จากที่ได้สัญญาไว้ว่าจะพูดถึงการทดลองใช้ "เจลลดรอยแผลสิว Scarderm plus" วันนี้ก็ถึงเวลาแล้วหลังจากที่ใช้หมดหลอด(หลอดเล็ก 5 กรัม) มาดูผลการใช้ Scarderm plus ตามสไตล์ Acnedefend กันครับ ว่าเป็นยังไง ช่วยเรื่องรอยสิวได้ดีมั้ย ความรู้สึกเป็นอย่างไร และ Scarderm plus แตกต่างจากครีมรักษาแผลสิวตัวอื่นๆ (Hiruscar Postacne , Scagel , Clinascar gel , Mederma)อย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วตามาดูกันไปทีละเรื่องนะครับ
ส่วนผสมสำคัญของ Scarderm plus
- Allium Cepa Bulb Extract สารสกัดจากหัวหอมซึ่งเป็นตัวที่ครีมลดรอยแผลเป็นจากสิวนิยมใช้กัน ส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมนี้แทบทุกยี่ห้อ เป็นเหมือนพระเอกของครีมรักษาแผลเป็นพวกนี้เลยก็ว่าได้
- Snail Secretion Filtrate Extract ถ้า Allium Cepa เป็นพระเอก สารสกัดจากหอยทากสเปนตัวนี้ก็คงเป็นนางเอกของเรื่อง ช่วงนี้กำลังมาแรงด้วยนะกับครีมหอยทาก Scarderm plus ก็ได้ใส่เข้ามาด้วย โดย Snail Secretion Filtrate Extract มันช่วยในเรื่องลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง ช่วยทำให้ผิวที่ไม่สม่ำเสมอของเราเรียบเนียนขึ้น
- Mutivitamin A C E และ F ผสมวิตามินรวมเข้ามาหลายตัวถ้าให้อธิบายทุกตัวท่าจะยาว เอาเป็นว่าผมมองว่าวิตามินเหล่านี้เข้ามาเสริมเล็กๆน้อย ตัวหลักจริงๆของ Scarderm plus ก็จะเป็น Allium Cepa กับ สารสกัดหอยทากมากกว่า
- Centella Asiatica Extract สารสกัดจากใบบัวบก ช่วยลดการอักเสบของผิว ช่วยลดรอยแดง และจุดด่างดำจากสิวได้ดี ก็เป็นอีกส่วนผสมยอดนิยมในครีมลดรอยสิวอีกตัวหนึ่ง
- Aloe Vela Extract สารสกัดจากว่านหางจระเข้ นี่ก็ยอดนิยมเหมือนกัน ใส่แทบทุกยี่ห้อ ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นของผิว ลดการอักเสบ ช่วยฟื้นฟูสำหรับคนที่ผิวไหม้แดดได้ดี
- Allantonin เป็นสารที่ช่วยลดการระคายเคืองของผิวได้ดี ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นด้วย
ดูจากส่วนผสมแล้วก็ไม่หนีจากครีมรักษารอยแผลสิวส่วนใหญ่ แต่ที่เพิ่มเข้ามาและดูแตกต่างก็คงจะเป็นสารสกัดจากหอยทากสเปน(อยากรู้จริงๆว่าหน้าตามันเป็นยังไง) ซึ่งทางผู้ผลิตบอกไว้ว่ามีส่วนช่วยลดรอยแดงจากสิวได้ดี ก็แสดงว่าเราจะได้พลังการรักษาแผลเป็นจาก 2 ตัวใหญ่ๆก็คือ Allium Cepa กับ Snail Secretion Filtrate Extract ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย ซึ่ง % ของ Allium Cepa ที่ใส่เข้ามาใน Scarderm plus หลอดนี้คือ 12% ซึ่งจะเท่าๆกับตัว Hiruscar Postacne หลอดฟ้าขาว
ความรู้สึกหลังใช้ Scarderm plus
เรื่องการซึมเข้าผิว
Scarderm plus มีการซึมเข้าผิวที่ไว ความรู้สึกจะเหมือนกับตอนทา Hiruscar Postacne ซึมไวพอๆกัน ซึ่งจะซึมได้เร็วกว่า Scargel และ Clinascar gel แต่จะไวไม่เท่า Mederma ทาไม่กี่ทีเจลมันก็จะซึมเข้าผิวไปโดยที่ไม่ทำให้หน้าเหนียวมากนัก อาจจะรู้สึกว่าหนืดนิดหน่อย แต่ก็ถือว่า OK นะสำหรับคนผิวมันอย่างผม
