หลายๆคนที่มีปัญหาสิวและเคยไปปรึกษาหมอสิวนั้น อาจเคยได้รับยากินเพื่อรักษาสิวที่ชื่อ "Amoxicillin" กันมาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนที่ไม่รู้และหมอไม่ได้อธิบายอะไรมาก ก็จะเข้าใจกันว่า Amoxicillin ที่หมอจ่ายมาให้นั้นมีไว้ลดอาการอักเสบของสิว หรือช่วยให้สิวบนหน้าของเราลดลง หรือว่าใช้ในการรักษาสิว ทำลายเชื้อสิว เชื้อแบคทีเรีย P.acne ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวโดยตรง เรื่องที่ถูกก็มี แต่เรื่องที่เราอาจจะเข้าใคคลาดเคลื่อนไปก็มี เอาเป็นว่าก่อนมาดูคำตอบของความสงสัยนี้ มาดูกันคร่าวๆก่อนว่า Amoxicillin คือยาอะไรกันแน่
ข้อมูลยา Amoxicillin คร่าวๆ
Amoxicillin เป็นยาปฏิชีวนะชนิดหนึ่ง อยู่ในกลุ่มยา Penicillin ใช้ในการรักษาโรคได้หลายโรค เช่น โพรงจมูกอักเสบทอนซิลอักเสบ , หูชั้นกลางอักเสบ , หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน , หนองในเยื่อหุ้มปอด รวมไปถึงโรคอาการอักเสบทางผิวหนัง หากดูข้อมูลเบื้องต้นแล้ว Amoxicillin นั้นก็มีไว้ใช้เพื่อลดอาการอักเสบตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย หรือพูดง่ายๆก็คือ Amoxicillin สามารถใช้รักษาโรคได้กว้างๆเลยล่ะ
ยา Amoxicillin กับสิว
ความจริงแล้วยา Amoxicillin นั้นไม่ได้มีความสามารถไปจัดการเชื้อการเกิดสิวได้โดยตรง หรือเข้าไปจัดการเชื้อสิว P.acne หรือ P. Ovale ต้นเหตุของการเกิดสิวได้ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็อาจจะสงสัย อ้าว!!! แล้วอย่างนี้หมอรักษาสิวเค้าจะจ่ายยา Amoxicillin มาให้ทำไม? ในเมื่อมันไม่ได้ช่วยจัดการเชื้อสิวได้
ขออธิบายอย่างนี้นะครับ คือ บางทีเราอาจเข้าใจว่าหารเกิดสิวโดยเฉพาะกับสิวอักเสบ สิวหัวหนองนั้นต้องเกิดจากเชื้อสิวที่เรารู้จักกันดีก็คือ P.acne เป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอักเสบของเราอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียตัวอื่นๆได้อีก ซึ่งหมอที่รักษาหน้าของเราก็คงจะวิเคราะห์จากอาการการเกิดสิวของเรามาแล้วว่า หน้าเราเหมาะสมที่จะรักษาสิวด้วยการกินยา Amoxicillin นี้ ดังนั้นหากใครที่หมอสิวจ่ายยา Amoxicillin มาให้กินเพื่อรักษาสิวนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจ มันช่วยลดการอักเสบของสิวได้เช่นกัน
ยา Amoxicillin กับยารักษาสิวตัวอื่นๆ
หากเราเอายา Amoxicillin ไปเปรียบเที่ยบกับยารักษาสิวตัวอื่นๆ เช่น ยา Doxycycline , Clindamycin หรือ Tetracyclines หากเทียบในการรักษาสิวแบบสายตรงแล้ว Amoxicillin คงใช้รักษาสิวเทียบเท่าไม่ได้ Amoxicillin นั้นด้อยกว่าตัวอื่นๆในการรักษาสิว ซึ่งการจ่ายยาของหมอรักษาสิวเอง ยังจัดให้ Amoxicillin นั้นเป็นตัวรองลงมาจากพวก Doxycycline , Clindamycin หรือ Tetracyclines เลย ส่วนใหญ่แล้วจะจ่ายยา Amoxicillin ให้กับคนไข้ในกรณีที่ใช้ยากลุ่มที่บอกไปแล้วไม่ได้ผล หรือจ่ายให้กับคนไข้ที่แพ้ยาตัวอื่นๆ
แต่ยา Amoxicillin ก็มีข้อดีของมันอยู่นะ
ถึงแม้ยา Amoxicillin จะดูเหมือนด้อยกว่ายาตัวอื่นๆในการรักษาสิว แต่ยา Amoxicillin ก็มีทีเด็ด หรือมีข้อดีในตัวของมันอยู่ ข้อดีที่ว่าก็คือ ยา Amoxicillin มีผลข้างเคียงน้อยมาก โดยเฉพาะผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดกับตับด้วยแล้ว น้อยกว่ายารักษาสิวตัวอื่นๆมาก
ยารักษาสิวตัวอื่นๆนั้นจะมีผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง หน้าแห้ง ผิวแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศรีษะ แต่ยา Amoxicillin นั้นจะเกิดผลข้างเคียงแบบนี้น้อยมากๆ ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนที่แพ้ยา Amoxicillin จริงๆเท่านั้น ผลต่อตับก็เช่นกัน อย่างที่เรารู้ๆกันว่าการกินยารักษาสิวนั้น จะมีผลให้ตับทำงานหนักขึ้น ทำให้เอนไซม์ในตับสูงขึ้น กินมากๆตับพังได้ง่ายๆ ใครสนใจเรื่องผลของการกินยารักษาสิวเยอะ ลองอ่านได้ที่ กินยากินรักษาสิวเยอะ สิวหาย แต่ตับพัง คุ้มกันมั๊ยเนี่ย!!!!! แต่การกินยาAmoxicillin นั้นมีผลต่อตับน้อยมากถ้าเทียบกับยารักษาสิวตัวอื่นๆ
สรุปแล้วการกินยา Amoxicillin เพื่อรักษาสิวนั้น สามารถช่วยรักษาสิวได้จริง ช่วยลดอาการอักเสบ เป็นหนองของสิวที่หน้าเราได้ แต่ต้องไม่ใช่สิวที่เกิดจากแบคทีเรีย P.acne อย่างที่บอก ซึ่งเรื่องการวิเคราะห์ว่าสิวเราเป็นแบบไหนก็ต้องให้หมอเป็นคนบอกจะดีที่สุด
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากฝากไว้ คือหากเราต้องกินยารักษาสิว Amoxicillin หรือยารักษาสิวตัวอื่นๆแล้ว ต้องกินให้ครบตามที่หมอจ่าย ไม่งั้นเชื้อสิวอาจดื้อยาได้ เพราะมันเป็นยาปฏิชีวนะ หากกินไม่ได้ขนาดที่กำหนด เปอร์เซ็นต์การดื้อยามีสูงเลยล่ะ ต้องมานั่งเปลี่ยนยากินรักษาสิวไปเรื่อยๆ สิวก็ไม่หายสักที เรียกได้ว่าไม่คุ้มเอาซะเลย เพราะฉะนั้นกินยาให้ครบ(ถ้าต้องกิน) แล้วดื่มน้ำตามมากๆ ด้วยความห่วงใยจาก Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน
สอบถามหน่อยครับ ถ้ากิน amoxicillin 500 mg ติดต่อกันนานๆจะมีผลอะไรไหมครับ
ตอบลบเพราะผมกินวันละ 2 เม็ด เช้า-เย็น จากที่หน้ามีสิวอักเสบขึ้น ตอนนี้หายและไม่ขึ้นเลยครับ