5 ยาทารักษาสิวที่ทาแล้วระคายเคืองง่าย คนผิวแพ้ง่ายควรคิดให้ดีก่อนใช้


แพ้ยารักษาสิว

เขียนเรื่องยาทารักษาสิวที่ช่วยให้สิวหายมาก็หลายตัว วันนี้ Acnedefend ขอพูดถึงยาทารักษาสิวที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองได้ง่ายกันบ้าง เพราะมีหลายครั้งที่มีคนมาถามถึงเรื่องครีมหรือยาทารักษาสิวว่าใช้อะไรดี เป็นสิวแบบนี้ต้องใช้ตัวไหน ผมก็จะแนะนำไปตามประสบการณ์รักษาสิวที่เคยประสบพบเจอมาได้เท่านั้น

และผมก็จะเน้นย้ำเสมอว่าผมไม่ใช่หมอที่สามารถจะฟันธงได้ถูกต้องแน่นอนว่ายาทารักษาสิวที่แนะนำไปจะสามารถช่วยแก้ปัญหาสิวให้กับผู้ถามได้มากน้อยแค่ไหน และผมจะเป็นกังวลทุกครั้งที่ต้องแนะนำพวกยาทารักษาสิวที่ค่อนข้างรุนแรงและมีผลข้างเคียงเยอะๆ ก็เลยเป็นที่มาของบทความนี้สำหรับบทความ "5 ยาทารักษาสิวที่ทาแล้วระคายเคืองง่าย" เพื่อเป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้ระวังก่อนการใช้ยาทารักษาสิวเหล่านี้ มีตัวไหนบ้างตามมาดูกันได้เลยครับ
และผมก็จะเน้นย้ำเสมอว่าผมไม่ใช่หมอที่สามารถจะฟันธงได้ถูกต้องแน่นอนว่ายาทารักษาสิวที่แนะนำไปจะสามารถช่วยแก้ปัญหาสิวให้กับผู้ถามได้มากน้อยแค่ไหน และผมจะเป็นกังวลทุกครั้งที่ต้องแนะนำพวกยาทารักษาสิวที่ค่อนข้างรุนแรงและมีผลข้างเคียงเยอะๆ ก็เลยเป็นที่มาของบทความนี้สำหรับบทความ "5 ยาทารักษาสิวที่ทาแล้วระคายเคืองง่าย" เพื่อเป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้ระวังก่อนการใช้ยาทารักษาสิวเหล่านี้ มีตัวไหนบ้างตามมาดูกันได้เลยครับ


ยาทารักษาสิว Retin A

1. ยาทารักษาสิว Retin A


ผมคิดว่าคนที่ผ่านการรักษาสิวมาอย่างโชกโชนต้องรู้จักกับเจ้า Retin A นี้เป็นอย่างดี Retin A คือ ยากรดวิตามินเอที่ใช้ในการรักษาสิวโดยเฉพาะ ใช้รักษาพวกสิวอุดตัน สิวไม่มีหัวได้ดี โดยมันจะช่วยผลัดเซลผิว ซึ่งจะช่วยให้ผิวบริเวณที่ทามาหลวมมากขึ้น มีผลทำให้สิวที่อุดตันอยู่ใต้ผิวหนังถูกผลักออกเพื่อช่วยให้เราสามารถกำจัดมันออกไปได้ในที่สุด นอกจากนี้ Retin A ยังช่วยลดความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี และด้วยความสามารถที่หลากหลายของ Retin A นี้เอง ที่ทำให้มันเป็นยาทารักษาสิวที่ก่อใก้เกิดความระคายเคืองสูงมากๆตัวหนึ่ง โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ใช้คือ หน้าอาจแดง คัน แห้ง ลอก เป็นขุย หน้าบาง แพ้แสงง่าย ด้วยเหตุนี้ในระหว่างที่ใช้เราจึงจำเป็นต้องหามอยเจอไรเซอร์ดีๆมาทาผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมไปถึงต้องทาครีมกันแดดร่วมด้วยทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้านในตอนกลางวัน เพราะหน้าเราจะบางและแพ้แสงได้ง่ายกว่าปกติมาก



