จากที่ได้สัญญาไว้ว่าจะเขียนถึง "วิธีจัดการกับหน้ามันๆ" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว ไม่ได้เขียนบทความมา 2 วัน วันนี้เคลียร์งานเสร็จก็เลยต้องเขียนสักหน่อย เรื่องหน้ามันกับการเกิดสิวนี่เป็นของคู่กันจริงๆครับ คนที่เป็นสิวส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง ล้างหน้าหน้าหายมันไป แป๊บเดียวก็กลับมามันอีกแล้ว เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกจริงๆครับ
สาเหตุที่ทำให้หน้ามันเป็นสิว
จริงๆแล้วความมันบนผิวหน้าของเราเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันช่วยหล่อเลี้ยงผิวให้แห้งกร้าน ช่วยรักษาความชุ่มชื้น หรือน้ำในผิวเราไว้ ช่วยให้ผิวหน้าของเรามีสุขภาพดี และที่สำคัญคนที่มีผิวมันหน้าจะไม่ค่อยเหี่ยว ซึ่งเป็นข้อดีที่ดีที่สุดของคนผิวมันเลยก็ว่าได้ แต่สาเหตุจริงที่ทำให้คนหน้ามันชอบเป็นสิวนั้นมีอยู่ 2 ข้อหลักๆด้วยกันคือ
1. หน้ามันทำให้เกิดการอุดตันง่าย
อย่างที่บอกไว้ว่าน้ำมันบนผิวหน้าเป็นสิ่งดี แต่มันจะไม่ดีก็ตอนที่มันเกิดอุดตันที่รูขุมขนของเรานี่แหละ และสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันและทำให้เป็นสิวคือ
1 . หน้าเราผลิตไขมันออกมากเกินความจำเป็น
2. ผิวหน้าเราผลัดเซลผิวได้ไม่ดี
3. เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวที่ใช้
4. สภาวะแวดล้อม มลพิษต่างๆ
พอผิวหน้าเราเจอปัจจัยเหล่านี้เข้ามันก็ไปปิดรูขุมขน ทำให้น้ำมันไม่สามารถไหลออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น เกิดการอุดตันที่ผิวหน้าขึ้น ก็เลยเกิดเป็นสิวขึ้นตามมาได้ง่าย
2. น้ำมันเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อสิว
น้ำมันหรือ sebum ที่ผิวหน้าของเราจัดเป็นอาหารอันโอชะของแบคทีเรีย P. Acne หรือแบคทีเรีย เชื้อราตัวอื่นๆที่เป็นต้นเหตุการเกิดสิว มันจะเจริญเติบโตได้ด้วยการกินน้ำมันที่ออกมาจากรูขุมขนของเรา ซึ่งถ้าหน้าเรามีแบคทีเรียเหล่านี้เยอะๆ ประกอบกับการที่เราเป็นคนหน้ามันมาก จะทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเกิดสิวสูง โดยเฉพาะคนที่ชอบเป็นสิวอักเสบมักเกิดจากสาเหตุนี้เป็นหลัก
ถ้าหน้ามันแล้วทำให้เป็นสิวก็ทำให้หน้าหายมันก็สิ้นเรื่อง
หลายคนอาจคิดอยู่ในใจว่า ในเมื่อความมันทำให้เกิดสิว งั้นถ้าเราทำให้หน้าหายมันได้เราก็จะไม่เป็นสิว สิวบนหน้าเราก็น่าจะหายไปพร้อมกับความมัน ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องซะทีเดียว จริงอยู่ที่ถ้าเราหน้ามันน้อยลงสิวก็จะไม่ค่อยขึ้น ดูได้จากคนที่ผิวแห้งหรือผิวละเอียดจะไม่ค่อยเป็นสิวกัน แต่ถ้าเราพยายามขจัดความมันบนหน้าแบบฝืนธรรมชาติเกินไป นอกจากสิวจะไม่หายแล้ว สิวจะเห่อขึ้นเยอะกว่าเดิมอีกหลายเท่า โดนธรรมชาติลงโทษแทนไปซะอย่างนั้น ซึ่งเรื่องนี้ผมมีประสบการณ์ตรงจะเล่าให้ฟัง เป็นประสบการณ์เมื่อครั้งที่ผมพยายามรักษาสิวด้วยการกำจัดความมันบนหน้ามากเกินไป จริงๆเคยเขียนเป็นบทความเอาไว้แล้ว แต่อยากเอามาเล่าแบบสั้นๆเผื่อใครที่ยังไม่ได้อ่าน ลองอ่านดูนะครับ
เอามันออกไป เอามันออกไป!!!!
ตอนผมอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 สิวบนหน้าผมเริ่มทะยอยขึ้นตามประสาวัยรุ่นฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ตอนนั้นผมคิดว่าความมันที่หน้าทำให้เกิดสิวก็เลยพยายามจะทำให้หน้าไม่มันตลอดเวลา เผื่อสิวจะลดลงได้บ้าง สิ่งที่ผมทำก็คือ ล้างหน้าวันละ 3-4 ครั้ง และไม่ทาครีมอะไรเลยสักอย่าง ประมาณว่าล้างเสร็จสักพักส่องกระจกดูถ้าเห็นว่าหน้ามันอีกก็จะไปล้างอีก ทำอยู่เป็นเดือนๆ แต่สิวก็ยังไม่หายสักที แถมยังขึ้นเอาๆอีกต่างหาก ตอนนั้นผมกลุ้มใจมากไม่รู้จะทำยังไง รู้สึกว่าหน้ามันนะแต่ผิวก็แห้งด้วยเรียกได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่สุขภาพผิวหน้าแย่เอามากๆ อุตส่าห์จะหล่อไปจีบสาวสักหน่อย กลับกลายเป็นว่าหน้ามีแต่สิวขาดความมั่นใจไปเยอะเลย
พอรู้สึกว่าล้างหน้าบ่อยๆไม่ work ตอนหลังก็เปลี่ยนมาเป็นการขจัดความมันด้วยกระดาษซับมันแทน ก็ซื้อฟิล์มซับมันมาใช้เพราะเห็นว่ามันซับมันได้สะใจดี พกติดตัวเอาไว้เวลาไปเรียนเดินเข้าห้องน้ำทีก็ซับที หน้ามันเมื่อไรก็จะซับมันทันที แป้ง ครีมอะไรไม่ทาสักอย่าง ผลสุดท้ายคือยิ่งซับหน้ายิ่งมัน มันจนตอนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นคนผิวมันเกินไปหรือเปล่า เพิ่งซับหน้าได้ไม่นานหน้าก็มันเยิ้มอีกแล้ว บทสรุปก็คือหน้าไม่หายมัน สิวก็ขึ้นเยอะเหมือนเดิม เครียด เครียด!!!!
ค้นพบสูตรจัดการความมันบนผิวหน้า
หลังจากที่กลุ้มใจกับปัญหาหน้ามันมานานหลายปี สุดท้ายผมก็สามารถคิดสูตรสำเร็จส่วนตัวในการจัดการความมันบนหน้าขึ้นมาได้ จากการได้ศึกษาเรื่องกลไกของผิวหน้า บวกกับประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมประสบความสำเร็จในการจัดการกับความมัน ลดการเกิดสิว แก้ปัญหาสิวที่ผ่านมาได้อย่างไม่คาดคิด ซึ่งวันนี้จะเอามาแชร์แบบหมดเปลือกกันไปเลย ขอเขียนเป็นข้อๆดังต่อไปนี้
1. อย่าพยายามกำจัดความมันมากเกินไป
พอผมเริ่มรู้ธรรมชาติของผิวหน้าตัวเอง ผมก็เริ่มปรับตัวด้วยการไม่ไปยุ่งกับหน้ามากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องการพยายามกำจัดความมันแบบฝืนธรรมชาติ เช่น การล้างหน้าบ่อยๆ การซับมันบ่อยๆ เลิกหมด จากที่เคยล้างหน้าวันละ 3-4 ครั้ง ก็เหลือแค่ 2 ครั้ง เช้า-เย็น โฟมล้างหน้าก็เลือกที่ไม่ชะล้างความมันออกมากเกินไป ประเภทที่ล้างเสร็จแล้วหน้าตึงเปรี๊ยะนี่ควรหลีกเลี่ยงให้ไกล ส่วนเรื่องซับมันจากที่ซับชั่วโมงละครั้งก็เปลี่ยนเป็นซับไม่เกินวันละ 2 แผ่น แต่จริงๆตอนนี้ผลเลิกใช้กระดาษซับมันไปแล้วครับ หันมาใช้กระดาษเช็ดหน้านุ่มๆซับแทนเอา ผมว่าดีกว่าเยอะเลย
