เดี่ยวนี้ผลิตภัณฑ์ทาหน้าบำรุงผิวต่างวางขายเยอะจริงๆ มีมากมายหลายยี่ห้อ มีให้เลือกหลายราคา และที่เห็นได้ชัดเจนและอาจเป็นเรื่องที่ชวนสงสัยสำหรับใครหลายๆคนก็คือในเรื่อง "ความแตกต่างของเนื้อผลิตภัณฑ์" ที่เราเห็นหลักๆก็จะมีเนื้อผลิตภัณฑ์แบบครีม โลชั่น เจล ซีรั่ม นอกจากนี้ยังมีอีกเนื้อที่เราอาจไม่คุ้นเคยสักเท่าไรคือ เนื้อแบบฟลูอิด(Fluid) หรือ เอสเซ้นส์ (Essence) ซึ่งวันนี้ Acnedefend ได้เอาความแตกต่างของเนื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง ถ้าพร้อมแล้วมาดูพร้อมๆกันไปทีละตัวนะครับ
ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีม(Cream)
ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการผสมน้ำกับน้ำมันเข้าด้วยกัน โดยจะมีส่วผสมของน้ำมันที่มากกว่า ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างที่จะข้น หนืด และหนักกว่าเนื้อแบบอื่นๆ นั่นทำให้การซึมเข้าผิวช้ากว่าตัวอื่นหรือช้าที่สุดเลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีมนี้จะเคลือบอยู่บริเวณผิวชั้นบนมากกว่า ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่มีอะไรดี แต่จริงๆผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวเราได้ดีที่สุด ก็ด้วยการที่มันผสมน้ำมันเข้าไปเยอะ แถมยังเคลือบผิวได้ดีอีก จึงไม่ต้องแปลกใจว่ามันสามารถทำให้ผิวเราชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี และก็ด้วยความสามารถนี้เองที่อาจทำให้ผิวหน้าเราเกิดความมันและการอุดตันได้ง่าย ซึ่งอาจเป็นที่มีของการเกิดสิวอุดตัน ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีมจึงเป็นตัวที่คนเป็นสิวควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด ยิ่งคนที่ผิวมันมากๆด้วยแล้วต้องหนีให้ไกล แต่ต้องมั่นใจนะว่าเราเป็นคนผิวมันจริงๆ
ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อโลชั่น(Lotion)
ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อโลชั่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกัน แต่ส่วนผสมส่วนใหญ่จะเป็นน้ำมากกว่า หรือที่เราเรียกว่า Water base จุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบบเนื้อโลชั่นคือ มันจะซึมเข้าผิวได้ดีกว่าแบบครีม ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ จึงเหมาะกับคนที่มีผิมผสมและผิวมัน โลชั่นที่ใส่สารบำรุงผิวเยอะ เช่น วิตามินซี , คอลลาเจน , Q10 , อาร์บูติน เค้าก็จะทำออกมาเป็นโลชั่นทาหน้า แต่ถ้าใส่สารบำรุงผิวน้อยหน่อยเช่นสารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอย่างเดียวก็จะทำออกมาเป็นโลชั้นทาผิวไป ซึ่งในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์แบบเนื้อโลชั่นวางขายอยู่เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงผลิตภัณฑ์รักษาสิวด้วย
ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจล(Gel)
ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจลเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมน้ำมันในปริมาณที่น้อยหรือไม่มีเลย โดยกระบวนการผลิตเค้าจะใส่สารที่ทำให้เกิดเนื้อเจลแล้วก็ปั่นรวมกับสารอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสารบำรุงผิว น้ำ น้ำหอม หรือแม้กระทั่งสารกันเสีย ข้อดีของผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจลคือ มันซึมเข้าผิวได้เร็ว ไม่ค่อยอุดตัน และทาแล้วไม่ทำให้หน้ามันมากเหมือนกับผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีมหรือโลชั่น เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจลจึงจัดว่าเป็นเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนเป็นสิวมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์รักษาสิวหลายตัวที่นิยมทำให้ออกมาในรูปแบบของเจลก็ด้วยสาเหตุนี้นี่เอง และแน่นอนผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจลอาจไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง เพราะผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจลส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใส่สารที่ให้ความชุ่มชื้นหรือพวกน้ำมันเข้าไป ซึ่งถ้าคนผิวแห้งใช้แต่ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจลอย่างเดียวก็อาจทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นมากกว่าเดิมได้
ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อซีรั่ม(Serum)
หลายๆคนคิดว่าผลิตภัณฑ์แบบเนื้อซีรั่มนั้นเป็นที่สุดของครีมบำรุงผิว ถ้าได้ทาแล้วผิวหน้าของเราคงจะเรียบเนียนสวยกว่าการทาครีมทั่วๆไป ซึ่งก็จริง แต่ความจริงแล้วผลิตภัณฑ์แบบเนื้อซีรั่มบางตัวนั้นไม่ได้มีการผลิตที่แตกต่างจากครีมทั่วไปมากนัก เพียงแต่ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อซีรั่มนั้นจะใส่สารบำรุงผิวเข้าไปในปริมาณที่มากกว่าปกติ มากกว่าครีมหรือโลชั่นทาผิวแบบทั่วๆไป มากจนบางทีถูกจัดให้เป็นเวชสำอางค์เลยทีเดียว หลายคนอาจสงสัยว่าเวชสำอางค์คืออะไร
เวชสำอางค์ คือ อะไร?
