"ฮาดะลาโบะสีแดง" หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Hada labo retinol lifting and firming lotion เป็นมอยเจอไรเซอร์ในตระกูล Hada labo ตัวหนึ่งที่ผมชื่นชอบเอามากๆ และวันนี้ที่เอามาเขียนเป็นบทความก็เพราะว่าผมเพิ่งไปถอยเจ้าฮาดะลาโบะสีแดงขวดนี้มาใช้นั่นเอง ว่าจะซื้อมาใช้หลายครั้งแล้วแต่ก็ลืมทุกที
ไหนๆซื้อมาแล้วก็เลยถือโอกาสเขียน review ถึงฮาดะลาโบะสีแดงขวดนี้สักหน่อย เขียนในมุมมองของ Acnedefend ซึ่งเน้นไปในเรื่องสิวและริ้วรอยก็แล้วกันครับ
Hada labo retinol lifting and firming lotion
หากพูดถึงฮาดะลาโบะสีแดงขวดนี้จุดเด่นที่สุดที่ทางผู้ผลิตได้ให้ไว้ก็คือ การเป็นมอยเจอไรเซอร์ที่เน้นเพิ่มความชุ่มชื้น และในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยลดริ้วรอยระหว่างวัย ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว รวมไปถึงช่วยลดรอยแดง จุดด่างดำจากสิวไปในตัวด้วย คือผมฟังแค่นี้ก็รู้สึกว่ามันน่าใช้จริงๆ ลองมาดูส่วนผสมหลักของเจ้าฮาดะลาโบะสีแดงกันดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
ส่วนผสมหลักๆของฮาดะลาโบะสีแดง
- Retinol Vitamin A คือ วิตามินเอที่เรารู้จักกัน เป็นวิตามินที่เป็น Antioxidants ช่วยในเรื่องการบำรุงผิวพรรณ ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ลดรอยแดง รอยดำจากสิว ช่วยลดการอุดตันขอคอมิโดนซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ซึ่งมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับ Retinoic acid หรือกรดวิตามินเอ หรือชื่อทางการค้าตัวหนึ่งที่เรียกว่า Retin-A นั่นเอง แต่การออกฤทธิ์จะไม่เท่ากับ Retinoic acid น้อยกว่ามาก
- คอลลาเจน(Collagen) สารตัวนี้เรารู้จักกันดี เป็นสารที่ปกติก็มีอยู่ในผิวของเราอยู่แล้ว คอลลาเจนช่วยให้ผิวของเรามีความยืดหยุ่นดี ถ้าผิวของเรามีคอลลาเจนเยอะ ผิวเราก็จะเกิดริ้วรอยได้ยาก ซึ่งคอลลาเจนนั้นจะลดลงไปเรื่อยๆตามอายุที่เพิ่มขึ้น เพราะร่างกายสร้างทดแทนได้ไม่ทัน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว หากต้องการให้ผิวสวยนั่นเอง
- Super Hyaluronic Acid หรือ กรดไฮยาลูโรนิค แอซิด เป็นสารที่ปกติจะมีอยู่ในผิวของเรา ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำ รักษาและกักเก็ยความชุ่มชื้นไว้กับผิวได้ดี นั่นหมายความว่ายิ่งถ้าผิวเรามีกรดไฮยาลูโรนิค แอซิดมากเท่าไร ผิวของเราก็จะนุ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึง ริ้วรอยต่างๆก็จะน้อยลง ผิวจะมีสุขภาพดีขึ้น แต่ข่าวร้ายก็คือเจ้ากรดไฮยาลูโรนิค แอซิดนี้มันจะลดลงไปตามกาลเวลา ยิ่งถ้าอายุเลยเลข 3 ไปแล้วมันจะลดลงอย่างรวดเร็ว หากเราไม่หาไปเติมให้กับผิว ผิวของเราก็จะเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เป็นอย่างนั้น
ทำไมผมถึงเลือกใช้ฮาดะลาโบะสีแดง
1. ช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้ดี ในขณะที่ช่วยลดปัญหาริ้วรอยที่จะตามมาในอนาคต
ผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับความชุ่มชื้นของผิวหน้า โดยเชื่อในหลักการที่ว่าถ้าผิวเราชุ่มชื้นมีน้ำในผิวเยอะ หน้าเราก็จะมันน้อยลง นอกจากนี้ผมยังต้องการครีมที่ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องริ้วรอยไปในตัวด้วย ก็เลยคิดว่าฮาดะลาโบะสีแดงขวดนี้น่าจะตอบโจทย์ที่ผมตั้งขึ้น เพราะวันก่อนผมลองสังเกตหน้าตัวเองผมรู้สึกว่ามันเริ่มมีรอยตีนกาเวลายิ้มขึ้นมาบนหน้า แล้วช่วงหลังผมก็ไม่ค่อยได้บำรุงผิวมากนัก เพราะกลัวว่าทาอะไรเยอะไปสิวจะขึ้นเลยไม่ค่อยบำรุงผิวสักเท่าไร ด้วยเหตุนี้ผมก็เลยคิดว่าถึงเวลาต้องทำอะไรสักอย่างกับหน้าแล้วล่ะ กลัวว่าช้าไปเดี๋ยวจะแก้ไม่ทัน
2. ทาแล้วซึมเร็ว หน้าไม่มันมาก
อีกเรื่องที่ผมชอบตอนที่ทาฮาดะลาโบะสีแดงนี้ก็คือ ทาแล้วมันซึมเข้าผิวเร็ว ในขณะที่ไม่ทำให้หน้ามัน คือจุดนี้สำคัญกับคนหน้ามันอย่างผมมาก ทุกครั้งที่ผมเลือกครีมหรือมอยเจอไรเซอร์ทาหน้านั้นผมจะเน้นเรื่องนี้เป็นสำคัญ ครีมตัวไหนที่ทาแล้วทำให้หน้ามัน หนักหน้า ร้อนหน้าผมก็จะไม่ใช้เลย เพราะผมรู้สึกว่ามันทำให้เป็นสิวง่าย แต่สำหรับฮาดะลาโบะสีแดงขวดนี้ OK เลยนะ
3. ราคาไม่แพงมากพอรับได้
ราคาค่าตัวของ Hada labo retinol lifting and firming lotion ขวดนี้ที่ขนาด 170 ml ราคาอยู่ที่ 559 บาท ผมไปซื้อที่ Watson สาขายูเนี่ยนมอลล์ แต่จริงๆซื้อสาขาไหนก็ราคาก็เท่ากันอยู่แล้ว ขวดหนึ่งคงใช้ไปหลายเดือน
โดยส่วนตัวคิดว่าถึงแม้ว่าฮาดะลาโบะสีแดงขวดนี้มันจะไม่มีสารบำรุงเรื่องริ้วรอยที่ดีเท่ากับพวกซีรั่มหรือเวชสำอางค์ทั้่วไป แต่ถ้ามองถึงความสามารถโดยรวมทั้งในเรื่องของการรักษาความชุ่มชื้น การลดริ้วรอยจุดด่างดำหรือริ้วรอยแห่งวัย รวมไปถึงการช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิวเอาไว้ ผมก็ถือว่ามันคุ้มกับเงินที่เสียไปนะ นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จาก Retinol Vitamin A ซึ่งมีผลต่อคนเป็นสิวอยู่ด้วย ผมจึงคิดว่ามันเป็นมอยเจอไรเซอร์ที่เหมาะกับคนเป็นสิวซึ่งมักมีปัญหาเรื่องรอยสิวควบคู่กันเสมอ แต่ยังไงก็แล้วแต่นี่ก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น ไม่มีผลิตภณฑ์ตัวไหนจะเหมาะสมและดีกับคนทุกคน บางคนอาจจะใช้ไม่ดีใช้แล้วสิวขึ้นก็ได้ ก็ขอให้การ review ฮาดะลาโบะสีแดงของผมในวันนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนเป็นสิวก็แล้วกันครับ
ปล. ใครสนใจดูการเปรียบเทียบ Hada labo ทั้ง 3 สี อ่านดูได้ที่บทความนี้ครับ เปรียบเทียบฮาดะลาโบะ(Hada labo) 3 สี สีขาว สีน้ำเงิน สีแดง ตัวไหนเหมาะกับผิวแบบไหน แล้วคนเป็นสิวใช้ตัวไหนดีที่สุด
ปล. ใครสนใจดูการเปรียบเทียบ Hada labo ทั้ง 3 สี อ่านดูได้ที่บทความนี้ครับ เปรียบเทียบฮาดะลาโบะ(Hada labo) 3 สี สีขาว สีน้ำเงิน สีแดง ตัวไหนเหมาะกับผิวแบบไหน แล้วคนเป็นสิวใช้ตัวไหนดีที่สุด
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น