"สิวเครื่องสำอาง" คาดว่าหลายคนคงเจอกับปัญหานี้อยู่ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการที่เราลองใช้เครื่องสำอางตัวใหม่ ยี่ห้อใหม่ที่เราไม่เคยใช้มาก่อน แล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้ "หน้าแพ้เครื่องสำอาง" โดยอาการแพ้เกิดขึ้นหลายระดับ ตั้งแต่ระดับสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า ไปจนถึงระดับที่ค่อยๆเกิดสิวอุดตันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างผิดสังเกต ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า สิวเครื่องสำอางที่ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นสิวเครื่องสำอาง
- เป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบซะเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับคนที่แพ้อย่างรุนแรงจะเป็นตุ่มสีแดง เม็ดเล็กๆขึ้นเห่อในบริเวณที่ทาเครื่องสำอาง
- ชอบขึ้นเป็นผื่นที่แก้ม คาง และหน้าผาก(นี่ก็จะทั้งหน้าอยู่แล้ว)
- ระยะเวลาการแสดงตัวของสิวเครื่องสำอางประมาณ 2-3สัปดาห์หลังจากที่ใช้เครื่องสำอางนั้นๆ แต่บางรายที่แพ้อย่างเฉียบพลันแค่ 1-2 วันก็จะแสดงอาการแพ้ออกมาทันที
สาเหตุการเกิดสิวจากเครื่องสำอาง
สาเหตุก็มาจากเครื่องสำอางนั่นแหละครับ แต่จะแบ่งออกเป็น 2 กรณีหลักๆ คือ
1. แพ้เครื่องสำอางอย่างเฉียบพลัน
เกิดจากการที่ผิวของเราแพ้สารที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอางตัวใดตัวหนึ่ง หรือหลายๆตัวที่เราทาอย่างรุนแรง ทำให้เกิดเป็นตุ่มแดง หรือสิวเห่อขึ้นมาเต็มหน้า การแพ้แบบนี้พบเห็นได้บ่อย และรู้ได้ทันทีว่าเราแพ้เครื่องสำอางเข้าให้แล้ว
2. แพ้เครื่องสำอางจากการอุดตัน
กรณีที่ 2 เป็นการแพ้หรือเป็นสิวจากเครื่องสำอางที่เกิดจากการที่ผิวหน้าของเรามันไม่ถูกกับสารบางตัวที่อยู่ในเครื่องสำอางที่ใช้ ทำให้มันเกิดไปอุดตันบริเวณรูขุมขนเข้า เป็นที่มาของการเกิดสิวอุดตันมากมายที่ผิว และถ้าสิวอุดตันที่ว่ามันเกิดโดนสิ่งเร้าก็จะทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบ สิวหนองตามมาในที่สุด ถ้าเป็นสิวจากสาเหตุนี้มักจะไม่ค่อยรู้ตัวว่าเกิดจากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ กว่าจะรู้ก็อาจเป็นสิวเต็มหน้าไปแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าแบบแรกเพราะมันไม่รุนแรงมากสักเท่าไร
วิธีป้องกันการเกิดสิวเครื่องสำอาง
วิธีป้องกันการเกิดสิวจากเครื่องสำอางนี้ที่พอนึกออกก็มีอยู่ไม่กี่วิธี เป็นวิธีที่คิดว่าน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ก็ต้องแนะนำกันไว้ เผื่อบางทีเราก็อาจลืมและคาดไม่ถึง
1. ทดสอบเครื่องสำอางก่อนใช้จริงทุกครั้ง
เพื่อป้องกันสิวหรือผดผื่นที่อาจเกิดจากอาการแพ้เครื่องสำอาง ทุกครั้งก่อนที่เราจะตัดสินใจเอามาทาหน้า ให้เราทำการ Test หรือทดสอบก่อนว่าเราแพ้เครื่องสำอางที่จะใช้หรือไม่ วิธีการทดสอบมีอยู่ 2 วิธีหลักๆคือ
