เตรียมตัวให้พร้อมก่อนหาหมอรักษาสิว เข้าไปแบบไม่รู้อะไร ระวัง!!! เสียเปรียบนะ


หาหมอรักษาสิว

ตำราพิชัยยุทธ์ซุนวูได้กล่าวไว้ว่า "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" ซึ่งชัยชนะในสงครามล้วนแต่ต้องทำตามคำนี้ถึงจะเป็นผล การหาหมอรักษาสิวก็เช่นเดียวกัน หากเราไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสิวเลย การเดินเข้าไปหาหมอรักษาสิวนั้น ก็ไม่ต่างจากการถือดาบเข้าสู่สนามรบ โดยที่ไม่รู้ว่าข้าศึกเตรียมปืนใหญ่รอถล่มเราอยู่ข้างหน้า



เกริ่นมาตอนต้นพูดไปเรื่องสงคราวโน่น อาจจะฟังดูเว่อร์ไปสักหน่อย แต่ผมพูดจริงๆนะ คือคนที่เป็นสิวส่วนใหญ่เชื่อได้เลยว่าถ้าไม่จำเป็นคงไม่อยากไปหาหมอให้เสียเงินเสียทองกันแน่นอน แต่ทีนี้มันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ทายารักษาสิวก็แล้ว กินยาก็แล้ว ถาม Google ก็แล้ว แต่สิวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายไปสักที การไปหาหมอรักษาสิวก็เป็นตัวเลือกท้ายๆที่คนจะเลือกกัน (แต่บางคนก็ไปหาหมอก่อนนะ)

ผมไม่ได้บอกว่าการหาหมอรักษาสิวนั้นเป็นสิ่งไม่ดี ผมว่าดีเลยล่ะถ้าหากเราไม่รู้จะจัดการปัญหาสิวบนหน้ายังไง บางครั้งการไปหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางย่อมช่วยให้สิวหายได้ดีกว่ามานั่งลองผิดลองถูกเอง แต่ก็อย่างที่จั่วหัวไว้ด้านบน การที่เราจะเดินดุ่มๆเข้าไปหาหมอรักษาสิวโดยที่เราไม่มีความรู้เรื่องสิวเลย ก็ดูจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงไปสักนิด มาดูกันว่าความเสี่ยงที่ว่ามีอะไรบ้างดีกว่า


ความเสี่ยงจากการไปหาหมอรักษาสิว แบบไม่รู้อะไรเลย



เสียเงินรักษาสิวมากเกินไป


เสี่ยงเสียเงินมากโดยใช่เหตุ


    ความจริงแล้วเราก็ควรจะเชื่อในสิ่งหมอรักษาสิวแนะนำอยู่แล้วล่ะ เพราะหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าหมอรักษาสิวส่วนใหญ่นั้นก็อยากจะรักษาให้คนไข้หายทั้งนั้น แต่ใช่ว่าหมอจะเป็นอย่างนี้ทุกคน หมอบางคนอาจจะให้คนไข้เข้ารับการรักษาสิวที่บางครั้งไม่จำเป็นต่อการรักษาก็ได้ การรักษาสิวมีหลายอย่าง ทั้งการให้ยาทา ยากิน กดสิว ฉีดสิว ทำทรีทเม้นท์ ยิงเลเซอร์ ซึ่งถ้าเราไม่รู้จักมาก่อนเลยว่าที่หมอบอกให้เราทำมันคืออะไร? มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร? แล้วเราก็ทำตามที่หมอบอก เราก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะเสียเงินมากไปโดยใช่เหตุได้เหมือนกันนะ


โดนเลี้ยงไข้

เสี่ยงโดนเลี้ยงไข้


    "เลี้ยงไข้" ก็คืออาการที่ไปรักษาสิวนานมากแล้วแต่สิวก็ไม่หายสักที หรือว่าจากเคยต้องไปหาหมอรักษาสิวทุกสัปดาห์ แต่พอหยุดหาเมื่อไร สิวเห่อขึ้นมาเต็มหน้าแบบไม่รู้สาเหตุ จริงอยู่ที่การรักษาสิวนั้นต้องใช้เวลานานพอควรถึงจะทำให้สิวหายได้ แต่ขึ้นชื่อว่าการรักษาแล้ว มันต้องมีวันหาย ไม่ใช่หยุดหาหยุดรักษาเมื่อไรแล้วเป็นอีก หรือเป็นสิวมากกว่าเดิม ทั้งๆที่เราก็ทำตัวเหมือนเดิม อันนี้ก็ส่อแววว่าอาจโดนเลี้ยงไข้ได้เหมือนกันนะ เรื่องนี้ผมก็ยังเชื่อว่าหมอส่วนใหญ่เค้าไม่ทำกันหรอก แต่ส่วนน้อยก็ไม่แน่ ยิ่งบางที่ชอบให้เราเข้ารับการรักษาเสริมหลายๆตัว วนไป วนมา เสียเงินไปหลายๆหมื่น แต่ก็ไม่หายสักที อันนี้ผมว่าเรากำลังมีความเสี่ยงอีกข้อแล้วนะครับ


