แชร์ประสบการณ์รักษาหลุมสิว จุดด่างดำจากสิว ด้วยวิธี Microdermabrasion(MD)ได้ผลหรือไม่ ดีไม่ดีอย่างไร?


ทำ Microdermabrasion ลบรอยสิว จุดด่างดำจากสิว

วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การรักษาหลุมสิว รอยแผลสิว จุดด่างดำจากสิว ด้วยวิธีที่เรียกว่า Microdermabrasion(MD) หรือการกรอผิวด้วยผงอัญมณี ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เหมาะกับคนที่อยากลบรอยสิว แต่ไม่อยากเจ็บตัวหรือพักฟื้นนานๆ ก่อนอื่นมารู้จักกับเจ้า Microdermabrasion กันก่อนว่ามันคืออะไร? ใช้ทำอะไร? แล้วมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร?


Microdermabrasion (MD) คือ อะไร?


Microdermabrasion (MD) หรือ การกรอผิวด้วยผงอัญมณี เป็นการใช้เครื่องมือชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นแท่งคล้ายหลอดอ้วนๆ ซึ่งแท่งที่ว่าจะมีหน้าที่พ่นผงอัญมณีลงบนหน้าหรือผิวบริเวณที่เป็นรอยสิว หลุมสิว หรือริ้วรอยแห่งวัย โดยผงอัญมณีที่ว่าไม่ใช่ผงเพชร ทอง หรือพลอยแต่อย่างใด แต่มันเป็นผงขนาดเล็กระดับ Micro เช่น aluminum oxide, sodium chloride หรือ sodium bicarbonate

    ลักษณะการทำงานของ Microdermabrasion นั้น มันจะปล่อยหรือพ่นผงอัญมณีที่ว่าลงบนผิวหน้าของเรา ในขณะเดียวกันมันก็จะทำหน้าที่ดูดผงนั้นกลับเข้าสู่เครื่องพ่น โดยจะพ่น ดูด พ่น ดูด ไปเรื่อยๆ ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ผิวชั้นบนของเราเกิดการผลัดตัวเร็วขึ้น หรือพูดง่ายๆก็คือผิวชั้นหนังกำพร้าหรือขี้ไคลของเราจะหลุดลอกเร็วกว่าปกติ ซึ่งมีส่วนช่วยให้รอยแผลสิว จุดด่างดำจากสิวบนหน้าของเราจางลง หรือหายไปได้นั่นเอง

ราคาของการทำ Microdermabrasion(MD)


ราคาของการกรอหน้าด้วยอัญมณี Microdermabrasion นั้น ต้องบอกว่าไม่แพงมากนัก หากเทียบกับการทำเลเซอร์แล้วถูกกว่ามาก โดยอาจจะคิดเป็นการทำต่อครั้งประมาณ 500-1,000 บาท/ครั้ง หรือบางทีเหมาเป็นคอร์ส 10 ครั้งประมาณ 4,000-9,000 บาทก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับคลินิกที่ไปทำด้วย ซึ่งบางที่อาจจะเรียกชื่อไม่เหมือนกัน เช่น Crystal peel หรือ Crystal peeling แต่ความจริงแล้วมันก็คือการกรอหน้าลบรอยสิวด้วยเกร็ดอัญมณีเหมือนกัน


ผลที่ได้รับจากการทำ Microdermabrasion(MD)


  • ช่วยให้รอยแผลสิว จุดด่างดำจากสิวจางลง

  • ช่วยให้ผิวของเราผลัดเซลผิวเก่า สร้างเซลผิวใหม่ได้รวดเร็วขึ้น

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวหน้า

  • ช่วยทำให้ผิวหน้าที่หมองคล้ำดูสว่าง กระจ่างขึ้น

ข้อดีของการทำ Microdermabrasion(MD)


  • ไม่ต้องพักฟื้นนาน หรือพูดว่าไม่ต้องพักฟื้นเลยก็ได้ เพราะหลังจากทำเสร็จหน้าเราจะแดงเล็กน้อย และภายใน 1-2 ชั่วโมง อาการเหล่านั้นก็จะหายไปเหมือนไม่ได้ทำอะไรมาเลย

