ฉีด Filler เข้าที่หลุมสิว แก้ปัญหาหลุมสิวได้ดีขนาดไหน แล้วมีความเสี่ยงอะไรมั๊ย ลองอ่านดูครับ


ฉีด Filler รักษาหลุมสิว

ปัญหาหลุมสิวเป็นปัญหาที่หาทางแก้ไขยากที่สุดอีกปัญหาหนึ่ง เนื่องจากว่าหลุมสิวนั้นมักเกิดจาการที่เซลผิวหนังบริเวณหน้านั้นถูกทำร้ายอย่างรุนแรง จนทำให้เซลผิวบริเวณนั้นไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในเวลาอันรวดเร็ว หรือบางครั้งผิวหน้าที่เป็นหลุมสิวของเราอาจจะไม่สามารถเรียบเนียนเหมือนแต่ก่อนได้ หากเราปล่อยปัญหาที่เกิดไว้เฉยๆโดยที่ไม่ทำอะไรเลย



วันนี้ Acnedefend จึงอยากเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหลุมสิวอีกวิธีหนึ่งนั่นก็คือ "การฉีด Filler" เพื่อเข้าไปเติมเต็มผิวหน้าที่เป็นหลุมเป็นบ่อของเรา ให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง โดยเป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่เรียกได้ว่าเห็นผลเร็วที่สุดก็ว่าได้ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้า Filler กันก่อนว่ามันคืออะไร ?แล้วมันช่วยให้หลุมสิวกันบ้าง

Filler คืออะไร?


Filler นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกแทน "สารเติมเต็ม" ซึ่งจะมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน โดยความแตกต่างนั้นจะแยกได้หลายมุมมอง เช่น

แยกตามความคงทน ก็จะมี


  • Filler แบบถาวร
  • Filler แบบกึ่งถาวร
  • Filler แบบชั่วคราว

แยกตามสารที่ใช้ ก็จะมี


  • ซิลิโคน(Silicone)
  • คอลลาเจน(Collagen)
  • ไฮยาลูรอนิค เอซิด(Hyaluronic)

    โดยตัว Filler ที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือตัว Filler ที่เหมาะกับมาใช้รักษาหลุมสิว สามารถช่วยเติมเต็มริ้วรอยจากสิวได้ดีและปลอดภัย นั่นก็คือ Filler คอลลาเจน และ Filler ไฮยาลูรอนิค เอซิด ซึ่งสารทั้ง 2 ตัวนี้เราก็คงคุ้นหูและรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เนื่องจากเราจะเห็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับถนอมและฟื้นฟูผิวพรรณมักใส่สารทั้ง 2 ตัวนี้เป็นส่วนผสมเข้าไปด้วย

    ซึ่งปกติแล้วเซลผิวของเราก็จะมีทั้งคอลลาเจนและไฮยาลูรอนิค เอซิด อยู่ในชั้นหนังแท้ของเราอยู่แล้ว แต่เมื่อการเวลาผ่านไป บวกกับการที่ผิวของเราโดนทำร้ายย่ำยีจนเสียผู้เสียคนไป มันก็จะเกิดการสึกหรอและเสื่อมสภาพไปในที่สุด ทำให้เราจำเป็นที่จะต้องหาทางลัดรับสารที่ว่านี้เข้ามาทดแทนจากที่เคยเสียไป ไม่เว้นแม้กระทั่งการฟื้นฟูรักษาหลุมสิว ก็จำเป็นที่จะต้องใช้สารทั้ง 2 ตัวเข้ามาช่วยเติมเต็ม แก้ปัญหาหลุมสิวให้ตื้นและกลับมาใกล้เคียงผิวเดิมๆของเรามากที่สุด เพราะถ้ามานั่งรอให้ร่างกายของเราฟื้นฟูตามธรรมชาติ ก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่า

คอลลาเจน VS ไฮยาลูรอนิค เอซิด ตัวไหนดีกว่ากัน?


    ทั้งคอลลาเจนและ ไฮยาลูรอนิค เอซิดจัดเป็น Filler ที่เหมาะกับการใช้เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และหลุมสิวทั้งคู่ แต่ในปัจจุบันนั้นตัวที่นิยมใช้และช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่าก็คือ  ไฮยาลูรอนิค เอซิด เพราะว่าการใช้ Filler  ไฮยาลูรอนิค เอซิด นั้นจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่าคอลลาเจน ทำให้หมอหรือคลินิคเสริมความงามมักจะใช้  ไฮยาลูรอนิค เอซิด เป็น Filler สำหรับฉีดเพื่อรักษาริ้วรอยมากกว่า

 Filler ไฮยาลูรอนิค เอซิด ปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน?


     ไฮยาลูรอนิค เอซิด จักเป็นสารที่ปลอดภัยสูงมากๆตัวหนึ่ง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า ร่างกายของเรามีสาร ไฮยาลูรอนิค เอซิดอยู่แล้ว ดังนั้นการฉีด Filler ไฮยาลูรอนิค เอซิด เข้าไปมันจึงไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมอะไร และที่สำคัญ ไฮยาลูรอนิค เอซิดก็ได้รับการรับรองจากทั้ง อย.ที่อเมริกา และไทยแล้วด้วย แต่ก็ต้องมั่นใจว่าไฮยาลูรอนิค เอซิด ที่จะเอามาใช้ฉีดนั้นมันไม่ได้ผสมสารอย่างอื่นเข้าไปอีก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนแพ้ ไฮยาลูรอนิค เอซิดเลยนะครับ มีแต่น้อยมากถึงมากที่สุด


Filler acne

ฉีด Filler ไฮยาลูรอนิค เอซิด ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวได้ผลแค่ไหน?