ยาทาก่อนล้างหน้า Benzac AC

2. ยาทาก่อนล้างหน้า Benzac AC


Benzac AC ก็จัดเป็นอีกหนึ่งยารักษาสิวยอดนิยมอีกตัวหนึ่ง ใช้รักษาสิวได้หลายแบบทั้ง สิวอุดตัน สิวผด สิวเสี้ยน สิวอักเสบ โดยตัวยาหลักที่ออกฤทธิ์ก็คือ Benzoyl Peroxide โดยจะมีความแรงหลายระดับ เช่น 2.5% , 5% และ 10% ยิ่งมี % มากความแรงของยาก็จะมากขึ้น ด้วยความที่ตัวยามันจะไปมีผลในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุที่ทำให้เกิดสิว และในขณะเดียวกันเวลาที่เราทายาบนหน้า ฤทธิ์ยามันจะมีผลทำให้เส้นเลือดที่อยู่ที่ผิวหน้าเกิดขยายตัวขึ้น ทำให้เวลาทาจะรู้สึกร้อนหน้า แสบหน้า หน้าแดง และอาจรู้สึกคันยิบๆได้ ซึ่งจัดเป็นเรื่องปกติของการใช้ Benzac AC ในการรักษาสิว เพราะอาการที่ว่าจะหายไปภายในเวลา 15-20 นาที แต่มันจะไม่ปกติถ้าอาการที่ว่าไม่ยอมหายไปและทำให้หน้าเราแสบ แดง บวม คัน มากขึ้น ถ้าเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นก็ให้รู้ได้เลยว่า "เราแพ้ Benzac AC เข้าให้แล้ว"



ยาละลายสิว Differin

3. ยาละลายสิว Differin


Differin จัดเป็นยารักษาสิวที่ให้ผลการรักษาใกล้เคียงกับ Retin-A คือ ใช้จัดการกับสิวอุดตันได้ดี แต่ตัวยาในการออกฤทธิ์จะเป็นคนละตัวกัน และมีความระคายเคืองน้อยกว่า Retin A แต่ถึงจะบอกว่า Differin นั้นมีความระคายเคืองน้อยกว่า แต่มันก็ยังมีอยู่ บทจะแพ้ขึ้นมาก็แพ้เอาดื้อๆได้เหมือนกัน บางคนใช้ Differin แล้วแพ้ หน้าบวม สิวเห่อเต็มหน้าก็มี แต่พอใช้ Retin A กลับไม่เป็นอะไรแถมใช้แล้วสิวหายหน้าใสไปเลยก็มี กลับกันคนที่ใช้ Retin A แพ้ แต่ใช้ Differin ไม่แพ้ก็มี ผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการใช้ยาทารักษาสิวเหล่านี้นะ ก็อย่างที่บอกว่ามันเป็นตัวยาคนละตัวกัน ผิวของคนเราก็ตอบสนองต่อยารักษาสิวที่แตกต่างกันออกไป ยังไงผมก็อยากเตือนเอาไว้ก่อน เราจะได้ระมัดระวังในการทายารักษาสิวกันมากขึ้น


Panoxyl รักษาสิว

4. Panoxyl


Panoxyl เป็นยาทาก่อนล้างหน้าที่มีตัวยาออกฤทธิ์คือ Benzoyl Peroxide เหมือนกับ Benzac ส่วนชื่อ Panoxyl นั้นเป็นเพียงชื่อผลิตภัณฑ์เท่านั้น ถึงแม้มันจะมีตัวยาเดียวกันแต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนก็คือ Panoxyl มันใช้แอกอฮอร์เป็นตัวทำละลาย ในขณะเดียวกัน Benzac จะใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย นั่นหมายความว่าคนที่หน้าไม่ถูกกับแอกอฮอร์ก็อาจแพ้เจ้า Panoxyl นี้ได้ แต่ล่าสุดผมได้ไปซื้อยาที่ร้านขายยาแถวๆศิริราชไปถามถึงราคายาตัวนี้ปรากฏว่า ร้านขายยาทุกร้านบอกเหมือนกันว่า ผู้ผลิตได้เลิกผลิต Panoxyl ไปแล้ว นั่นหมายความว่าอีกไม่นานเราก็จะไม่สามารถหาซื้อยาทารักษาสิวตัวนี้มาใช้ได้อีก แต่ก็อยากเอามาเขียนรวมไว้ในบทความนี้ก่อน เพื่อยังมีสต๊อกหลงเหลืออยู่ เพราะ Panoxyl ก็จัดเป็นยาทารักษาสิวที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองสูงตัวหนึ่งเช่นกัน