  • ไม่เจ็บตัวมาก หรือจะบอกว่าไม่เจ็บเลยก็ได้ ถึงจะบอกว่าเป็นการเอาผงอัญมณีไปพ่นลงหน้า แต่ความรู้สึกตอนทำเหมือนเอากระดาษทรายมาขูดที่หน้าเบาๆ(ว่าแต่เคยมีใครเอากระดาษทรายมาขัดหน้าบ้างมั๊ยเนี่ย) มันไม่เจ็บอะไรเลยจริง ตอนทำรู้สึกสบายๆ ต่างจากการทำเลเซอร์หลุมสิวหรือ Dermaroller เยอะ อันนั้นเจ็บจริงจังเลย

  • ไม่ต้องทายาชา ก็อย่างที่บอกว่ามันทำแล้วไม่เจ็บ เพราะแค่เอาอะไรไปขูดหน้าเท่านั้น ไม่ได้มีผลกับผิวชั้นหนังแท้ซึ่งอยู่ลึกไปเลย

  • ค่าใช้จ่ายถูก หากเทียบกับการทำเลเซอร์หลุมสิว , Dermaroller , Subcision

  • ผลข้างเคียงน้อยมาก ทำแล้วเหมือนไม่ได้ ไม่เจ็บ ไม่ตกสะเก็ด ไม่มีแผลเป็น เหมือนพวกเลเซอร์ แล้วก็ไม่ต้องกลัวแพ้สาร แพ้ครีม เหมือนการลอกผิวด้วย AHA แต่อาจจะมีบางคนอาจแพ้ผงอัญมณีได้ ซึ่งก็มีน้อยคนที่จะแพ้

ข้อเสียของการทำ Microdermabrasion(MD)


จะบอกว่าข้อเสียก็ไม่เชิง จริงๆต้องบอกว่าเป็นข้อด้อยมากกว่า มีอะไรบ้างมาดูกันครับ

  • ต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผล เนื่องจากการกรอผิวด้วยวิธี Microdermabrasion(MD) นั้นเป็นการทำกับผิวหนังชั้นบนสุด หรือชั้นหนังกำพร้า ไม่ได้ลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ ซึ่งหากต้องการผลลัพธ์การลบรอยสิวหรือจุดด่างดำที่น่าพอใจ ต้องทำอย่างน้อย 10 ครั้ง ถ้าทำแค่ 1-5 ครั้งก็แทบจะไม่เห็นผลอะไรมาก โดยเฉพาะกับรอยแผลสิวที่ลึกกว่าปกติ

  • ไม่เหมาะกับคนเป็นหลุมสิว หรือรอยแผลเป็นที่ลึกมากๆ พูดตรงๆก็คือ การทำ Microdermabrasion นั้นแทบจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นไม่ได้เลย อย่างมากก็แค่ทำผิวด้วยเนียนขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย หรืออาจจพทำให้หน้าดูขาวกระจ่างขึ้น ซึ่งเกิดจากการหลุดลอกของเซลผิวชั้นบนเท่านั้น พอนานๆเข้าเซลผิวเหล่านั้นก็จะถูกสร้างขึ้นมาอีกเรื่อยๆ ซึ่งเป็นธรรมชาติของกลไกการทำงานตามปกติของผิวหนังของเราอยู่แล้ว

  • ไม่เหมาะกับคนที่ยังเป็นสิวเยอะอยู่ โดยเฉพาะกับคนที่เป็นสิวอักเสบ เพราะการกรอผิวจะทำให้หน้าเกิดการระคายเคืองมากขึ้น อาจทำให้สิวอักเสบง่ายขึ้นได้

เรื่องเล่าจากประสบการณ์การทำ Microdermabrasion(MD) ของผม


อย่างที่ผมเคยบอกไป ว่าก่อนที่ผมจะรักษาหลุมสิวด้วย Dermaroller นั้น ผมเคยทำ Microdermabrasion หรือตอนที่ผมทำที่คลินิกเรียกคอร์สนี้ว่า Crystal peel มาก่อน ซึ่งตอนทำไม่ได้ศึกษาอะไรมากเท่าไร รู้คร่าวๆแค่ว่ามันช่วยลดรอยสิว หลุมสิวได้ ผมก็ตัดสินใจไปทำเลย ตอนนั้นราคาคอร์ส 10 ครั้ง อยู่ที่ 9,000 บาท

