เขียน Case study การรักษาสิวของคนอื่นมาหลายบทความ เมื่อวานเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เขียน Case study การรักษาสิวของตัวเองแบบจริงๆจังๆสักที วันนี้ฤกษ์งามยามดีขออนุญาตแชร์ประสบการณ์รักษาสิวที่ผ่านมาของผมสักหน่อย ขอเขียนเป็นบทสรุปสั้นๆง่ายๆแต่ใช้ได้จริงก็แล้วกันครับ
อยู่เฉยๆก็เป็นสิวได้
นี่คือคำจำกัดความลักษณะการเกิดสิวบนหน้าของผมในอดีต ตรงตัวเลยครับไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่บ้านเฉยๆ งานไม่ได้ทำ ฝุ่นไม่ได้เจอ เครียดก็ไม่เครียด นอนก็เต็มอิ่ม ตื่นเช้ามาส่องกระจก นั่นไง!!!! "สิวขึ้นอีกแล้ว" เป็นอย่างนี้อยู่หลายปีคำนวณคร่าวๆผมว่าไม่ต่ำกว่า 10 ปี ไม่รู้ทนเป็นสิวนานขนาดนี้ได้ยังไง อาจเป็นเพราะมีเรื่องอื่นให้คิดเยอะเพราะตอนนั้นเริ่มทำงานใหม่ๆเลยไม่มีเวลาดูแลผิวหน้าตัวเองสักเท่าไร ผลที่ตามมาก็คือเป็นทั้งสิวและหลุมสิวมาอย่างยาวนาน
เริ่มรักษาสิวอย่างจริงจัง
หลังจากเริ่มรู้สึกตัว ผมมีความคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างกับสิวบนหน้าบ้างแล้วล่ะ ปล่อยมันคุมคามหน้ามานานเกินไปแล้ว เชื่อมั้ยครับว่าผมไม่เคยคิดไปหาหมอรักษาสิวเลย ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่น่าจะเป็นสิ่งที่ผมต้องนึกถึงก่อน สิ่งที่ผมเริ่มทำคือการหาข้อมูลจาก Internet เพื่อเริ่มต้นการรักษาสิวด้วยตัวเอง ในระหว่างที่ลองผิดลองถูกกับวิธีรักษาสิวที่หลากหลายผมคิดว่าถ้าไม่จดบันทึกวิธีการเหล่านี้ไว้ผมอาจจะลืมมันไป จึงตัดสินใจสร้างบล็อก Acnedefend แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นไดอารี่สำหรับจดบันทึกประสบการณ์รักษาสิวที่ผ่านมาทั้งหมด จากวันนั้นถึงวันนี้ ปัญหาสิวที่เคยเกิดขึ้นได้ถูกแก้ไขแล้ว อาจไม่ถึงกับหน้าใสเหมือนคนผิวดีทั่วไป แต่ผมก็พอใจในสิ่งที่เป็น จากที่เคยคิดว่าชาตินี้คงเป็นสิวไปตลอดชีวิต มาถึงจุดนี้ได้ผมดีใจมากและอยากแชร์ประสบการณ์หรือ Case study นี้ให้กับผู้อ่านบล็อกทุกๆคน ขอสรุปเป็นข้อๆดังต่อไปนี้
บทสรุปการรักษาสิวด้วยตัวเอง
- เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าใหม่หมด เลือกให้เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง (ลองผิดลองถูกจนเจอ)
- ใช้ครีมบำรุงผิวให้น้อยตัวที่สุด เน้นยาทายารักษาสิว กับมอยเจอไรเซอร์เท่านั้น
- เปลี่ยนโฟมล้างหน้าและการล้างหน้าใหม่ หาให้เจอว่าโฟมตัวไหนเหมาะกับเรา สำหรับผม Acne-aid ขวดสีแดง(เป็นคนหน้ามันจัด) และเปลี่ยนจากการล้างหน้าแบบทั่วไปมาเป็นล้างหน้าตามแนวโพรงขน
- ล้างหน้าแค่วันละ 2 ครั้ง ตอนสิวเห่อเยอะๆล้างหน้าวันละ 3-4 ครั้ง
- ไม่ใช้น้ำอุ่นล้างหน้า เคยคิดว่ามันดีเลยลองทำดู ผลสุดท้ายสิวขึ้นหนักกว่าเดิมอีก
- ใช้กระดาษซับมันน้อยลง
- หาให้เจอว่าอะไรกระตุ้นการเกิดสิวของเรา สำหรับผมมีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ นอนดึก ความเครียด ความร้อนและเหงื่อ ขนมหวาน ขนมปังเบเกอรี่
- เลิกจับ แคะ แกะ เกาสิว เมื่อก่อนชอบทำบ่อยเผลอเป็นไม่ได้
- เน้นกินอาหารคลีนมากขึ้น ผักผลไม้อย่าให้ขาด ลดของมัน ของหวาน และอาหารรสจัดลง
- ดื่มน้ำผลไม้สดๆอย่างสม่ำเสมอ น้ำสมุนไพร น้ำแครอท น้ำมะเขือเทศ วนเวียนอยู่ประมาณนี้
- ขับถ่ายให้เป็นเวลา และพยายามอย่าให้ท้องผูก
- ไม่นอนดึก ช่วงแรกที่รักษาสิวผมเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้ผิวสวย และช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้นด้วย
- เปลี่ยนทัศนคติใหม่ คิดบวกเข้าไว้ เชื่อมั่นว่าสิวบนหน้าเราต้องหายเราต้องทำได้
เป็นยังไงบ้างครับกับประสบการณ์การรักษาสิวของผม ดูเหมือนเยอะและจุกจิกแต่พอทำไปเรื่อยๆมันก็ชินไปเอง จนสุดท้ายก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไป ผมว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการรักษาสิวคือ "ความอดทน" เพราะบางครั้งการรักษาสิวสำหรับบางคนอาจต้องใช้เวลาหลายปี ผมเคยอ่านหนังสือของคุณหมอท่านหนึ่งซึ่งบอกไว้ว่า คนที่เป็นสิวฮอร์โมนถ้าจะรักษาสิวให้หายต้องใช้เวลาถึง 5 ปีเพื่อให้ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง อ่านแล้วสะดุ้งแล้วก็คิดไปว่าสงสัยผมคงจะเป็นสิวฮอร์โมนแน่เลย เป็นสิวนานเหลือเกิน
ผมคิดว่าถ้าเราอดทน เข้าใจปัญหาสิวของตัวเอง และพยายามรักษาด้วยแนวทางที่เหมาะสม ผมเชื่อเหลือเกินว่าสิวบนหน้าเราต้องหายได้สักวัน ผมทำได้แล้วและก็เชื่อว่าทุกคนต้องทำได้เช่นกัน "อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งถอดใจ กัดฟันทนเอาไว้ วันหน้าใสรอเราอยู่" เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
ของคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ
ตอบลบ