รู้ไว้ใช่ว่า!!!! เรื่องน่ารู้ก่อนคิดเปลี่ยนยารักษาสิวตัวใหม่ (จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนดีน้อ)


อยากเปลี่ยนยารักษาสิวที่ใช้

เมื่อยารักษาสิวที่เราใช้อยู่เริ่มไม่ตอบโจทย์ ใช้แล้วสิวไม่ลดลง ยิ่งใช้สิวยิ่งขึ้นหรือเห่อหนักกว่าเดิม การเปลี่ยนยารักษาสิวคงเป็นเรื่องที่หลายๆคนคนึกถึง คือผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นสิวนะ ไม่มีใครอย่างเห็นสิ่งแปลกปลอมอย่างสิวมาอยู่บยหน้าหรอก คนที่เป็นสิวมานานแล้วอาจไม่เครียดหรือกังวลเท่ากับคนที่ไม่เคยเป็นสิว ประมาณว่าเพิ่งเคยเป็นสิวเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะกับคนที่หน้าแพ้ครีมมาอันนี้อาจถึงขั้นจิตตกได้


แต่เดี๋ยวก่อนนะ!!! ผมว่าก่อนที่เราจะลองใช้ยารักษาสิวตัวใหม่นั้นเราควรรู้เรื่องเหล่านี้เอาไว้ก่อน มันเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และเป็นเรื่องที่มีผลต่อการรักษาสิวบนหน้าให้หายไม่น้อย อย่าเพิ่งเปลี่ยนครีมรักษาสิวถ้าเรายังไม่รู้ว่า....?


ไม่รู้ว่ายาตัวใหม่คืออะไร?


     ก่อนที่เราจะเปลี่ยนยารักษาสิวที่ใช้อยู่ เรื่องสำคัญที่สุดคือต้องถามตัวเองว่า เรารู้จักยารักษาสิวตัวใหม่นี้แล้วหรือยัง มันคือยาประเภทไหน สารสำคัญที่ออกฤทธิ์คืออะไร ใช้รักษาสิวประเภทใด เหมาะกับผิวแบบไหน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นมีหรือเปล่า ถ้าคำถามที่ถามมานี้เรายังไม่รู้หรือตอบไม่ได้ ผมว่าอาจยังไม่ถึงเวลาที่จะลองยารักษาสิวตัวใหม่ เพราะมันมีความเสี่ยงต่อการแพ้ยาสูงมาก โชคดีใช้ถูกตัวก็ดีไป โชคร้ายสิวไม่หายแถมอาจเห่อหนักกว่าเดิม เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเป็นอย่างหลังนี้แน่นอน ดังนั้นก่อนเปลี่ยนยารักษาสิวมาใช้ตัวใหม่ อย่าลืมทำความรู้จักกันก่อนนะครับ

ไม่รู้ว่าเราแพ้ยาตัวนี้หรือเปล่า?


     เรื่องน่ากลัวที่สุดสำหรับคนเป็นสิวที่คิดลองยารักษาสิวตัวใหม่ก็คือ "อาการแพ้ยาแล้วสิวเห่อ" สิวเก่ายังไม่ทันหายสิวใหม่ต่อคิวขึ้นอีกแล้ว นั่นสิครับถ้ารู้ก่อนว่าใช้แล้วจะแพ้คงไม่ใช้ เค้าถึงบอกว่ารู้อะไรไม่เท่า "รู้งี้"  รู้อย่างงี้ไม่เปลี่ยนก็ดี และคำถามที่ตามมาก็คือเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราแพ้ยารักษาสิวตัวใหม่หรือเปล่า คำตอบก็คือรู้ได้ครับถ้าเราเอายารักษาสิวที่ใช้ไปทดสอบอาการแพ้กับทางโรงพยาบาล หรือที่เรียกว่าการทำ "Patch test" สามารถทดสอบยาหรือครีมได้ถึง 24 ตัวพร้อมกันในครั้งเดียว เราก็จัดไปเลยครับหอบครีมและยารักษาสิวที่เราสงสัยไปลองทดสอบดู ข้อดีคือรู้ชัวร์ไม่ต้องกลัวผลข้างเคียง ไม่ต้องเอามาลองกับหน้าให้ผวาเล่น แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือมันเสียเวลาและเสียตังค์

     อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจถอดใจและเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า ไม่มีวิธีทดสอบครีมที่ง่ายกว่านี้บ้างหรือ? ขอตอบว่ามีครับซึ่งผมกำลังจะพูดถึงอยู่พอดี วิธีทดสอบการแพ้ครีมแบบง่ายๆที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองคือ การทดสอบทาครีมไว้บริเวณข้อพับหรือหลังใบหูของเราแล้วทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อดูผลของการเปลี่ยนแปลงของผิวบริเวณนั้น หรือก็คือดูว่าผิวเราแพ้หรือเปล่านั่นเอง ใครสนใจวิธีการ Test ครีมอย่างละเอียดติดตามอ่านต่อได้ที่บทความนี้ครับ รวมวิธีทดสอบการแพ้ครีมอย่างง่ายๆ ช่วยป้องกันอาการสิวเห่อก่อนใช้จริง(Patch test) ข้อดีของวิธีนี้คือสะดวกทำได้เลยทันที ข้อเสียคือมันไม่ชัวร์บางทีลอง test แล้วมันไม่แพ้ แต่พอเอามาทาหน้าจริงแพ้ก็มี โลกเรามันเป็นอย่างนี้แหละครับ ของถูกไม่ดีของฟรีไม่มีในโลก

ไม่รู้ว่าทาแล้วเมื่อไรจะหาย


     สาเหตุหลักของการเปลี่ยนยารักษาสิวตัวใหม่คือ ใช้แล้วมันไม่หายส่วนไม่หายเพราะอะไรมีหลายสาเหตุ เช่น ยามันฆ่าสิวบนหน้าเราไม่ตาย ยามันแรงไป หรืออาจมาจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ความเครียด ฮอร์โมน หรือช่วงวันนั้นของเดือน นอกจากสาเหตุเหล่านี้แล้วยังมีอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้เวลาที่เราทายารักษาสิวแล้วมันไม่ยอมหายสักทีก็คือ "การใช้ยาไม่นานพอ"  ยารักษาสิวบางตัวใช้ช่วงแรกอาจไม่ได้ผล หรือใช้แล้วสิวผุดขึ้นหน้ามากกว่าเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหน้าเราเคยชินกับยา สิวที่ฝังใต้ผิวเริ่มออกมาทีละเม็ดสองเม็ด ถ้าเราไม่แพ้มันจะค่อยๆแห้ง หลุดลอกจากหน้าไปเรื่อยๆ อดทนใช้อย่างต่อเนื่องปัญหาสิวจะค่อยๆลดน้อยถอยลงไป ถามว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรจึงจะรู้ว่าทายารักษาสิวตัวนี้มันได้ผลหรือไม่ได้ผล ขอตอบตามตรงว่าไม่รู้ครับ ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความรุนแรงของสิว และตัวยาที่ใช้ แต่เท่าที่รู้มาส่วนใหญ่คนที่มีปัญหาสิวเยอะๆต้องทายารักษาสิวต่อเนื่องกันอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล อันนี้ผมเทียบกับเวลาในการใช้ครีมในกลุ่มกรดวิตามินเอและอนุพันธ์ุของวิตามินเอ เช่น Retin-A , Differin , Isotrexin , Epiduo ส่วนยารักษาสิวตัวอื่นก็จะมีระยะเวลาการรักษาที่แตกต่างกันออกไป บางทีเราอาจต้องใช้ความอดทนในการทายารักษาสิวกันสักหน่อย อาจมาถูกทางแล้วแต่มันยังไม่ถึงเวลาหายก็เป็นได้ครับ

     ที่ผมบอกให้ทนทายารักษาสิวจนหายนี่มันเป็นเรื่องจริง แต่ก็มีบางเคสที่ทนทาแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยก็มี บางคนยิ่งใช้สิวยิ่งเห่อ ทาแล้วสิวอักเสบบวมแดง ร้อนหน้าจนหน้าไหม้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ถ้าเป็นอย่างนี้แนะนำว่าอย่าไปทนครับ มาเต็มตั้งแต่ครั้งแรกขนาดนี้ผมว่าเราคงแพ้ยารักษาสิวตัวนั้นเข้าให้แล้วล่ะ

     นี่คือสิ่งที่ผมอยากบอกกับคนเป็นสิวที่กำลังอยากเปลียนไปใช้ยารักษาสิวตัวใหม่ ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้เปลี่ยน เปลี่ยนได้ครับถ้าตัวเก่ามันใช้ไม่ได้ผล ใครๆก็อยากให้สิวบนหน้าหายไปให้เร็วที่สุดอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนตัดสินใจซื้อครีมหรือยารักษาสิวตัวใหม่มาใช้ ลองเอาสิ่งที่ผมแนะนำไปใช้พิจารณาเบื้องต้นก่อนว่ามันถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนครีมหรือยัง ถ้ายังไม่มั่นใจลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนก็ดี แต่ถ้าคิดว่าชัวร์แล้วก็ทำตามความรู้สึกและสัญชาติญาณที่มีอยู่ในตัวได้เลย Acnedefend เป็นกำลังใจให้ทุกคนเสมออยู่แล้วครับ

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น