บทความนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผมไปหาหมอเพื่อทำ VIPL ครั้งสุดท้ายที่นิติพลคลินิก เป็นการทำ VIPL ครั้งที่ 4 และเป็นการทำครั้งที่ 8 ถ้านับรวมทั้งคอร์สคือ Mini subcision + VIPL 2 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหกกับเงินที่เสียไป 20,000 กว่าบาท ได้อะไรกลับมาบ้างเล่าผ่านบทความนี้เลยก็แล้วกันครับ เล่าเสร็จค่อยไปต่อเรื่องครีมลดรอยดำ PK Blink Gel , เมโสหน้าใส , โบท็อกซ์ และการร้อยไหมกันต่อ
ผลที่ได้จากคอร์สหลุมสิวที่นิติพล
ผลที่ได้จากการเข้าคอร์สหลุมสิว Mini subcision + VIPL คือ รู้สึกว่าหลุมสิวตื้นขึ้นครับ คือมันไม่หายซะทีเดียวแต่ผิวบริเวณหลุมสิวมันดูฟูขึ้นรู้สึกว่ามีเนื้อขึ้นมา จากผิวที่ดูเหมือนมันตายไปแล้วกลับมาเหมือนมีชีวิตอีกครั้ง มันจะแดงๆเหมือนตอนเราบีบสิวเสร็จใหม่ๆ หลุมใหญ่ยังคงเห็นชัดอยู่ แต่หลุมสิวขนาดเล็กรู้สึกว่าตื้นขึ้นมาก ส่วนรอยแดง จุดด่างดำจากสิวนี่หายสนิท ถามว่าพอใจมั้ยผมพอใจนะ ถึงแม้ว่าหลุมสิวมันจะไม่หายไปแบบเรียบเนียนไปเลย ซึ่งจริงๆผมรู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางหายแบบ 100% อยู่แล้ว และตัวผมเองก็เป็นหลุมสิวค่อนข้างเยอะ ที่ลองทำดูก็แค่อยากให้มันตื้นขึ้นบ้างเท่านั้นเอง
สรุปความพึงพอใจและความคุ้มค่า
สำหรับคอร์ส Mini subcision + VIPL ผมว่ามันช่วยเรื่องหลุมสิวได้จริงนะ ดีกว่า Dermaroller ที่ผมเคยทำเยอะเลย เจ็บน้อยกว่า น่ากลัวน้อยกว่า แต่ได้ผลดีกว่า ใครเป็นหลุมสิวเยอะๆผมแนะนำเลยแต่ต้องทำเป็นคอร์สเหมือนผมนะ ถ้าซื้อเดี่ยวๆแล้วทำครั้งสองครั้งผมว่าไม่ได้ผลและแพงด้วย ที่ผมชอบมากคือซื้อเป็นคอร์สแบบนี้เค้าจะทำ Subcision ให้แบบไม่จำกัดด้วย มีกี่หลุมทำให้หมดแต่จะทำเฉพาะวันที่ทำ Mini subcision เท่านั้นนะครับ วันที่ทำ VIPL เค้าจะไม่ทำให้แต่จะมีบริการกดสิวให้ฟรี แต่ถ้าวันที่เราไปหน้าเรามีสิวอักเสบขึ้นหมอก็จะฉีดสิวให้ฟรีเลย มีกี่เม็ดแกฉีดให้หมด มีวันหนึ่งสิวขึ้นที่คอผม(ไม่รู้ขึ้นได้งัยไม่เคยเป็นมาก่อน) หมอยังฉีดสิวให้ผมเลย ขอชมเลยว่าหมอคนนี้ดีมากๆ พูดจาไพเราะ เป็นกันเอง ให้คำปรึกษาดีถามอะไรตอบหมด ขนาดพนักงานยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าในบรรดาหมอของที่นี่หมอคนนี้ดีสุด แล้วก็จริงอย่างที่เค้าว่า ผมประทับใจครับเลยอยากบอกต่อ เผื่อใครอยากไปใช้บริการไปได้ที่นิติพลคลินิกสาขาอนุสาวรีย์ชัยฯ หมอจะอยู่ทุกวันพุธ ทำดีบริการดีผมโฆษณาให้ฟรีเลย
ครีมลดรอยดำจากสิว PK Blink Gel