กลิ่นน้ำหอม
Scarderm plus ผสมน้ำหอมเข้าไปในปริมาณไม่มาก สังเกตได้จากตอนที่ทาถ้าไม่ตั้งใจดมจริงๆแทบจะไม่ได้กลิ่นเลย อย่างเวลาเราทา Hiruscar , Scagel , Clinascar gel หรือ แม้กระทั่ง Medermar จะได้กลิ่นน้ำหอมที่ชัดเจน โดยเฉพาะ Mederma กลิ่นแรงสุด รองลงมาก็เป็น Clinascar เยอะจนไม่รู้ว่าตกลงมันหอมหรือมันเหม็นกันแน่ Scarderm plus กลิ่นน้ำหอมอ่อนสุดตั้งแต่เคยใช้เจลลดรอยแผลสิวมาเลย
เรื่องการรักษารอยสิว
หลังจากใช้ Scarderm plus มา 1 หลอด พูดกันตรงๆเลยคือยังไม่เห็นผลอะไรชัดเจน คือผมคิดว่าครีมลดรอยสิวพวกนี้มันต้องทานานสักหน่อยถึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จากความรู้สึกที่ได้ลองทามาสักระยะ ผมรู้สึกว่าก็ไม่ได้แตกต่างจาก Hiruscar ,Scagel , หรือ Clinascar gel มากนัก OK ใช้แล้วก็ไม่ทำให้สิวขึ้นเพิ่มแต่อย่างใด ทาแล้วก็รู้สึกว่าช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้นิดๆ รอยแดงจากสิวก็จางลงไปบ้างนะครับสำหรับรอยบางๆ ซึ่งความรู้สึกมันไม่แตกต่างเหมือนตองที่ลองใช้ Mederma ซึ่งมันรู้สึกได้ชัดเจนกว่านะผมว่า
ราคาเป็นยังไง
ราคาของ Scarderm plus หลอด 5 กรัมนี้ ผมซื้อมาที่ 125 บาท ถามว่าแพงมั้ยผมมองว่าราคามาตรฐานครับ ไม่แจกต่างจากครีมลดรอยสิวตัวอื่นๆเท่าไร เพราะฉะนั้นเรื่องราคาคงไม่มีค่อยมีผลต่อการตัดสินใจมากนัก แต่ถ้าไปเทียบกับตัว Dermatix นี้ต้องหยุดคิดนิดหนึ่ง คือเรื่องของเรื่องวันนั้นผมตั้งใจไปซื้อครีมรักษาแผลสิวตัวใหม่มาลองใช้ กำลังชั่งใจว่าจะซื้อตัวไหนมาลองก่อนดีระหว่าง Scarderm plus กับ Dermatix แต่พอรู้ราคาเท่านั้นแหละผมตัดสินใจเลือก Scarderm plus ก่อนเลย เพราะ Dermatix แพงกว่ามาก หลอด 15g 750 บาท ผมฟังแล้วสะดุ้งเลย ตอนแรกกะจะซื้อมาทั้ง 2 หลอด พอเห็นราคา เหลือหลอดเดียวก่อนก็แล้วกัน แต่คราวหน้าผมไม่พลาดแน่ ต้องขอลองของสักหน่อย
เรื่อง Scarderm plus ขอสรุปว่า
สำหรับเจลทารักษารอยแผลสิว Scarderm plus หลอดนี้ ผมมองว่าก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่กำลังมองหาเจลทาลดรอยแดงจากสิวแบบที่แตกต่างออกไป ก็อย่างที่บอกว่ากระแสสารสกัดจากหอยทากกำลังมาแรง ซึ่งเอาเข้าจริงเราก็ไม่รู้ว่าสารสกัดที่ว่ามันมีทีเด็ดขนาดไหน ถ้ามันเข้ามาช่วยเพิ่มพลังในการฟื้นฟูผิวที่โดนสิวทำร้ายร่วมกับ Allium Cepa ได้จริง ก็เท่ากับว่าเราได้เพิ่มพลังการรักษาแบบ X2 เข้าไปก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย แต่ถ้าถามผมว่าผมจะใช้ต่อมั้ยผมว่าคงไม่ใช้ต่อ เพราะผมยังแอบมีใจให้ Mederma มากกว่า และผมยังอยากทดลองครีมรักษารอยแผลเป็นจากสิวอีก 2 ตัว ซึ่งผมเล็งเอาไว้แล้ว ส่วนจะเป็นตัวไหนสามารถติดตามได้ที่หน้าเพจ Facebook หรือหน้า Blog Acnedefend ได้ครับ เดี๋ยวจะกลับมาอัพเดทอีกที สุดท้ายนี้หวังว่าบทความ Scarderm plus ครีมหอยทากตัวนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนนะครับ ^^
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น