- ทดสอบที่หลังใบหู เป็นการทดสอบที่ให้เราลองเอาครีม มอยเจอไรเซอร์ เซรั่ม หรือเครื่องสำอางที่เราจะใช้มาทาไว้ที่หลังหูของเราก่อน โดยทาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 วันขึ้นไป แล้วสังเกตดูอาการว่ามีผื่นแดง คัน เกิดขึ้นที่หลังหูของเราหรือไม่ ถ้าไม่มีก็อาจวางใจได้ว่าเราคงไม่แพ้เครื่องสำอางที่เราอยากใช้ได้ในระดับหนึ่ง
- ทดสอบที่ท้องแขน เรียการทดสอบแบบเป็นทางการว่า ROAT (Repeat Open Application Test) หรือ Use Test เป็นการทดสอบที่ให้เราเอาเครื่องสำอางที่ต้องการใช้ทาลงบริเวณท้องแขนของเราให้มีขนาดเท่ากับเหรียญ 10 บาท ทาวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันนานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ แล้วสังเกตที่ท้องแขนของเราว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่มีผื่นแดง คัน โผล่ขึ้นมา ก็สามารถเอาไปลองใช้ทาหน้าได้ต่อไป
2. ศึกษาข้อมูลการใช้จาก Internet ก่อนใช้จริง
ลองหาข้อมูลตามเว็บบอร์ดใหญ่ๆอย่าง Pantip , Jeban ค้นหาดูว่าเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่หรือกำลังจะใช้มันมีคนใช้แล้วแพ้มากน้อยแค่ไหน ถ้าแพ้มากกว่าไม่แพ้ก็ต้องคิดหนักหน่อยว่าควรจะซื้อมาใช้ดีหรือไม่
นี่ก็เป็น 2 วิธีหลักๆที่ใช้ทดสอบอาการแพ้เครื่องสำอางที่อาจเกิดขึ้นกับเราได้ แต่การทดสอบดังกล่าวก็ไม่ได้การันตีว่าพอเอาไปทาหน้าแล้วจะไม่แพ้แน่นอน ต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วย ซึ่งถ้ามองโลกในแง่ดีแล้ว การทดสอบก่อนใช้จริง ก็ยังดีกว่าเอาไปทาหน้าเลยแล้วก็เกิดอาการแพ้ขึ้นมาจริงมั๊ยครับ
วิธีรักษาสิวที่เกิดจากเครื่องสำอาง
หยุดใช้เครื่องสำอางเป้าหมายทันที
วิธีรักษาสิวที่เกิดจากเครื่องสำอางนั้น อันดับแรกเราควรหยุดใช้เครื่องสำอางต้องสงสัยโดยทันที เพื่อหยุดอาการแพ้ที่เกิดขึ้นกับหน้าของเราก่อน แต่ถ้าจะให้ดีหยุดเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ทุกตัวเลยก็ดี มารักษาสภาพหน้าที่แพ้ให้หายก่อน จากนั้นก็ค่อยๆสืบหาไปทีละตัวว่าเครื่องสำอางตัวไหนกันแน่ที่เราแพ้ โดยวิธีการทดสอบทำได้โดย ให้เราลองใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่เราใช้อยู่ทีละตัว ใช้นานประมาณ 2 สัปดาห์ ถ้าไม่เกิดอาการแพ้ สิวขึ้น ก็วางใจได้ จดบันทึกเอาไว้ว่าสามารถใช้ต่อไปได้ จากนั้นก็ลองกับเครื่องสำอางตัวอื่นๆไปเรื่อยๆ จนเจอตัวที่เป็นต้นเหตุทำให้สิวขึ้นหน้าเรา ก็จัดการจับมันโยนทิ้งไปได้เลย อย่าเสียดายถ้าเครื่องสำอางชิ้นนั้นมันราคาแพง เพราะมันไม่คุ้มกันแน่ถ้าทาแล้วสิวเห่อขึ้นหน้า
ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า
