สิวประจำเดือน ขึ้นได้ขึ้นดีขึ้นทุกเดือน ปัญหาสิวรอบปาก กราม และคาง ที่แก้ไม่ตกสักที


สิวประจำเดือน สิวฮอร์โมน

"สิวประจำเดือน" หรือสิวฮอร์โมน จัดว่าเป็นสิวที่สร้างความหนักใจให้กับสาวๆได้ไม่น้อย บางคนปกติไม่ค่อยมีสิวแต่พอใกล้มีประจำเดือนเท่านั้นแหละ สิวขึ้นมากจากไหนไม่รู้เยอะแยะไปหมด ทั้งสิวอักเสบ สิวไม่มีหัวยกขบวนมากันเป็นกองทัพ และแน่นอนตำแหน่งที่สิวประจำเดือนมักขึ้นบ่อยๆก็คือ แถวๆ รอบปาก กราม ขากรรไกร และคาง ของเรานั่นเอง


สาเหตุของการเกิดสิวประจำเดือน


สิวประจำเดือนนั้นเป็นเรื่องของฮอรโมนล้วนๆ เราจึงมักเรียกสิวประจำเดือนในอีกชื่อหนึ่งว่า "สิวฮอร์โมน" สิวประจำเดือนเกิดจากการที่ร่างกายของเรามีระดับฮอร์โมนที่แปรปรวน ไม่สมดุล อย่างที่รู้กันว่าคนเราไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือชายก็จะมีทั้งฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชายอยู่ในตัว ซึ่งปกติผู้หญิงจะมีฮอร์โมนเพศหญิงมาก ฮอร์โมนเพศชายน้อย แต่พอใกล้ถึงวันนั้นของเดือนประจำเดือนจะมา ฮอร์โมนเพศชายจะสูงขึ้นทำให้ร่างกายเสียสมดุล และเจ้าฮอร์โมนตัวนี้นั่นเองที่ทำให้สิวขึ้นมาในช่วงก่อนมีประจำเดือน

ทำไมฮอร์โมนเพศชายจึงทำให้สิวขึ้น


สาเหตุที่ฮอร์โมนเพศชายทำให้สิวขึ้นมาจากผลของฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นมามากในช่วงก่อนมีประจำเดือน หลักๆแล้วคือมันทำให้เรา "หน้ามันมากขึ้น" เพราะฮอร์โมนเพศชายมันสั่งให้ผิวหน้าของเราผลิตน้ำมันหรือ sebum ออกมาเพิ่มเติม(ปกติก็เยอะอยู่แล้วนะ) และยังสั่งให้รูขุมขนของเราหดตัวลงซึ่งทำให้ผิวหน้าเราเกิดการอุดตันง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่สาวๆมักเป็นสิวก่อนมีประจำเดือนกันยกใหญ่ ก็นะ...จัดมาให้เยอะขนาดนี้สิวไม่ขึ้นไม่รู้จะว่ายังไง

สิวประจำเดือนชอบเกิดกับใคร


จริงๆแล้วสิวประจำเดือนสามารถเกิดกับสาวๆได้ทุกวัย แต่มีงานวิจัยหนึ่งบอกไว้ว่าสิวประจำเดือนมักเกิดกับผู้หญิงที่มีอายุ 33 ปีขึ้นไปมากกว่า คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ประมาณ 53% ในขณะที่เกิดกับผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี คิดเป็น 39% เท่านั้น นั่นแสดงว่าสิวประจำเดือนมักเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่มากกว่าในวัยรุ่นนั่นเอง

สิวประจำเดือนมาตอนไหน


ช่วงเวลาที่สิวประจำเดือนมักจะมาเยี่ยมเยียนเราคือ 1-2 สัปดาห์ก่อนมีประเดือน ซึ่งจัดว่าเป็นช่วงที่ฮอร์โมนของเราแปรปรวนที่สุด ผิวอ่อนแอที่สุด หน้ามันที่สุด และที่สำคัญเป็นสิวง่ายที่สุด หลายคนอ่านแล้วคงรู้สึกท้อแท้ไม่น้อย โดยเฉพาะบางคนที่ปกติก็เป็นสิวเยอะอยู่แล้ว แต่พอรอบเดือนใกล้เข้ามาสิวกลับขึ้นแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลซ้ำเติมเข้าไปอีก น่าเห็นใจครับ น่าเห็นใจ


วิธีแก้ปัญหาสิวประจำเดือน




วิธีแก้ปัญหาสิวสิวประจำเดือน สิวฮอร์โมน

ทาครีมบำรุงผิวให้น้อยตัวที่สุด


ปกติคนเป็นสิวก็ไม่ควรทาครีมบำรุงผิวมากเกินไปอยู่แล้ว เพราะมันมีผลทำให้ผิวอุดตัน เป็นสิวง่าย และสำหรับคนที่ชอบเป็นสิวประจำเดือนยิ่งต้องระวังมากขึ้น สิวจะขึ้นง่ายกว่าเดิมหลายเท่า ดังนั้นหากใครไม่อยากให้สิวขึ้นมากในช่วงนี้ให้งดทาครีมบำรุงผิวตัวหนักๆไปก่อน โดยเฉพาะ 7 วันก่อนประจำเดือนมา ควรเน้นเป็นพิเศษ เหลือแต่การทายารักษาสิวไว้ก็พอ เอาไว้ช่วยลดการเกิดสิวที่เกิดขึ้น