2. ทาครีมบำรุงผิวเท่าที่จำเป็น
คนที่เป็นสิวนั้นควรทาครีมบำรุงผิวให้น้อยตัวที่สุด เพราะครีมเหล่านี้ทำให้เกิดการอุดตันง่าย และยังเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อสิวอีกด้วย ครีมที่ผมทาจะเน้นไปที่มอยเจอไรเซอร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งผมจะเลือกเป็นแบบ water base เจล หรือซีรั่มไปเลย จะไม่ใช้แบบที่เป็นเนื้อครีมหนักๆหน้า คือผมพยายามป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการอุดตันก็เลยเลือกครีมบำรุงที่คิดว่ามันไม่อุดตันมาทา อย่างที่ผมใช้อยู่ตอนนี้มีแค่ 2 ตัว คือ เจลว่านหางจระเข้ กับฮาดะลาโบะขวดสีฟ้า ตอนแรกใช้สีแดงอยู่แต่พอดีเดินทางมาต่างจังหวัดลืมเอามา แล้วมันไม่มีขายมีแต่ตัวสีขาวกับสีฟ้า พอดีเห็นว่าช่วงนี้หน้าคล้ำๆเพราะตากแดดเยอะก็เลยเลือกใช้ฮาดะลาโบะตัวสีฟ้าเผื่อมันจะช่วยให้หน้าขาวขึ้นมาบ้าง ส่วนครีมทาสิวก็ทาเท่าที่จำเป็น สิวขึ้นก็ทาไม่ขึ้นก็ไม่ทา ครีมกันแดดก็ไม่ทาเพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหน ซึ่งผม confirm เลยว่าการทาครีมน้อยตัวนี้ช่วยลดการเกิดสิวไปได้เยอะจริงๆครับ
3. ลดเครียด = ลดมัน = ลดสิว
ความเครียดมีผลโดยตรงต่อปัญหาผิวมันและการเกิดสิว โดยถ้าเราเครียดร่างกายเราจะผลิตน้ำมันหรือ sebum ออกมามากขึ้น นอกจากนี้ความเครียดยังส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนซึ่งมีส่วนทำให้สิวขึ้นได้ ยิ่งเครียดหน้าก็ยิ่งมัน เพราะฉะนั้นหากอยากลดความมันก็ต้องพยายามลดความเครียดลง ทำใจให้สบาย ผ่อนคลาย หากิจกรรมอื่นๆทำเพื่อลดระดับความเครียดลง เช่น เล่นเกมส์ เล่นกีฬา ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งการนอนก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยลดความตึงเครียดได้ดี ถ้าเราสามารถจัดการกับความเครียดที่ว่าได้ ปัญหาหน้ามันเป็นสิวก็จะลดน้อยลงไปเยอะเลยล่ะครับ
นี่เป็นแนวทางการลดความมันบนผิวหน้าของผมครับ จะบอกว่าลดก็คงไม่ถูกซะทีเดียว เรียกว่าการจัดการกับความมันจะถูกกว่า ลองเปลี่ยนทัศนะคติกับความมันดู จัดการมันอย่างถูกวิธีปัญหาหน้ามันก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ถ้าทำได้ผมรับรองเลยว่าปัญหาสิวที่เป็นอยู่ก็จะทุเลาลงจนหายไปในที่สุดครับ Acnedefend ขอเป็นกำลังใจให้คนเป็นสิวทุกๆคนครับ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น