เมื่อเราหยุดใช้เครื่องสำอางทุกชนิดที่หน้า เราก็สามารถล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าได้ การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเป็นการล้างหน้าที่อ่อนโยนมากที่สุด ช่วยลดความระคายเคืองของผิวจากการถูกเครื่องสำอางทำร้ายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญเหมาะกับช่วงการทดสอบอาการแพ้เครื่องสำอางที่สุด เพราะโฟมล้างหน้าหรือสบู่ล้างหน้าที่เราใช้ ก็อาจเป็นผู้ต้องสงสัยที่ทำให้สิวเครื่องสำอางขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นอย่ากลัวว่าล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าจะไม่สะอาด สะอาดแน่นอน เผลอๆล้างไปล้างมาอาจติดใจ เพราะช่วยให้สิวหายหน้าใสแบบไม่รู้ตัวด้วยนะ จะบอกให้
ทายารักษาสิวตามสภาพ
ถึงแม้จะบอกว่าให้หยุดใช้เครื่องสำอางทุกชนิด แต่บางครั้งถ้าอาการแพ้เครื่องสำอางมันหนักมากๆ ประมาณว่าเป็นสิวหนอง สิวอีกเสบขึ้นมาเต็มหน้า การทายาเพื่อลดอาการแพ้ดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่น้อย ส่วนยาทารักษาสิวที่ใช้ก็ทาตามอาการที่เกิดขึ้น เช่น ถ้าเป็นสิวอักเสบ ก็หายาแต้มสิวมาทา หรือถ้าเป็นพวกสิวผดเยอะๆ ก็อาจหายาทาฆ่าเชื้อรามาทา หรือ ถ้ามีอาการคันร่วมด้วยก็อาจหายาทาแก้คันมาทา ซึ่งยาเหล่านี้มีขายตามร้านขายยาทั่วไป อาจลองไปปรึกษาเภสัชที่ร้านให้เขาแนะนำให้ก็ได้ครับ
กินยารักษาด้วยถ้าจำเป็น
สุดท้ายแล้วถ้าอาการแพ้ หรือสิวเครื่องสำอางมันหนักมากๆ ก็ต้องหายามากินเพื่อระงับอาการโดยด่วน ซึ่งส่วนใหญ่ยาที่นิยมเพื่อใช้รักษาอาการเบื้องต้น ก็จะมียาแก้แพ้ กับยาแก้อักเสบเป็นหลัก ยาแก้แพ้มักใช้กับคนที่เป็นสิวเม็ดเล็กๆ แดงๆ คัน เห่อขึ้นมากมาย ส่วนยาแก้อักเสบมักกินในกรณีที่มีสิวอักเสบร่วมด้วย
ถึงแม้ว่าการใช้เครื่องสำอางทาหน้าจะเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวเครื่องสำอางได้ง่าย แต่ยังไงซะถ้าบอกว่าให้เลิกใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ก็คงเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะกับสาวๆด้วยแล้ว เป็นเรื่องที่ทำใจยากจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนี้เราก็ต้องอยู่กับเครื่องสำอางเหล่านี้ไปให้ได้ ทดสอบก่อนใช้จริงทุกครั้งที่ลองผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆ และหมั่นสังเกตหน้าของตัวเองเป็นประจำ เผื่อเราแพ้ขึ้นมาจะได้รู้ตัวก่อนที่จะสายเกินไป ไม่ว่าจะเป็นสิวแบบไหนก็คงไม่มีใครอยากเป็นทั้งนั้น แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องสิวแล้วนึกวิธีแก้ไขไม่ออก ก็มาปรึกษากันได้ที่นี่ครับ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน เป็นกำลังใจให้คนเป็นสิวทุกๆคนครับ
สิวหายได้ เราเคยเป็นสิวหนักมาก แต่ปัจจุบันหายขาดได้ ดีใจมาก
ตอบลบรักษาด้วยตัวเอง ทั้งวิธีธรรมชาติและครีม
ลบ