PK Blink Gel เป็นครีมลดรอยดำจากสิวที่หมอแนะนำให้ผมใช้ คือหมอเห็นว่าหน้าผมมันยังเป็นรอยดำที่เกิดจากการทำ Mini subcision อยู่ หมอบอกว่าถ้าไม่รีบทำให้มันหายรอยดำจะฝังลึกและหายยากขึ้น ก็เลยแนะนำให้ผมใช้ PK Blink Gel ตัวนี้มันช่วยให้รอยดำ จุดด่างดำจากสิวหายเร็วขึ้น เร็วกว่าตัวคอลลาเจน + วิตามินซีที่เคยจ่ายให้ผมตอนแรก ผมก็เลยถามกลับไปว่าเจ้า PK Blink Gel หลอดนี้มันมีสารตัวไหนเป็นส่วนผสมมันถึงช่วยลดรอยดำจากสิวได้ดี หมอบอกว่ามันมีส่วนผสมของ Arbutin ได้ยินชื่อสารตัวนี้ผมก็รู้สึก OK นะ ถ้าใครติดตามบล็อก Acnedefend มานานคงเคยอ่านบทความเกี่ยวกับ Arbutin ที่ผมเคยเขียนอยู่บ้าง แต่ถ้าใครยังไม่เคยอ่านตามไปอ่านได้ที่นี่ครับ ลดจุดด่างดำกับ Alpha Arbutin ช่วยหน้าขาวใส ว่าแต่ใช้กับคนเป็นสิวดีหรือเปล่านะ?
พอฟังสรรพคุณของ PK Blink Gel จบ ผมก็ตอบตกลงไป เอาก็เอาโดยที่ไม่ได้ถามราคาก่อน พอตอนจ่ายตังค์ตกใจให้แบงค์พันไปทอนมา 250 สรุปคือกระปุกละ 750 บาทกับปริมาณแค่ 30 กรัม อืม....นะ ไหนๆก็ไหนๆลองดูเผื่อใช้ดี (แอบเหงื่อตก)
ทำเมโสหน้าใส
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นบทความว่านี่เป็นการทำ VIPL ครั้งสุดท้ายของผม หมอก็เลยถามว่าผมพอใจกับเรื่องหลุมสิวหรือยัง ผมก็ตอบกลับไปว่าตอนนี้ผมพอใจแล้วเพราะถ้าทำต่อหน้าจะหายไม่ทันงานแต่ง หมอก็เลยถามว่าจะทำตัวลดรอยดำตัวอื่นต่อมั้ย(คงเห็นหน้าผมยังเป็นรอยดำเยอะอยู่) หมอแนะนำให้ 2 ทางเลือกคือ 1. ทำเมโสหน้าใสหรืออีกชื่อคือเมโสดีท็อกซ์ กับ 2. กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabration) ผมตอบกลับไปว่าขอคิดดูก่อนแต่ใจจริงผมสนใจตัวเมโสหน้าใสอยู่ก็เลยถามว่าค่าใช้จ่ายของการทำเมโสอยู่ที่เท่าไร หมอบอกว่าทำครั้งละ 5,000 บาท ฉีดครั้งเดียวอยู่ได้นาน 3-4 เดือน (นึกในใจแอบแพงเหมือนกันนะเนี่ย) ผมก็ยังไม่ตอบตกลงขอไปทำ VIPL ครั้งสุดท้ายก่อนค่อยว่ากันอีกที
ฉีดโบท็อกซ์และการร้อยไหม
หลังจากทำ VIPL เสร็จพนักงานจะรับช่วงต่อจากหมอเพื่อทาครีมลดการระคายเคืองกับครีมกันแดดให้ก่อนกลับบ้าน ระหว่างที่ทำนี้เองผมมีโอกาสได้คุยกับพนักงานเรื่องการฉีดโบท็อกซ์และการร้อยไหม พนักงานคนนี้เล่าให้ผมฟังว่าเค้าชอบทำร้อยไหมที่หน้าโดยให้เหตุผลว่าการร้อยไหมช่วยให้หน้าเค้ากระชับได้รูป ทำให้ผิวหน้าเต็ม หน้าจะเด้งฟูเพราะการร้อยไหมเป็นการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งจะน้อยลงเรื่อยๆเมื่อเรามีอายุมากขึ้น ฟังแล้วน่าสนใจผมก็เลยถามต่อว่า ร้อยไหมนี่เค้าทำกันยังไง พนักงานตอบว่าเหมือนการเย็บผ้าเลย ฉีดยาชาแล้วหมอจะเอาเข็มยาวๆแทงเข้าไปใต้ผิว พนักงานบอกเจ็บมาก เจ็บกว่าการทำ Mini subcision อีก