สิวอนุบาล สิวมัธยม สิวมหาลัย ใช้ครีมรักษาสิวแบบไหนดีที่สุด


สิวอนุบาล สิวมัธยม สิวมหาลัย

การเกิดสิวของคนเราก็เหมือนการแบ่งระดับการเรียนรู้ในโรงเรียน ที่มีการแบ่งเป็นระดับเริ่มต้นคืออนุบาล โตขึ้นมามาหน่อยก็ประถม เริ่มเกรียนกันก็มัธยม เข้ากิจกรรมชมรมก็มหาลัย การเกิดสิวก็เช่นเดียวกันแบ่งเป็นสิวแบบเบสิคเป็นสิวเล็กๆน้อยๆ จนไปถึงสิวแบบรุนแรง สิวหัวช้าง สิดผด สิวเสตียรอยด์กระจายทั่วหน้า ซึ่งการักษาสิวด้วยครีมต่างๆนั้นก็จะแบ่งออกตามความรุนแรงของสิวเช่นกัน



วันนี้ Acnedefend ก็เลยอยากพูดถึงระดับการเกิดสิวของคนเรา โดยจะจำแนกออกเป็น 3 ระดับ ล้อตามระดับการเรียนของคนเราคือ 1. สิวอนุบาล 2. สิวมัธยม 3. สิวมหาลัย ว่าในแต่ละระดับเหมาะสมกับครีมหรือยาทารักษาสิวแบบไหน ใช้ตัวไหนถึงจะช่วยให้การรักษาสิวได้ผลดีที่สุด เชิญรับชมได้เลยครับ


Clinda-M

สิวอนุบาล


    สิวอนุบาลเป็นสิวแบบเบสิค คือเป็นสิวไม่มาก ประปราย ขึ้นบ้างๆไม่ขึ้นบ้างหรือนานๆขึ้นที จัดว่าเป็นสิวที่ไม่น่ากลัว รักษาไม่ยากและใช้เวลาไม่นานก็สามารถรักษาสิวให้หายได้ ครีมรักษาสิวที่เหมาะกับใช้รักษาสิวอนุบาลนี้ก็จะเป็นพวกเจลแต้มสิวต่างๆ เช่น Clidalin gel , Clinda-M , Cenele Akneles , Eryacne Erythromycin Gel 4% , ผงพิเศษตราร่มชูชีพ , Face lotion , Smooth E Acne Hydrogel , Metronidazole robaz gel , แป้งน้ำศิริราช ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่ออกฤทธิ์ไม่รุนแรงมากนัก ทำให้ก่อให้เกิดการระคายเคืองและอาการแพ้ได้น้อย เหมาะกับคนที่เป็นสิวไม่มาก ไม่รุนแรง เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน หรือผิวแห้งก็ใช้ได้ ใครที่เป็นสิวอนุบาลอยู่แค่ใช้ครีมรักษาสิวเหล่านี้ก็น่าจะช่วยลดการเกิดสิวได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาทาสิวที่แรงๆสิวก็หายได้ไม่ยาก


Benzac AC 2.5%

สิวมัธยม


    สิวมัธยมเป็นสิวที่รุนแรงขึ้นมาอีกขั้น สิวแบบนี้ไม่รุนแรงขนาดที่ว่าเป็นสิวหัวช้างเม็ดใหญ่ๆ หรือสิวอุดตันบวมแดงเต็มหน้า แต่จะเป็นสิวที่ขึ้นบ่อย ขึ้นแทบทุกวัน และชอบขึ้นซ้ำๆที่เดิม วนเวียนอยู่อย่างนั้นไม่หายสักที การทาครีมรักษาสิวก็ต้องใช้ตัวยาที่แตกต่างกันออกไป หรือใช้ตัวยาที่มีความรุนแรงมากขึ้น เช่น Benzac AC 2.5% , Skinoren cream , Sepdermex cream , Nizoral cream , Paula's choice BHA 2% ทาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี โดยครีมทาสิวในกลุ่มนี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวและการแพ้ได้เหมือนกัน แต่ก็ไม่มากเท่าไร ซึ่งการรักษานั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและลักษณะสิวของแต่ละคนว่าเป็นสิวแบบไหน สิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือสิวผด ครีมบางตัวสามารถใช้รักษาสิวได้ลายแบบ ในขณะที่บางตัวใช้รักษาสิวได้แบบเฉพาะเจาะจง ก็ต้องศึกษาวิธีการใช้ครีมทาสิวแต่ละตัวให้ดีครับ

Retin-A 0.05%

สิวมหาลัย


    ในที่นี้ผมยกให้สิวมหาลัยเป็นที่สุดของสิว เป็นสิวที่รุนแรงที่สุด ซึ่งครีมทารักษาสิวที่จะเอาสิวแบบนี้อยู่ก็ต้องมีตัวยาที่แรงขึ้นตามไปด้วย ครีมที่ใช้จัดการสิวมหาลัยนี้ เช่น Retin-A , VITARA Acnetin-A Cream , Stieva-A Cream , Benzac AC 5% , Pan Acnicare 5 Cream , Differin , Isotrexin ซึ่งครีมเหล่านี้จัดเป็นครีมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ง่าย มีผลข้างเคียงที่มากกว่าครีมตัวอื่นๆ บางตัวอาจทำให้ผิวแห้ง ลอก เป็นขุย หน้าแดง แสบหน้า แสบตา เวลาที่ใช้ นอกจากนี้บางตัวก็อาจมีผลต่อการผลิตไขมันของต่อมไขมันที่หน้าด้วย ถ้าไม่จำเป็นคือไม่เป็นสิวมากนักก็ไม่ควรใช้ แต่ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชก่อนใช้จะดีกว่า อย่างน้อยๆให้ผู้เชี่ยวชาญบอกผลข้างเคียงให้เราฟังก็ยังดี เราจะได้ตัดสินใจว่าควรใช้หรือไม่ควรใช้ดี

    จริงๆแล้วการเลือกใช้ครีมรักษาสิวนั้นไม่ได้ดูจากความรุนแรงของสิวอย่างเดียว ต้องดูเรื่องสภาพผิว เรื่องอาการแพ้ เรื่องการตอบสนองของตัวยาร่วมด้วยจึงจะรู้ว่าควรใช้ครีมรักษาสิวแบบไหนถึงจะดีที่สุด ซึ่งบทความนี้เพียงแค่เขียนให้เห็นถึงการเลือกครีมรักษาสิวในด้านเดียวเท่านั้น และที่สำคัญอยากให้คิดเสมอว่าครีมรักษาสิวทุกตัวนั้นสามารถก่อให้เกิดการแพ้ได้ เพราะฉะนั้นก่อนจะใช้ครีมอะไรก็ตามควรทดสอบให้แน่ใจก่อนว่าเราไม่ได้แพ้สารหรือตัวยาที่ผสมอยู่ในครีมนั้น เพื่อความปลอดภัยของผิวหน้าของเรา เพื่อการรักษาสิวที่ได้ผลดี เพื่อหน้าใสๆของเราในวันข้างหน้า ด้วยความปรารถนาดีจาก Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น