วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ PHA(Polyhydroxy acid) น้องสาวของ AHA เป็นกรดผลไม้ชนิดหนึ่ง มีหลักการทำงานเหมือนพี่ทุกอย่าง คือช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวชั้นนอกหลุดออกไปได้เร็วกว่าการหลุดลอกของผิวแบบธรรมชาติ ซึ่งสามารถช่วยลดจุดด่างดำ หรือริ้วรอยจากสิว ซึ่ง PHA นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้หน้าขาวใสได้เป็นอย่างดี ทีนี้บางคนอาจสงสัยว่าในเมื่อ PHA กับ AHA นั้นมันทำงานเหมือนกัน แล้วเค้าทำออกมาเพื่ออะไร? นี่แหละที่กำลังจะบอกต่อไป มาดูกันต่อได้เลย
PHA ช่วยแก้ปัญหาความแรงของ AHA
PHA นั้นสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาจุดด้อยของ AHA ในเรื่องความระคายเคืองที่มีต่อผิว คือตัว PHA นั้นเวลาทาลงผิวหน้าจะไม่ทำให้แสบหน้า อาการคันหน้ายิบยิบตอนที่ทา AHA จะไม่เกิดขึ้นกับหน้าของเรา เวลาทา PHA ความรู้สึกก็จะเหมือนทาครีมบำรุงผิวทั่วไป ต่างกันตรงที่ว่ามันช่วยไปขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวชั้นนอกออกไป ทำให้รอยสิว ริ้วรอยต่างๆจางลง
PHA เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย
บางคนอยากจะใช้ AHA ใจจะขาดเผื่อจะได้ช่วยให้หน้าขาวใสเร็วขึ้นแต่มันใช้ไม่ได้ เพราะหน้าดันไปแพ้ความแรงของเจ้า AHA เข้า นั่นแหละครับ PHA ก็เลยกลายเป็นนางเอกขี่ม้าขาว(เปลี่ยนมั่ง เบื่อพระเอกแล้ว) เข้ามากู้สถานะการณ์นี้ ช่วยให้คนที่ผิวแพ้ง่ายแต่อยากผลัดเซลล์ผิวหน้าบ้างได้สมใจสักที เพราะ PHA นั้นแรงน้อยกว่า AHA มาก เรียกว่าไม่แรงเลยก็ได้ หลายคนอาจสงสัยว่าทั้งที่มันก็เป็นกรดผลไม้เหมือนกัน แต่ความแรงถึงต่างกันเยี่ยงนี้ ของอธิบายอย่างนี้ครับ
ความแตกต่างของความใหญ่ระหว่าง PHA และ AHA
ที่ PHA มันทำให้เกิดการระคายเคืองผิวน้อยว่า AHA ก็เพราะว่า PHA นั้นมีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า AHA นั่นเอง ทำให้เวลาซึมเข้าผิวหนังชั้นล่างช้ากว่า แบบว่าค่อยๆซึมเข้าไป ทำให้ผิวหน้าเราไม่รู้สึกระคายเคืองนั่นเอง ผิดกับพี่สาว AHA ที่ซึมลงผิวแบบพรวดพราด ผิวบางคนที่ sensitive ก็เลยเกิดอาการหน้าแดง คัน บางครั้งถึงขนาดหน้าลอกเป็นขรุยๆได้
แต่ PHA ก็ผลัดเซลล์ผิวได้ไม่ดีเท่า AHA นะ
ถึงแม้ PHA จะมีข้อดีในเรื่องความอ่อนโยน ซึ่งเหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย แต่เนื่องจากความอ่อนโยนของมันนี่แหละ ที่ไปลดประสิทธิภาพการผลัดเซลล์ผิวลง ซึ่งหากใครเคยใช้ AHA มาก่อนแล้วเปลี่ยนมาใช้ PHA แทนก็อาจจะรู้สึกว่า PHA มันไม่ช่วยอะไรเลยก็ได้ เพราะมันเห็นผลช้ากว่า ช่วยให้ริ้วรอย จุดด่างดำลดลงช้ากว่า PHA มาก เพราะฉะนั้นหากใครมีผิวหน้าที่แข็งแรงดั่งหนังช้าง แล้วอยากให้ริ้วรอยสิวหายไวไวแนะนำว่าใช้ AHA จะเห็นผลเร็วกว่า PHA แน่นอน
PHA กับคนเป็นสิวเหมาะหรือไม่?
หากถามถึงเรื่องความเหมาะสมในการใช้ในคนที่หน้าเป็นสิวเทียบกับ AHA แล้ว PHA นั้นเหมาะกว่ามาก เพราะสำหรับคนที่เป็นสิวโดยเฉพาะสิวอักเสบจะไม่เหมาะกับ AHA อยู่แล้ว เพราะ AHA อาจไปกระตุ้นให้สิวอักเสบมากขึ้น แต่ตัว PHA นั้นมันอ่อนโยนกว่ามาก ดังนั้นผมคิดว่าน่าจะสามารถใช้ PHA กับคนที่เป็นสิวได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนอีกทีนะครับ คนเราผิวไม่เหมือนกัน การใช้งานก็ย่อมแตกต่างกันออกไป
สำหรับ PHA นั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับคนที่อยากใช้ AHA ช่วยให้หน้าใสขาว ไร้ริ้วรอยแต่แพ้ AHA ให้สามารถผลัดเซลล์ผิวกับเค้าได้บ้าง เหมาะสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ไวต่อสิ่งเร้าง่าย แต่ในความคิดผมก็ไม่แน่ใจว่าเราจำเป็นต้องใช้ PHA หรือเปล่านะ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำซะทีเดียว คือในความรู้สึกมันอาจจะไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ แต่ผมก็รู้สึกชื่นชมคนที่คิดออกมานะ สามารถคิดต่อยอดและแก้ปัญหาจาก AHA ออกมาเป็นสารแบบใหม่อย่าง PHA ได้ เอาเป็นว่าก็ขอให้ PHA เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแล้วกันครับ เลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนก็แล้วกัน อ้อ! ลืมบอกไป PHA แพงกว่า AHA นะครับ (ขอใหม่ก็งี้แหละนะ ให้เค้าหน่อย)
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น