เวชสำอางค์ คือ เครื่องสำอางค์ ครีม ที่ใส่สารออกฤทธิ์เข้าไปใน % ที่มากกว่าปกติ แต่ก็ไม่ถึงกับที่หมอใช้ได้ ซึ่งสารแต่ละตัวจะถูกกำหนดให้ใส่ในปริมาณไม่เกินเท่านี้ แต่ถ้าเกินกว่านี้ก็ทำได้แต่จะถูกจัดให้เป็นเวชสำอางค์ไป ไม่ใช่เครื่องสำอางแล้ว ซึ่งเวชสำอางค์นั้นจะมีการควบคุมการผลิตที่เข้มงวดกว่าเครื่องสำอางค์แบบทั่วๆไปมาก ถ้าพูดแบบเห็นภาพง่ายๆก็คือ เวชสำอางค์ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างเครื่องสำอางค์กับยานั่นเอง
ไปเรื่องเวชสำอางค์ซะยาว กลับมาที่ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อซีรั่มกันต่อ ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อซีรั่มนั้นมันใส่สารบำรุงผิวเข้าไปเยอะจึงไม่ต้องแปลกใจที่มันจะมีราคาแพงกว่าครีมแบบทั่วๆไป สังเกตดูได้ ผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่มีคำว่าซีรั่มอยู่ในชื่อ ส่วนใหญ่ราคาสูงทุกตัว บางยี่ห้อขวดเล็กนิดเดียวราคาหลายพันก็มี ถามว่าแพงอย่างนี้แล้วใช้ดีมั้ย ถ้าตอบแบบตรงไปตรงมาก็ใช้ดีถึงดีมาก เพราะมันมีสารบำรุงผิวแบบเข้มข้นผสมอยู่ด้วย เวลาใช้ย่อมเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าได้ดีกว่าครีมแบบทั่วๆไปแน่นอน
ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อฟลูอิด(Fluid) หรือ เอสเซ้นส์ (Essence)
ฟังชื่อแล้วหลายคนอาจไม่ค่อยคุ้น ผมเองตอนฟังครั้งแรกก็ยังสงสัยว่ามันคืออะไรเหมือนกัน ปกติเราก็จะรู้จักผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจล โลชั่น ครีม และซีรั่มกันมากกว่า ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อฟลูอิด(Fluid) หรือ เอสเซ้นส์ (Essence) คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำโมเลกุลของครีมหรือสารให้มีขนาดเล็กลง หรือที่เราคุ้นหูว่าแบบนาโน ซึ่งมันช่วยให้ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อฟลูอิดนี้ซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น ส่วนใหญ่จะอยู่รูปแบบ water base ซึ่งเป็นเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงซีรั่มมาก ปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมาในรูปแบบนี้มาขึ้นเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์เคาน์เตอร์แบร์นด หรือผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูง
แล้วคนเป็นสิวควรใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อแบบไหนดีที่สุด?
ความจริงแล้วการที่เราจะบอกว่าเราเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์เนื้อแบบไหน ผมว่ามันขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของคนเรามากกว่า เช่น ถ้าเราผิวแห้งเราก็น่าจะเหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบครีม ถ้าเราผิวผสมหรือผิวมันเราก็จะเหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบโลชั่นหรือเจลมากกว่า ซึ่งถ้ามองจากจุดนี้คนเป็นสิวก็น่าจะเหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบเนื้อเจลมากที่สุด เพราะคนเป็นสิวส่วนใหญ่มักจะมีผิวมัน ซึ่งไม่ถูกต้องเสมอไป มีหลายคนที่เข้าใจผิดว่าตัวเองผิวมัน แต่พอไปตรวจดูกลับพบว่าตัวเองเป็นคนผิวแห้งก็มี ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์แบบซีรั่มและแบบฟลูอิดก็เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่น่าสนใจ จะเหมาะกับเรื่องการดูแลผิวให้ออ่นกว่าวัย ช่วยลดริ้วรอย รอยตีนกา ร่องลึก หรือที่เราเรียกว่าผลิตภัณฑ์ Anti Aging นั่นเอง
นอกจากที่เราจะใส่ใจกับเนื้อผลิตภัณฑ์แล้ว เรายังต้องคำนึงถึงสารสำคัญที่ผสมอยู่ในครีมต่างๆอีกด้วย สมมุติว่าเราบอกว่าเราเป็นคนผิวมันก็เลยเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์เนื้อเจล แต่บังเอิญว่าผิวเราไม่ถูกกับสารที่ผสมอยู่ในเจลที่ว่า ทำให้ผิวเราเกิดการอุดตันทำให้สิวขึ้น หรืออาจทำให้เกิดอาการแพ้ หน้าเป็นตุ่ม ผื่น เป็นสิวผดขึ้นมาก็มี เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ครีมทาผิวเราจำเป็นต้องมองทั้ง 2 เรื่องนี้ควบคู่กันไป เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้เลือกครีมที่เหมาะสมกับผิวหน้าของเราจริงๆ และมั่นใจได้ว่าทาหน้าแล้วสิวจะไม่ขึ้นเพิ่ม (แค่ที่เป็นอยู่ก็กลุ้มใจมากพอแล้ว) สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านบล็อก Acnedefend ทุกคนนะครับ
แล้วถ้า ถามว่า กลางๆแล้วควรใช้เนื้อไหนจะเจ๋งสุดครับ สมมติแบบว่าไม่สนใจเรื่องราคานะครับ
ตอบลบ