    วันที่ทำผมเดินเข้าไปที่คลินิกอย่างมุ่งมั่น คิดในใจว่าคราวนี้หน้าเราใสไร้รอยสิวแน่นอน เจอหน้าพนักงานผมก็บอกเขาเลยว่า ผมจะมาทำ Crystal peel ครับ พนักงานก็งงๆแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้ผมกรอกประวัติแล้วรอพบหมอเลย

   นั่งรอหมออยู่ประมาณ 10 นาที หมอก็เรียกเข้าไปในห้อง ผู้ช่วยก็จัดการล้างหน้าล้างตาให้ผม ทาครีมอะไรสักอย่างลง แล้วหมอก็จัดการเปิดเครื่อง Microdermabrasion กรอผิวหน้าให้ผม ความรู้สึกตอนทำครั้งแรกมันแปลกใหม่มาก ไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด หมอก็ขูดหน้าเราเป็นแนวเป็นแถบไปเรื่อยๆจนคบทั้งหน้า จากนั้นก็ทำความสะอาดหน้า ทาครีม รับครีมบำรุง แล้วก็กลับบ้านได้

ความจริงที่ผมรู้หลังจากที่ทำ Microdermabrasion เสร็จ


หลังจากผมทำ Microdermabrasion เสร็จ จ่ายตังค์เรียบร้อย รอรับครีมบำรุงผิวอยู่ พนักงานก็ถามผมว่าทำไมถึงเลือกทำ Microdermabrasion คะ? ผมก็ตอบว่าก็เห็นว่ามันช่วยรักษาหลุมสิวได้ก็เลยลองทำดู แล้วพนักงานก็บอกความจริงที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน(ในตอนนั้น) ว่า ถ้าอยากรักษาหลุมสิวให้ได้ผลดี น่าจะทำ Dermaroller มากกว่านะคะ จะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ 30%-90% เลยทีเดียว การทำ Microdermabrasion  5 คอร์ส (ประมาณ 50 ครั้ง) ยังได้ผลไม่เท่าการทำ Dermaroller คอร์สเดียวเลยค่ะ

    พอผมได้ยินอย่างนั้น ผมก็นึกในใจว่าทำไมไม่บอกผมก่อนที่จะทำ ผมจะได้ไม่ทำ Microdermabrasion จะได้ทำ Dermaroller ซะเลย แต่ผมก็ไม่โทษใครนะครับ โทษตัวเองนี่แหละที่ไม่ศึกษาข้อมูลอะไรมาให้ดีก่อน ใจร้อน ตัดสินใจเร็วไปหน่อย ก็ถือว่าการทำ Microdermabrasion หรือ Crystal peel ในครั้งนั้นเป็นประสบการณ์การรักษาหลุมสิวที่ดีของผมครั้งหนึ่งก็แล้วกัน

สรุปเลยแล้วกัน


สุดท้ายนี้ผมขอสรุป เรื่องการกรอผิวลดรอยสิว แผลสิว จุดด่างดำจากสิวด้วย วิธี Microdermabrasion (MD) ตามความคิดเห็นส่วนตัวว่า เป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่เป็นรอยสิว แผลสิว จุดด่างดำจากสิวบางๆเท่านั้น ใครที่เป็นหลุมสิวลึกๆ เยอะๆ ไม่แนะนำครับ ผมว่ามันไม่ค่อยคุ้มสักเท่าไร สู้เก็บตังค์เยอะๆ แล้วเอาไปรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น เลเซอร์หลุมสิว , Dermaroller หรือ Subcision ทีเดียวเลยจะดีกว่า ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวที่หน้าได้ดีกว่ากันเยอะ ถึงแม้ว่าราคาจะแพงกว่าการทำ Microdermabrasion  แต่ก็สามารถหวังผลได้มากกว่าเช่นกัน ก็หวังว่าบทความการแชร์ประสบการณ์รักษาหลุมสิวด้วยวิธี Microdermabrasion ของผมในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้บ้างนะครับ สำหรับวันนี้ผมขอลาไปก่อน พบกับบทความสิวเรื่องอื่นๆได้ที่นี่กับ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน ในวันต่อไป สวัสดีครับ

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น