สเต็มเซลล์(Stem Cell) เป็นชื่อที่ทุกคนน่าจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี รวมไปถึงครีมที่ใช้ลดริ้วรอยแผลสิว หลุมสิว ร่องลึก รอยตีนกาต่างๆ ก็มีการเขียนสรรพคุณของ Stem Cell เข้าไปในตัวผลิตภัณฑ์ด้วย โดยมีการบรรยายถึงสรรพคุณของ Stem Cell ว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย หลุมสิว จุดด่างดำอย่างได้ผลซึ่งถ้าลองได้อ่านสรรพคุณเหล่านั้นแล้วก็คงมีคนอยากซื้อมาลองใช้กันบ้าง
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจตัว Stem Cell นี้อยู่เพราะผมมีปัญหาหลุมสิวที่หน้าค่อนข้างเยอะและลึก ก็ลองหาข้อมูลของครีมต่างๆที่บอกว่ามี Stem Cell เป็นส่วนผสมเพราะมันดูน่าสนใจเอามากๆ เผื่อจะมาช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวของผมได้บ้าง ซึ่งข้อมูลของ Stem Cell ที่ผมได้มานั้นก็น่าสนใจอย่างที่บอกผมก็เลยอยากแชร์ข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Acnedefend ในมุมมองความคิดเห็นของผมที่มีต่อข้อมูลที่ได้รับมาให้กับเพื่อนๆที่สนใจอยากลองรักษารอยสิว หลุมสิว ด้วย Stem Cell กัน ก่อนอื่นก็มาดูกันก่อนว่าเจ้า Stem Cell ที่ว่ามันคืออะไรกันแน่
สเต็มเซลล์(Stem Cell) คืออะไร?
หากจะให้ความหมายของ Stem Cell แบบง่ายๆแล้ว Stem Cell ก็คือเซลล์ที่เป็นต้นกำเนิดของเซลล์ทุกๆเซลล์ แต่มันจะไม่ได้ทำหน้าที่อะไรเฉพาะเจาะจงต้องได้รับการพัฒนาต่อถึงจะทำได้ ตัวอย่างเซลล์ที่เฉพาะเจาะจงก็ เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์สมอง ซึ่งการใช้ Stem Cell ให้เกิดประโยชน์นั้นก็ต้องทำการนำ Stem Cell เข้าสู่ภายในร่างกายเพื่อให้มันเกิดการพัฒนาต่อไปเป็นเซลล์หรืออวัยวะใหม่ใช้ร่างกายของเราเองพัฒนามันต่อไป ต่อไปมาดูคุณสมบัติเด่นของ Stem Cell กันว่าเป็นยังไง
คุณสมบัติของ Stem Cell
- Stem Cell ต้องมีการแบ่งตัวได้ เพิ่มจำนวนออกไปได้ด้วยตัวของมันเอง
- Stem Cell สามารถเจริญเติบโตต่อไปเป็นเซลล์อื่นๆได้ ก็อย่างที่บอกไว้ Stem Cell นั้นเป็นเพียงเซลล์ต้นกำเนิดเท่านั้น
- Stem Cell เมื่อเกิดการแบ่งตัวแล้วสามารถรักษาคุณลักษณะเดิมไว้ได้โดยไม่เปลี่ยนไป
ทีนี้ประเด็นมันอยู่ที่ว่าหากเราเอา Stem Cell เข้าไปไว้ในครีมรักษาริ้วรอย จุดด่างดำ หลุมสิวต่างๆแล้วมันสามารถช่วยแก้ปัญหาได้จริงหรือ? ซึ่งได้มีองค์การที่น่าเชื่อถือได้พูดถึงเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจโดยในเนื้อหานั้นระบุไว้ว่า "Stem Cell ที่ผสมอยู่ในครีมต่างๆนั้นไม่สามารถใช้รักษาอาการต่างๆได้เลย" ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย รอยสิว รอยย่น หลุมสิว หรือสรรพคุณอะไรก็แล้วแต่ที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆได้พูดถึง ทั้งนี้พูดถึงในแง่ของ Stem Cell เท่านั้นไม่ได้รวมสารอื่นๆที่ถูกผสมอยู่ในครีมเหล่านั้น ลองมาดูข้อจำกัดของ Stem Cell กันว่ามีอะไรที่ไปสนับสนุนเรื่องที่ว่ามานี้
ข้อจำกัดหรือสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Stem Cell ถ้าหากนำมาใช้รักษาหลุมสิว
- Stem Cell ไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังด้วยการทาได้ แค่ข้อนี้ก็น่าคิดแล้วนะครับ เพราะการจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้จำเป็นที่จะต้องเข้าไปซ่อมแซมในชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป เพื่อสร้างเนื้อเยื่อต่างๆขึ้นมาใหม่ แล้ว Stem Cel l ไม่สามารถผ่านทะลุผิวหนังเข้าไปได้แล้วเอาครีมเหล่านั้นไปทาหน้าจะได้ผลเป็นยังไงน่าคิดนะ
- การจัดเก็บ Stem Cell ต้องใช้อุณหภูมิที่ 80 องศาเซียลเซียสขึ้นไป Stem Cell ถึงจะมีชีวิตอยู่ได้ ซึ่งหากมาอยู่ในครีมซึ่งมีอุณหภูมิไม่ถึง 80 องศาแน่นอนรับรองคงไม่รอดแล้วมันจะไปช่วยรักษาหลุมสิวได้ยังไง
แล้วทำไมบางคนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสม Stem Cell แล้วทำให้ผิวหน้าดีขึ้น?
ก็อาจเป็นเพราะว่าในผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งนั้นจะมีการผสมสารหลายๆอย่างเข้าไปที่นอกเหนือจาก Stem Cell อย่างเช่น วิตามินซี คอลลาเจน กรดไฮยาลูโรนิค วิตามินอี และอีกมากมายซึ่งสารเหล่านี้เมื่อใช้มาหน้าแล้วสามารถช่วยเสริมสร้างผิวหน้าให้ดีขึ้นได้แน่นอนตามความสามารถของสารแต่ละตัว ซึ่ง Stem Cell ไม่ได้ช่วยทำอะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆเราก็น่าจะใช้ครีมตัวอื่นๆที่มีสารเหล่านี้โดยที่ไม่ต้องมีส่วนผสมของ Stem Cell ก็ได้ แถมราคาก็ยังถูกกว่าด้วย
อย่างที่ได้บอกไว้ว่าบทความเกี่ยวกับ Stem Cell นี้พูดถึงในประเด็นสรรพคุณของ Stem Cell ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆเท่านั้นไม่นับรวมถึงสารชนิดอื่นที่ผสมอยู่ด้วย ซึ่งอาจจะมีผลช่วยรักษาริ้วรอย จุดด่างดำ รอยสิวได้ ซึ่งครีมที่มีส่วนผสมของ Stem Cell มักจะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าครีมทั่วไป ผมไม่ได้บอกว่าใช้ครีมเหล่านี้จะไม่ดีนะครับ ครีมแต่ละแบบแต่ละยี่ห้อย่อมต้องมีข้อดีและจุดเด่นเพียงแค่ขายในราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพแล้วย่อมจะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงประโยชน์ที่ได้รับอย่าสูงสุด คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปและจะกลับมาซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างแน่นอน
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น