ผมก็ได้แต่นึกภาพตามแต่ก็ยังไม่ค่อยกระจ่างเพราะไม่เคยทำสักทีก็เลยถามว่าค่าใช้จ่ายในการทำเท่าไร พนักงานตอบว่าถ้าเป็นพนักงานจะมีราคาสำหรับพนักงานอยู่แต่ถ้าเป็นลูกค้าทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 30,000 บาทแล้วแต่ว่าทำกี่จุดทำมากน้อยแค่ไหน โดยหลังจากร้อยไหมแล้วไหมจะอยุ่ในผิวเราประมาณ 4-5 เดือนแล้วมันจะละลายไปเอง ซึ่งจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงหน้าจนกว่าจะครบกำหนด 2 ปี หน้าเราก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ถ้าอยากให้หน้ากระชับอีกก็ต้องไปร้อยไหมอีก
คุยไปคุยมาก็ไปต่อกันที่เรื่องฉีดโบท็อกซ์ต่อซึ่งพนักงานเล่าให้ฟังว่าเค้าทำควบคู่กันไปกับการร้อยไหม ร้อยไหมเพื่อให้ได้โครงหน้าที่ต้องการ ส่วนโบท็อกซ์ฉีดเพื่อลดริ้วรอยบนหน้า เช่น รอยตีนกา ร่องแก้ม รอยย่นที่หน้าผาก ฟังแล้วได้เรื่องเลยคือผมสงสัยมานานแล้วว่าการฉีดโบท็อกซ์มันคืออะไร แล้วมันมีกลไกออกฤทธิ์ยังไงถึงทำให้ริ้วรอยหายได้ในเวลาอันรวดเร็วก็เลยถามไป พนักงานตอบว่าการฉีดโบท็อกซ์มันจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ถูกฉีดถูกระตุ้นไม่ให้เกิดการหดตัวซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆ พูดง่ายๆคือฉีดแล้วทำให้กล้ามเนื้อมันตึงขึ้นนั่นเอง ฉีด 1 ครั้งจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน พอหมดฤทธิ์ริ้วรอยก็จะกลับมาเหมือนเดิมแต่จะไม่มากกว่าเดิม (เค้าว่างั้นนะ) ฟังแล้วรู้อะไรขึ้นเยอะเลย แต่ไม่รู้ว่าจะดีอย่างที่เค้าบอกหรือเปล่านะเพราะมันเป็นการฟังความข้างเดียวเท่านั้น
เรื่อง Mini subcision + VIPL เป็นประสบการตรงณ์ที่ผมทำมาไม่มีการแต่งเสริมเติมแต่งใดๆทั้งสิ้น ส่วนเรื่องเมโสหน้าใส ฉีดโบท็อกซ์ และการร้อยไหมเป็นเรื่องที่ฟังจากหมอและจากพนักงานอีกที วิธีการทำคงจะจริงแต่เรื่องผลที่ได้นี่ไม่รู้ ผมขอไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ก็แล้วกันเพราะยังไม่เคยทำ เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วดีหรือเปล่าควรไปทำหรือเปล่า? หลังจากนี้คงรอดูผลการใช้ PK Blink Gel ก่อนว่าใช้ดีแค่ไหน ช่วยลดรอยดำเร็วหรือเปล่าถ้าใช้ดีก็คงซื้อใช้ต่อแต่ถ้าไม่ดีก็เลิกใช้ไป ส่วนเรื่องทำเมโสหน้าใสขอตัดสินใจอีกที ถ้าได้ทำผมเอากลับมาเล่าให้ฟังแน่นอนครับ ^^
เคยทำมาหมดแล้วค่ะ เมโสหน้าใสฉีดเสตมเซลเกร็ดเลือดของตัวเอวโบท๊อกร้อยไหมยกแก้มร้อยจมูก. ฉีดฟิลเลอร์แก้ม ใต้ตา. คาง. แนะนำอย่าทำเลยค่ะเสียเงินปล่าว แต่ที่พอจะโอเคร โบท๊อก ค่ะนอกนั้นไม่ได้ผล ได้ปลแค่ช่วงแรกหน้าเด้งใสตึงเพราะมันบวมอักเสบค่ะ
ตอบลบ