งดขัดหน้า ทำทรีทเม้นท์ไปก่อน


อย่างที่บอกว่าช่วงก่อนมีประจำเดือนผิวของเราจะอ่อนแอเป็นพิเศษ จึงเป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรทำทรีทเม้นท์ หรือทำอะไรก็ตามที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้า รวมไปถึงการทดลองครีมใหม่ๆ ซึ่งอาจทำให้เราแพ้ง่ายกว่าช่วงอื่น ดังนั้นถ้าใครไม่อยากให้สิวประจำเดือนมารุกรานที่หน้าแล้วล่ะก็ เลื่อนกิจกรรมเหล่านี้ออกไปก่อนจะช่วยได้มากครับ

ควบคุมอาหารการกินเป็นพิเศษ


อาหารบางอย่างสามารถกระตุ้นการเกิดสิวได้ แต่ละคนจะมีการตอบสนองที่แตกต่างกันออกไป บางคนกินอาหารทะเลแล้วสิวขึ้น บางคนดื่มนมแล้วสิวขึ้น บางคนกินขนมปังเบเกอรี่แล้วสิวขึ้น ดังนั้นช่วงก่อนมีประเดือนถ้าเรารู้ว่ากินอะไรเข้าไปแล้วสิวขึ้นควรงดกินก่อน จะได้ช่วยลดสิ่งเร้าที่เข้าไปกระตุ้นการเกิดสิวได้อีกทางหนึ่ง นอกจากงดกินอาหารไม่พึงประสงค์แล้ว ควรกินอาหารที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมเข้าไป เน้นกินพวกเนื้อปลา ถั่ว และผักใบเขียวเอาไว้ เน้นทั้งจากภายในและภายนอกขนาดนี้ ดูซิว่าสิวประจำเดือนมันยังจะขึ้นอีกมั้ย

ยาคุมกำเนิดและยาต้านฮอร์โมน


ยาคุมกำเนิดและยาต้านฮอร์โมนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการแก้ปัญหาการเกิดสิวสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะกับสิวประจำเดือนหรือสิวฮอร์โมนนั้น เรียกได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันเลยทีเดียว หลักการทำงานของยาคุมกำเนิดและยาต้านฮอร์โมนหลักๆก็คือ การเพิ่มปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงเข้าไป ในขณะที่ช่วยลดการทำงานของฮอร์โมนเพศชายลง มีผลทำให้หน้ามันน้อยลง ผิวพรรณเปร่งปรั่งขึ้น ช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี

     อย่างไรก็ตามผมคิดว่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คือ สิวไม่ได้เห่อรุนแรง ขึ้นมาแบบพอรับได้ก็ไม่ควรหายาเหล่านี้มากิน เพราะผลข้างเคียงที่ตามมามันมีผลต่อสุขภาพโดยรวมของเรามาก อาจได้ไม่คุ้มเสีย แต่สำหรับคนที่รักษาสิวมานาน แล้วสิวก็ยังเห่อขึ้นเยอะเหมือนเดิม ทายาก็แล้ว กินยารักษาสิวก็แล้วไม่ยอมหายสักที การกินยาคุมกำเนิดและยาต้านฮอร์โมนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะยาเหล่านี้มีให้เลือกหลายตัว แต่ละตัวให้ผลการรักษาสิวและผลข้างเคียงที่แตกต่างกันไป ต้องให้แพทย์ดูอาการสิวของเราก่อนว่าควรใช้ยาตัวไหนในการรักษาเพื่อให้ผลการรักษาสิวออกมาดีและเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด Acnedefend ไม่แนะนำให้ซื้อกินเองนะครับ

     ถึงแม้สิวประจำเดือนจะเป็นสิวที่รักษายากมากตัวหนึ่งเพราะมันเกิดขึ้นจากฮอร์โมนภายในร่างกายซึ่งเราควบคุมมันได้ยาก แต่เราสามารถอยู่กับมันได้ ลองทำตามคำแนะนำที่ผมให้ไว้ ถึงมันไม่ช่วยให้สิวหายแต่อย่างน้อยผมคิดว่าสิวประจำเดือนที่เกิดขึ้นต้องทุเลาหรือดีขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน

     สุดท้ายนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าอย่าพยายามหาซื้อยาคุมหรือยาต้านฮอร์โมนมากินเองเด็ดขาด ปรึกษาแพทย์และผู้เชียวชาญดีกว่า ผมเองก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ให้แนะนำมากกว่านี้คงทำไม่ได้ แต่ที่เขียนแนะนำไว้ก็เพื่ออยากให้ทุกคนรู้ว่ามันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการแก้ปัญหาสิวประจำเดือนเท่านั้น ไม่สนับสนุนให้ซื้อมากินเองนะคับ

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวสเตียรอยด์ สิวเสี้ยน รักษาหลุมสิว รักษาสิวด้วยธรรมชาติ เลเซอร์รักษาสิว แชร์ประสบการณ์รักษาสิวผ่านมุมมองของ Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน

1 ความคิดเห็น :

  1. เป็นข้อมูลที่อยู่ในพื้นฐานความเป็นจริงมากที่สุดเท่าที่อ่านมา เป็นประโยชน์มากๆค่ะ จะลองปฏิบัติตามดู ดูสิว่า น้องๆสิวยังจะมาอีกไหม 😉

    ตอบลบ