หลังจากที่ไป Shopping ที่ร้านยาแถวๆศิริราชมา ก็เลยคิดได้ว่ามีเรื่องเกี่ยวกับ
"เจลว่านหางจระเข้" หรือ Aloe vera gel มาเล่าให้ฟังครับ เป็นประสบการณ์ตรงจากแฟนของผมเอง ผมว่ามันน่าสนใจดีก็เลยเอามาแชร์ให้ลองอ่านกันดูครับ
ส่วนผสม
- วุ้นว่านหางจระเข้ 50 กรัม
- น้ำกลั่น 100 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
- carbopol 1 กรัม
- germaben II-E 1 มิลลิลิตร
- น้ำมันหอมระเหย
- triethanolamine
วิธีทำเจลว่านหางจระเข้
1. นำวุ้นว่างหางจระเข้ 50 กรัม ที่ผ่านการปอกเปลือกและล้างยางออกสะอาดแล้วมาใส่ในน้ำกลั่น 100 มิลลิลิตรที่เตรียมไว้ จากนั้นเอาไปปั่นในเครื่องปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นให้กรองด้วยผ้าขาวบางจะได้น้ำว่านหางจระเข้ตามต้องการ
2. นำ carbopol 1 กรัมผสมลงในน้ำเดือด 100 มิลลิลิตรที่เตรียมไว้ คนจน carbopol ละลายหมด ทิ้งไว้ให้อุ่น จากนั้นนำน้ำว่านหางจระเข้จากข้อ 1 มาเติมลงไป คนให้เข้ากัน
3. เติม germaben II-E 1 มิลลิลิตรและน้ำมันหอมระเหยประมาณ 5 หยดลงไป คนให้เข้ากัน
4. ค่อยๆเติม Triethanolamine ลงไปประมาณ 8-9 หยด คนให้เข้ากันเพื่อปรับค่า PH ให้ได้ประมาณ 5-6 แค่นี้ก็เสร็จแล้ว หาอะไรมาใส่ไว้ใช้ทาผิวได้เลย
อ่านสูตรทำว่านหางจระเข้ไปแล้ว หลายคนก็อาจสงสัยว่าส่วนผสมที่มีชื่อแปลกนี้มันคืออะไรกันบ้าง ซึ่งผมก็ได้ไปหาข้อมูลแบบคร่าวๆมาให้ โดย carbopol คือ ผงที่ทำให้เกิดเจลซึ่งการจะเกิดเป็นเจลนี้ต้องเอาไปผสมกับ triethanolamine ให้มันทำปฏิกริยากันครับ germaben II-E คือสารกันเสียครับ ใส่เพื่อให้เราใช้เจลว่านหางจระเข้ได้นานๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทาหน้าบำรุงผิวก็ต้องใส่กันทุกตัวอยู่แล้วครับ อยู่ที่ว่าจะใช้สารตัวไหนเท่านั้นเอง
Case study การใช้เจลว่านหางจระเข้
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงจากแฟนผมครับ เรื่องมันเกิดขึ้นประมาณเดือนที่แล้ว(มกราคม) ช่วงนั้นเป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นกว่าปกติ ขนาดอยู่กรุงเทพฯยังหนาวเลยครับ ด้วยอากาศหนาวและแห้งนี้เองที่เป็นสาเหตุให้แฟนผมซึ่งเป็นคนผิวแห้ง หน้าแตก เป็นขุยอย่างแรง หน้าลอกจนผมยังตกใจไม่นึกว่าจะลอกได้ขนาดนี้ ส่วนผมไม่มีปัญหาเพราะหน้ามันอยู่แล้ว(หน้ามันดีอย่างนี้นี่เอง)
ปกติแล้วแฟนผมจะใช้ฮาดะลาโบะขวดสีขาวเป็นมอยเจอไรเซอร์ทาหน้าเป็นประจำอยู่แล้ว แต่พอเอาเข้าจริงมาเจออากาศแห้งๆแบบนี้ฮาดะลาโบะเอาไม่อยู่ครับ แล้ววันหนึ่งผมไปซื้อของแถวศิริราชก็เลยแวะไปร้านขายยาเพื่อที่จะซื้อครีมมาทาหน้าให้แฟนผม ตอนแรกคิดว่าจะซื้อมอยเจอไรเซอร์ของ Physiogel Cream หรือไม่ก็ CETAPHIL MOISTURIZING CREAM ซึ่งผมว่ามันช่วยให้หน้าชุ่มชื้นดี แต่แฟนผมบอกว่ามันแพงไปหน่อย(หลอดละ 400 กว่าบาท) เสียดายตังค์ยังไม่ต้องซื้อก็ได้ ผมก็เลยพยายามคิดว่าตัวไหนพอจะช่วยได้อีกก็เลยนึกถึงเจลว่านหางจระเข้ Alogel ขององค์การเภสัชขึ้นมา ก็เลยบอกแฟนไปว่างั้นลองใช้ตัวนี้ก่อนมั้ย ราคาถูกด้วยหลอดละ 40 บาทเอง แฟนผมเห็นราคาไม่แพงก็เลยตกลงเอามาลองใช้แก้หน้าแตกดู
ผลการใช้เจลว่านหางจระเข้ของแฟนผม