    หากให้บอกเป็น % ที่แน่นอนก็คงจะบอกไม่ได้ เพราะปัญหาหลุมสิวของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่ๆการฉีด Filler นั้นจะเหมาะกับคนที่เป็นหลุมสิวไม่นานเกินไป เป็นหลุมสิวที่ยังไม่มีพังผืดมาเกาะ เพราะถ้ามีพังผืดเกาะ Filler นั้นมันก็ไม่สามารถเข้าไปถึงชั้นผิวที่เหมาะสมได้ ทำให้ไม่สามารถช่วยให้หลุมสิวตื้นได้อย่างที่ต้องการ แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะได้ผลประมาณ 30-70% เลยทีเดียว เพราะมันเป็นการฉีดสารเข้าไปเติมเต็มโดยทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายสร้างเนื้อขึ้นมาเอง

ฉีด Filler รักษาหลุมสิวอยู่ได้นานแค่ไหน?


    เนื่องจาก Filler ไฮยาลูรอนิค เอซิด เป็น Filler แบบชั่วคราว นั่นหมายถึงว่าพอถึงระยะเวลาหนึ่ง มันจะเสื่อมสลายไปเอง พอมันสลายไปหลุมสิวที่เต็มของเรา ก็จะกลับมาเป็นหลุมเป็นบ่ออีกครั้ง แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะเราสามารถกลับไปเติมมันใหม่ได้ทุกเมื่อถ้าต้องการ โดยระยะเวลาของ Filler นั้นก็ขึ้นอยู่กับราคาของมันนั่นแหละครับ แพงมากอยู่นาน ถูกหน่อยก็แป๊บเดียว โดยการเติม Filler ที่หลุมสิว 1 ครั้งจะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานพื้นที่หน้าที่เราเติมมากแค่ไหน ถ้าไปยุ่งกับหน้ามากๆ หรือไปเติมตรงที่มันต้องขยับเขยื้อนบ่อย เช่น ที่หน้าผาก ที่แก้ม มันก็จะหมดเร็วหน่อย

ราคาการฉีด Filler รักษาหลุมสิวอยู่ที่เท่าไร


    ปกติเค้าจะคิดเป็นเข็ม 1 เข็มก็ประมาณ 10,000-15,000 บาท แล้วแต่เป็นมากเป็นน้อย ถ้าเป็นมากก็อาจจะต้องฉีดมากกว่า 1 เข็ม แต่ส่วนใหญ่แล้ว 1 เข็มฉีดได้หลายครั้ง สมมุติว่าครั้งแรกที่เราฉีด Filler รักษาหลุมสิวแล้วเราใช้ไม่หมด เค้าก็จะเก็บ Filler ของเราไว้ แล้วหากเราต้องการเติมก็กลับมาเติมกับหลอดเดิมที่เหลืออยู่นั่นแหละ

ก่อนฉีด Filler ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?


    ก่อนการฉีด Filler นั้นจะต้องมีการควบคุมเรื่องการกิน ควรงดกินพวกอาหารเสริม ยาแก้ปวดแอสไพริน ก่อนฉีดสัก 3-7 วัน ไม่งั้นหลังจากฉีด Filler หน้าเราจะช้ำนานกว่าปกติ


หลังการฉีด Filler ดูและตัวเองอย่างไร?


  • ดื่มน้ำเยอะให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยให้รอยช้ำหายเร็ว
  • ถ้าหน้าบวดแดงมากให้ใช้น้ำแข็งประคบช่วยลดอาการบวมได้ดี
  • ไม่ทำรุนแรงกับหน้าให้เกิดการระคายเคือง เช่น การนวดหน้า ขัดหน้า อบไอน้ำ

โดยอาการช้ำ บวม แดง บนใบหน้าจะหายไปภายใน 3-5 วัน จากนั้นหน้าเราก็จะดูดีขึ้น ดูเรียบเนียนขึ้น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


สรุปการฉีด Filler รักษาหลุมสิว


    เรื่องการฉีด Filler เพื่อเติมเต็มหลุมสิวในความคิดผมนั้น น่าจะเหมาะกับคนที่เป็นหลุมสิวไม่เกิน 1 ปี แต่ก็ไม่ใช่ว่าเท่านี้เป๊ะนะครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง และจะเหมาะกับคนที่มีกำลังทรัพย์สักหน่อย เพราะมันต้องฉีดแล้วฉีดอีก และ Filler เข็มหนึ่งก็ไม่ใช่ถูกๆ แต่ถ้าถามว่าได้ผลมั๊ย ผมคิดว่ามันน่าจะช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวได้ดีกว่าวิธีอื่นเลยล่ะ(เฉพาะหลุมสิวที่ไม่มีพังผืดนะ) เพราะมันเห็นผลทันตา ไม่ต้องรอให้เสียเวลา เจ็บแป๊บเดียวตอนฉีด แต่มันก็เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่ได้ผลแค่ชั่วคราวเท่านั้น มันไม่ทำให้หายแล้วหายเลยเหมือนกับวิธีรักษาหลุมสิวแบบอื่นๆ ใครที่ต้องการความรวดเร็วในการแก้ปัญหาหลุมสิวแล้วล่ะก็ ผมคิดว่าการฉีด Filler คือคำตอบเลยล่ะครับ หากใครอยากลองแล้วมีความพร้อมแล้วล่ะก็ลองดูครับ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจจริงๆ

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น