กินยารักษาสิวเยอะ ตับพัง

เสี่ยงเสียสุขภาพ


    ความเสี่ยงข้อนี้ผมพูดถึงการรักษาสิวด้วยการกินยา เช่น ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อสิวต่างๆ ซึ่งหมอรักษาสิวจะจ่ายให้กับคนไข้ที่เป็นสิวรุนแรง สิวเรื้อรัง เพื่อให้ยาช่วยเสริมการรักษาสิวให้ดีขึ้น แต่หมอบางคนอาจจะจ่ายยารักษาสิวให้มากเกินไป จนบางครั้งทำให้ร่างกายเรารับไม่ไหว ก็อาจจะมีผลต่อ ตับ หรือการทำงานโดยรวมของร่างกายได้ ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นสิวเยอะ แล้วไปหาหมอ หมอก็จ่ายยาแก้อักเสบให้เยอะมาก กินวันหนึ่งหลายเม็ด กินจนเป็นโรคตับอักเสบไปเลย จริงอยู่ที่ว่าหากเราซื้อยามากินเองผลก็คงไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าเราไม่รู้ถึงความอันตรายจากการกินยารักษาสิว แล้วหมอก็สั่งให้เรากินเรื่อยๆ เราก็เชื่อหมอมาโดยตลอด สุดท้ายตับพังขึ้นมา หมอสิวก็คงมาช่วยรักษาตับให้เราไม่ได้จริงมั๊ยครับ

    นี่ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหากเราไปหาหมอรักษาสิว แต่ก็อย่างที่บอก หมอส่วนใหญ่เข้าไม่ทำกันหรอก เขาก็อยากให้คนไข้ คนที่เป็นสิวทุกคนหายด้วยกันทั้งนั้น แต่อย่าลืมว่าหมอก็เป็นคนบางครั้งก็อาจจะทำอะไรผิดพลาดได้บ้าง แล้วถ้าความผิดพลาดนั้นมาเกิดขึ้นกับเรา บวกกับการที่เราไม่มีความรู้เกี่ยวกับสิวติดตัวเลย เราก็คงจะได้รับผลจากความผิดพลาดนั้นแบบเต็มๆ "หลบไม่ได้ หลีกไม่ทัน" แน่นอน



เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปหาหมอรักษาสิว


    สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะไปหาหมอรักษาสิว หรือมีความคิดที่จะไป อยากให้เตรียมตอบคำถามของหมอให้ดีๆ ตอบให้ละเอียดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญต้องตอบความจริง แบบไม่มีหมกเม็ดใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้ผลการรักษาสิวนั้นได้ผล และมีประสิทธิภาพมากที่สุด มาดูคำถามที่หมอรักษาสิวต้องถามก่อนการรักษาสิวกันดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง?


  • เป็นสิวมานานแค่ไหนแล้ว กีวัน กี่เดือน กี่ปี?
  • เคยรับการรักษาสิวมาแล้วหรือยัง? รักษาแบบไหนมาบ้าง กินยารักษาสิวมาแล้วกี่ตัว กินมานานเท่าไรแล้ว แพ้ยาตัวไหนบ้าง?
  • ในบ้านมีใครเคยเป็นสิวรุนแรงมั๊ย ย้อนกลับไปดูให้หมดว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย น้า อา ถ้ามี และมีหลายคนเราก็มีความเสี่ยงเป็นสิวที่เกิดจากกรรมพันธุ์
  • ทำงานอะไร ทำที่ไหน สภาพแวดล้อมเป็นยังไง? เพราะบางทีสิวเราอาจจะเกิดขึ้นจากการทำงานที่บางครั้งอาจต้องสัมผัสกับสารเคมีที่ไปกระตุ้นการเกิดสิวได้ง่าย
  • กินนอนยังไง มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ต้องบอกให้หมด บอกไปเลยเข้านอนตี 1 ทุกคืน กินเหล้าสังสรรค์อาทิตย์ละ 5 วัน ชอบกินขนมเค้ก และไอศครีมเป็นชีวิตจิตใจ บอกให้เยอะเข้าไว้ มีผลต่อการรักษาสิวทั้งสิ้น
  • ชอบมีสิวตอนเป็นประจำเดือนหรือเปล่า ถ้าเป็นแล้วลักษณะสิวเป็นยังไง?
  • เคยแพ้เครื่องสำอางค์ตัวไหนมาบ้าง โฟมล้างหน้า ครีมทาหน้า มอยเจอไรเซอร์ แป้งพัฟ ยาทาสิว คิดให้ออกว่าเคยแพ้อะไรมาบ้าง แล้วจดใส่กระดาษเอาไว้ให้หมอดู


    รู้คำถามคร่าวๆก่อนไปหาหมอรักษาสิวกันแล้ว ก็อย่าลืมเตรีมคำตอบและจดใส่กระดาษไว้กันลืมนะครับ จะได้มีข้อมูลไปบอกหมอ เพื่อให้หมอวิเคราะห์และจัดการรักษาสิวที่เหมาะกับตัวเรา ดีกับหน้าเรามากที่สุด หมอสิวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ที่น่ากลัวก็คือ "ความไม่รู้" ของเรานั่นแหละ ที่อาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการรักษาสิวขึ้นมาได้ หาความรู้เกี่ยวกับเรื่องสิวไว้บ้าง ถึงแม้ว่าเราต้องให้หมอรักษาสิวให้ แต่เราไม่จำเป็นที่ต้องรับการรักษาสิวที่หมอแนะนำทุกอย่าง เราสามารถปฏิเสธได้ถ้าเราเห็นว่ามันเสี่ยง หรือน่ากลัวจนเกินไป ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวเราครับ มั่นใจในตัวเอง แล้วเรื่องสิวก็จะไม่น่ากลัวอีกต่อไป

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น