ผลที่ได้ต้องบอกเลยว่าพึงพอใจมากครับ หน้าแฟนผมจากที่แห้ง แตก เป็นขุยกลับมาเป็นปกติภายใน 3 วัน ซึ่งใน 3 วันนี้แฟนผมไม่ได้ทาครีมอะไรอย่างอื่นบนหน้าเลย ฮาดะก็ไม่ใช้ แป้งก็ไม่ทา ล้างหน้าก็ใช้น้ำเปล่า 3 วันเห็นผลเลยไม่น่าเชื่อ ตอนฟังผมก็คิดในใจว่าเอ่อ ของเค้าก็ดีจริงนะ ได้ยินมาแต่คำร่ำลือพอมาเจอกับคนใกล้ตัวจริงๆก็ต้องยอมรับ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เองทำให้ผมได้ไอเดียใหม่ขึ้นมา
ใช้เจลว่านหางจระเข้แทนมอยเจอร์ไรเซอร์ซะเลย
ไอเดียใหม่ของผมก็คือเอาเจลว่านหางจระเข้ Aloegel มาทาแทนมอยเจอไรเซอร์ไปเลยแล้วกัน ตอนแรกผมก็ใช้ฮาดะลาโบะเหมือนแฟนผม แต่ช่วงหลังผมทาครีมลบรอยสิว Clinascar gel ซึ่งทาแล้วมันชุ่มชื้นดีผมก็เลยใช้ทาแทนมอยเจอไรเซอร์ไปเลยทีเดียว แต่ช่วงนี้ผมกำลังลองยาทารักษาแผลเป็น Mederma อยู่ก็เลยว่าจะหยุดใช้ Clinascar ไปก่อน จะได้เห็นผลของ Mederma จริงๆก็เลยกำลังคิดว่าจะหาอะไรมาทาเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ดี พอดีมาเจอเคสของแฟนผมพอดีก็เลยตัดสินใจว่า เอา Aloegel นี่แหละมาทาแทนก็แล้วกัน
ความรู้สึกตอนใช้เจลว่านหางจระเข้ Aloegel สำหรับคนหน้ามัน
จากการที่ผมลองทาเจลว่านหางจระเข้ Aloegel มาสักพัก ก็รู้สึกชอบมันนะ คือเนื้อเจลมันซึมเร็วดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วหน้าไม่มันเพิ่ม และรู้สึกว่าช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ในระดับหนึ่ง อาจไม่มากเหมือนมอยเจอร์ไรเซอร์แบบทั่วไป แต่ผมว่าก็เพียงพอแล้วสำหรับคนหน้ามันอย่างผม ซึ่งตั้งแต่ที่ทามาก็ยังไม่รู้สึกว่ามันทำให้สิวขึ้นเพิ่มแต่อย่างใด แต่ก็อย่างว่ายังทาได้ไม่นานอาจยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ต้องรอดูกันไปอีกสักหน่อยน่าจะเห็นอะไรมากกว่านี้ครับ
เจลว่านหางจระเข้กับคนที่ผิวแพ้ง่ายและหน้าแพ้ครีม
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือหน้าไปแพ้ครีมอะไรมา ซึ่งอาจทำให้เกิดตุ่มแดง สิวผด ผดผื่นคันเห่อขึ้นมาเต็มหน้า ลองเอาเจลว่านหางจระเข้ไปทาบริเวณที่เป็นดู สามารถช่วยลดอาการแพ้ที่ว่าได้ อันนี้ก็เจอมากับคนใกล้ตัวเหมือนกันนั่นก็คือพี่ฟ้าที่ผมเคยเล่าให้ฟังนั่นเอง พี่เค้าใช้ไม่เกินสัปดาห์หน้าก็หายกลับมาเป็นปกติ แต่สำหรับคนอื่นแล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลเหมือนกันมั้ยนะครับ ผมแนะนำไว้เผื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาอยู่ก็แล้วกัน
ในท้องตลาดมีเจลว่านหางจระเข้ขายอยู่มากมายหลายยี่ห้อ ผมก็ไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นที่นอกเหนือจาก Alogel ขององค์การเภสัช กับ Vitara Pharmacok’f Burnova Gel Plus จะเป็นยังไงนะครับ แต่ผมว่าสรรพคุณก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก อาจแตกต่างกันในเรื่องส่วนผสมปลีกย่อยเล็กๆน้อยๆ แต่ถึงจะเล็กน้อยก็อาจมีผลต่อการแพ้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน ยังไงก่อนใช้ก็ลอง Test ก่อนก็จะดีมาก ถึงเจลว่านหางจระเข้จะดูอ่อนโยนขนาดไหน แต่ก็มีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้เช่นกันครับ สุดท้ายนี้ Acnedefend ก็หวังว่าเจลว่านหางจระเข้ที่แนะนำในวันนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างได้บ้าง โชคดีมีชัย หน้าใสไร้สิวกันทุกคนนะครับ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น