้อ่านกันต่อ อันนี้เจ็บและโหดกว่า VIPL เล็กน้อย แต่คงไม่เท่า Dermaroller แน่นอน เจ็บสุดๆ เรื่องเจ็บนี้ Derma ยังเป็นที่ 1 ในใจผมเสมอ ยังไงก็อย่าลืมติดตามอ่านกันต่อนะครับ ^^

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

7 ความคิดเห็น :

  1. ติดตามอยู่นะค่ะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่มาเล่าให้ฟัง

    ตอบลบ
  2. กำลังจะไปทำพอดี ติดตามอ่านขั้นตอนต่อไป รีบอัพน่ะคร้าาาา

    ตอบลบ
  3. กำลังจะไปทำอยู่ค่ะ ติดตามนะคะ

    ตอบลบ
  4. ราคาเท่าไรครับโปร กับไม่โปรพอทราบไหมครับ

    ตอบลบ
  5. ขอทราบราคาได้ไหมคะ

    ตอบลบ