อาการหน้าแพ้ครีมกับเป็นสิวต่างกันอย่างไร มาดูความแตกต่างเบื้องต้นกันดีกว่า



เดี๋ยวนี้ผมรู้สึกว่ามีคนแพ้ครีมเยอะจริงๆครับ ปัญหาที่มีคนถามวิธีแก้ไขที่ผ่านมามากกว่า 50% จะเกี่ยวกับวิธีการรักษาอาการจากหน้าแพ้ครีม ซึ่งผมก็ได้แต่แนะนำวิธีแก้ปัญหาแบบเบื้องต้นได้เท่านั้น เพราะวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงก็คือไปหาหมอผิวหนังซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญนั่นเอง


แต่ยังไงซะผมก็ยังคิดว่าบางคนก็อาจจะยังสับสนระหว่างอาการแพ้ครีมกับเรื่องสิวอยู่ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งเปลี่ยนครีม โฟมล้างหน้า แป้ง หรือมอยเจอไรเซอร์ตัวใหม่ แล้วเกิดมีตุ่มไม่พึงประสงค์ผุดขึ้นมาที่หน้าของเรา ซึ่งบางทีมันอาจทำให้เรางงว่าตกลงมันเป็นอาการสิวขึ้นตามปกติ หรือว่ามันเป็นตุ่มที่เกิดจากอาการแพ้ครีมกันแน่ วันนี้ Acnedefend ก็เลยเอาวิธีตรวจสอบตุ่มหรือผดผื่นแปลกปลอมบนหน้าของเรามาฝากสักหน่อย ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร?


ส่วนใหญ่จะเป็นตุ่มนูนแดงแบบไม่มีหัว


อาการแพ้ครีมส่วนใหญ่นั้นลักษณะจะออกเป็นตุ่มแดงๆ ขนาดจะเท่าๆกัน และจะเป็นตุ่มที่ไม่มีหัวหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นสิวไม่มีหัว ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกับสิวอุดตันนะ บางทีหน้าตามันจะดูคล้ายกันมาก เพราะสิวอุดตันบางทีมันก็เป็นสิวไม่มีหัวเหมือนกัน ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าเป็นสิวไม่เห็นหัวมากกว่า มันมีหัวแต่มันอยู่ลึกลงไปในผิวมาก ทำให้เรามองไม่เห็นมัน ซึ่งต่างจากตุ่มที่เกิดจากอาการแพ้ครีม คือมันจะไม่มีหัวสิวอยู่เลย แต่ที่มันเป็นตุ่มแดงนูนขึ้นมาเพราะผิวหน้าเรามันเกิดอักเสบ หรือระคายเคืองอย่างแรง มันดูคล้ายกันแต่มันไม่เหมือนกันเลยล่ะ

หน้าเป็นตุ่มหนองแบบเฉียบพลัน


คนที่แพ้และผิวไวต่ออาการแพ้มากๆ บางครั้งจะมีตุ่มหนองเม็ดเล็กๆขึ้นมาเต็มหน้าไปหมด ถ้านึกภาพไม่ออกลองดูข่าวที่บล็อกเกอร์ชื่อดังของสิงคโปร์คนหนึ่งเกิดอาการแพ้เพราะไปทำทรีทเม้นท์มาสิครับ น่ากลัวจริงๆ เป็นเยอะมากๆ ตอนผมเห็นข่าวครั้งแรกนี่ตกใจอย่างแรงเลย เรียกได้ว่าช่วงนั้นไม่กล้าไปทำทรีทเม้นท์อะไรเลย กลัวเป็นเหมือนเค้า ซึ่งผมคิดว่าคนไทยเราก็มีคนแพ้แบบนี้ไม่น้อย ต้องระวังกันไว้มากๆนะครับ เพราะเป็นครั้งหนึ่งนี่ต้องรักษากันไปหลายเดือนเลยกว่าหน้าจะกลับมาเป็นปกติ

ทายารักษาสิวไม่หายนะ


บางทีเราแยกไม่ออกว่าตุ่มบนหน้าเรามันเป็นสิว หรือว่าเป็นตุ่มที่เกิดจากอาการแพ้กันแน่ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเหมารวมว่ามันเป็นสิว พอเราคิดว่าเป็นสิวเราก็มักจะไปหายาทารักษาสิวมาทาเผื่อจะช่วยให้ตุ่มที่ว่ามันยุบลงไปได้ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น พอลองทายารักษาสิวไปที่หน้ากลับยิ่งทำให้ตุ่มหรือสิวที่ว่ามันลุกลามไปมากกว่าเดิม ผลสุดท้ายก็คือหน้าเยิน แพ้มากกว่าเดิมเข้าไปอีก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า อาการแพ้มันไม่ใช่สิว และเวลาที่เราทายารักษาสิวบางตัวที่มันแรงมากๆมีฤทธิ์ในการผลัดเซลผิวแรงๆ มันจะยิ่งไปกระตุ้นให้อาการแพ้ของเราลุกลามไปมากกว่าเดิม ยิ่งตอนเราแพ้ภูมิต้านทานบนหน้าของเราจะต่ำกว่าปกติ ไม่ต้องถึงกับเจอยาแรงๆหรอก บางคนแค่โฟมล้างหน้าก็ใช้ไม่ได้แล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่จะแพ้ยังใช้ได้อยู่เลยก็มี เพราะฉะนั้นถ้าหน้าเราเกิดอาการแพ้ขึ้นมา ยาไปหายาทารักษาสิวแรงๆมาทาหน้าเด็ดขาด

อาการคันหน้าลางบอกเหตุ


อาการอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนที่แพ้ครีมก็คือ "อาการคันหน้า" บางคนมีอาการแสบหน้าร่วมด้วย ยิ่งคนที่เป็นหนักๆนี่แค่ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่ายังแสบเลย คือ ถ้าเราเป็นสิวแบบทั่วๆไปส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีอาการคันหรอก แต่ก็มีสิวบางอย่างที่อาจจะมีอาการคันบ้าง เช่น สิวผด สิวยีสต์ แต่อย่าสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวช้างนี่ถ้าเป็นมันจะไม่คันนะ ถ้าเราเกิดไปลองครีมหรือเครื่องสำอางตัวใหม่แล้วเกิดมีอาการคันหน้าขึ้นมา ก็ต้องระวังไว้ก่อนเลยว่า เราอาจจะแพ้ครีมตัวนั้นเข้าให้แล้ว

    นี่ก็เป็นความแตกต่างระหว่างอาการแพ้ครีมกับการเป็นสิวแบบธรรมดาเบื้องต้น เอาไว้ใช้สังเกตตัวเองว่าตกลงตอนนี้เราแพ้ครีมหรือไม่แพ้กันแน่ ผมว่าเรื่องนี้สำคัญนะ เพราะถ้าเราวิเคราะห์ผิด เราก็จะรักษาแบบผิดๆ ผลสุดท้ายตุ่มบนหน้าของเราไม่หาย แถมอาจเป็นหนักกว่าเดิมก็เป็นได้ แต่ยังไงซะอาการแพ้อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เขียนไว้เป๊ะๆ อาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละคน ทางที่ดีถ้าเราสงสัยว่าตัวเองแพ้ครีม ก็ไปให้หมอตรวจให้เถอะครับ ชัวร์กว่ากันเยอะเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งลุ้นให้เหนื่อยใจยังไงล่ะครับ

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น