กรด TCA

5. กรด TCA


กรด TCA หรือชื่อเต็มคือ Trichloroacetic Acid จริงแล้ว กรด TCA ไม่ใช่ยาทารักษาสิวหรอกครับ แต่มันเป็นกรดที่ใช้ในการรักษาคนที่มีปัญหาหลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แพทย์ผิวหนังใช้รักษาหลุมสิวให้คนไข้ ที่เอากรด TCA มารวมไว้ในบทความนี้เพราะผมเห็นว่ามีคนหลายคนอยากลองซื้อกรด TCA มาแต้มด้วยตัวเองซึ่งความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้นผมว่าไม่ควรซื้อมาใช้เองอย่างยิ่ง เพราะกรด TCA มันค่อนข้างเป็นสารเคมีที่รุนแรง ถ้าเราใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลให้ผิวหนังเป็นรอยไหม้ แสบ คัน ลอกอย่างรุนแรงได้ นอกจากนี้หากเราแต้มไม่ดีแล้วหลุมสิวแทนที่จะหายอาจลึกกว่าเดิม หรือถ้าแต้มมากไปมันก็อาจไปกระตุ้นให้ผิวบริเวณนั้นสร้างเนื้อเกินออกมาจากหลุมสิวหรือเรียกว่าแผลคีลอยด์ได้ เพราะฉะนั้นใครคิดอยากจะรักษาหลุมสิวด้วยกรด TCA แล้วล่ะก็ แนะนำให้ไปทำกับแพทย์ผู้ชำนาญโดยตรงดีกว่า ปลอดภัยกว่ากันเยอะ

รู้ได้อย่างไรว่าหน้าเราแพ้หรือไม่แพ้ยารักษาสิว


เขียนถึงผลข้างเคียงของยาทารักษาสิวมาซะยืดยาว หลายคนก็อาจสงสัยว่าแล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า อาการแบบไหนคืออาการแพ้ยาทารักษาสิว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนสงสัยและถามถึงเยอะ แล้วมันก็เป็นเรื่องที่อธิบายได้ยากเหมือนกัน ก็อย่างที่บอกว่าผิวของคนเราจะตอบสนองต่อยาทารักษาสิวที่แตกต่างกันออกไป แล้วยาทารักษาสิวส่วนใหญ่เวลาที่ทาครั้งแรกๆ มันจะรู้สึกระคายเคืองหน้ากันแทบทุกคน บางคนก็จะรู้สึกคันยิบๆที่หน้า หรือแสบหน้า ร้อนหน้า บางคนทาไปแล้วสิวกลับยิ่งบวมหรืออักเสบเพิ่มขึ้นก็มี บางคนทาไปแล้วเกิดสิวหนองขึ้นมาพรึ่บพรั่บก็มี แล้วแต่คนจริงๆ

   ด้วยความแตกต่างที่มากกมายขนาดนี้ ผมก็เลยขอแนะนำวิธีแบบกลางๆก็แล้วกันว่า ยาทารักษาสิวเหล่านี้ถ้าเราทาแล้วสิวมันเกิดผุดออกมาเยอะในช่วงแรกนั้น ถือว่ายังเป็นเรื่องปกติของการใช้ยาอยู่ เพราะมันเหมือนกับว่าตัวยาไปผลักสิวที่อุดตันอยู่ใต้ผิวหนังออกมา แต่ถ้าใครสิวโผล่ออกมาแล้วเกิดเป็นหนองร่วมด้วยแสดงว่าหน้าเราอาจติดเชื้อแบคที่เรียเข้าให้ ก็อาจหายาแต้มสิวมาทาเพิ่มเติมได้ เพื่อลดหนองหรืออาการอักเสบลง ถ้าเราไม่แพ้ยาหน้าเราจะกลับสู่สภาพปกติภายในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ เว้นแต่ว่าใครทาแล้วสิวเห่อมากเกินไป แล้วมีอาการแสบคัน หน้าบวมเป่ง อันนี้ควรหยุดใช้ทันทีและรีบไปหาหมออย่างด่วนที่สุด เพราะเราอาจแพ้ยาทารักษาสิวเหล่านี้เข้าให้แล้ว

อาจจะระคายเคืองง่ายแต่ก็ยังใช้รักษาสิวได้ดี


ถึงแม้ว่ายาทารักษาสิวเหล่านี้จะทำให้หน้าเราเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยาทารักษาสิวที่ว่ามานี้ก็จัดเป็นยาที่ช่วยรักษาสิวที่ดีมากๆเช่นกัน ถ้าใครใช้แล้วไม่แพ้สามารถช่วยรักษาสิวให้หายได้จริง คนที่ใช้แล้วหายก็มีมากมายเช่นกัน บทความนี้เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยเตือนสำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้ยาทารักษาสิวเหล่านี้และอยากลองใช้ดู โดยเฉพาะคนที่ผิวแพ้ง่ายอาจต้องระวังการใช้ยาทารักษาสิวเป็นพิเศษ อยากให้ทดสอบก่อนการใช้งานจริงทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของผิวหน้าของผู้ใช้ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่ออาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้น ถ้าใครไม่รู้วิธีการทดสอบ สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ครับ รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็น "สิวจากเครื่องสำอาง" แล้วมีวิธีป้องกันและรักษาสิวที่ว่ายังไง ที่นี่มีคำตอบ!!!

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

1 ความคิดเห็น :