ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าวิตามินมีประโยชน์ต่อการบำรุงผิวและรักษาสิวมากแค่ไหน การรับวิตามินเข้าสู่ร่างกายทั้งจากการทาและการกินอย่างเหมาะสม ย่อมสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวพรรณและปัญหาสุขภาพได้อย่างไม่ต้องสงสัย คำถามคือรู้หรือไม่ว่าบางครั้งการกินวิตามินให้ได้ผลดี เราต้องกินเป็นคู่หรือกินวิตามินมากกว่า 1 ตัวเข้าไปจึงจะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากวิตามินแต่ละตัวแบบเต็มๆ พูดง่ายๆก็คือกินเพื่อเสริมกันนั่นเอง มีวิตามินตัวไหนบ้างตามมาดูได้เลยครับ
คู่วิตามินและแร่ธาตุที่กินแล้วดี
วิตามิน C + คอลลาเจน
2 ตัวนี้เป็นคู่จิ้นตลอดกาล ถ้าพูดถึงเรื่องช่วยให้ผิวขาวใส ยืดหยุ่น มีสุขภาพภาพดีแล้วล่ะก็ วิตามิน C และคอลลาเจนต้องมาก่อนเสมอ และถ้ากินหรือทาร่วมกันแล้วล่ะก็จะยิ่งทำให้ผิวเราสวยใสรวดเร็วมากกว่ากินหรือทาตัวใดตัวหนึ่ง นอกจากนี้ทั้งวิตามิน C และคอลลาเจนยังมีส่วนช่วยแก้ปัญหาสิวและริ้วรอยจากสิวได้ดีอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นคู่จิ้นที่คนเป็นสิวจะขาดไม่ได้เลยล่ะครับ
เหล็ก + วิตามิน C
หากพูดถึงธาตุเหล็ก หลายคนอาจนึกถึงประโยชน์ในเรื่องเกี่ยวกับการรักษาโรคโลหิตจาง แต่จริงแล้วธาตุเหล็กยังมีประโยชน์ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย , ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย , ช่วยเสริมความต้านทานต่อการเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้ผิวของเราเรียบเนียนได้อีกด้วย ดังนั้นธาตุเหล็กจึงเป็นแร่ธาตุที่เราจะขาดไม่ได้ แต่การจะกินหรือรับธาตุเหล็กให้ได้ประโยชน์แบบแต็มๆแล้ว ควรกินควบคู่ไปกับวิตามิน C ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น เปรียบได้กับการกินต้มเลือดหมูให้ได้ประโยชน์ต้องกินคู่กับใบตำลึงนั่นเอง
แคลเซียม + แมกนีเซียม
2 ตัวนี้จัดเป็นแร่ธาตุที่ต้องมาคู่กันเสมอ ร่างกายจะสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดีจำเป็นต้องใช้แมกนีเซียมเข้าช่วย ด้วยเหตุนี้เองอาหารเสริมแคลเซียมจึงมักมีส่วนผสมของแมกนีเซียมผสมเข้าไปก็เพื่อช่วยนำพาแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้วิตามินดีและวิตามินเคก็สามารถช่วยในการดูดซึมแคลเซียมได้เช่นกัน แต่ไม่เท่ากับแมกนีเซียม
DHA + EPA
หลายคนอาจไม่คุ้นกับสาร DHA กับ EPA มันคือสารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง และช่วยลดอาการอักเสบของข้อต่อ เป็นสารที่มีอยู่ในน้ำมันปลามาก (ไม่ใช่น้ำมันตับปลานะ) โดยปริมาณ DHA และ EPA อย่าน้อยที่ควรกินใน 1 วันเท่ากับ 1,500 มิลลิกรัม โดยมีเคล็ดไว้ว่าถ้าอยากบำรุงสมองต้องเลือกชนิดที่มีดีเอชเอเด่น แต่ถ้าจะให้บำรุงส่วนอื่นเป็นหลักเช่นข้ออักเสบให้เลือกชนิดที่มีอีพีเอสูง
คู่วิตามินและแร่ธาตุที่กินแล้วแย่
น้ำมันปลา + แอสไพริน
คู่ร้ายอันดับแรกโดยน้ำมันปลานี้มีฤทธิ์ช่วยให้เลือดใสไม่หนืดเหนียว ส่วนแอสไพรินก็มีฤทธิ์เดียวกันคือช่วยให้ไม่เกิดลิ่มเลือดจับแข็งเป็นก้อน ตัน เมื่อกินคู่กันรับรองได้ว่าเลือดของเราจะเหลวเป็นน้ำเลยทีเดียว แม้การกรอฟันเพียงนิดก็อาจทำให้เลือดออกได้ราวกับการผ่าตัดใหญ่ โอ้!!!แม่เจ้า
วิตามิน E + อีฟนิ่งพริมโรส
เราไม่ควรกินวิตามิน E และน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสพร้อมกัน เพราะจริงๆแล้วน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสมันก็คือวิตามิน E เช่นกัน ถ้าเรากินพร้อมกันอาจทำให้เราได้รับวิตามิน E มากเกินไป ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจได้ เพราะฉะนั้นเลือกกินตัวใดตัวหนึ่งก็พอครับ
อาหารเสริมแคลเซียม + แคลเซียมสด
ถ้าเราสามารถกินงาดำได้วันละ 4 ช้อนโต๊ะหรือเต้าหู้ขาวแข็งวันละ 3 ขีดก็จะได้แคลเซียมราว 1,000 มิลลิกรัมอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไปหาแคลเซียมเม็ดมากินเติมอีกจะทำให้แคลเซียมเกินและไปจับกับหลอดเลือดทำให้ตีบแข็งได้ ดังนั้นถ้ามั่นใจว่าเรากินแคลเซียมแบบสดๆเพียงพอในแต่ละวันแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องหาแคลเซียมเม็ดมากินเพิ่มเติมแต่อย่างใด กินเยอะใช่ว่าจะดีนะครับ
กาแฟ + แคลเซียม
2 ตัวนี้เป็นอะไรที่ไม่เข้ากันอย่างแรง ตัวหนึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก อีกตัวทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน ไม่ควรกินด้วยกันเด็ดขาด เพราะกาแฟจะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกายเรา ยังไม่พอมันยังไปดึงแคลเซียมออกมาอีกด้วย กาแฟถ้าเลิกกินได้จะดีกับสุขภาพไม่น้อยครับ
วิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมีอยู่ในอาหารที่มาจากธรรมชาติที่เรากินทุกวันอยู่แล้ว ถ้าเรามั่นใจว่าเรารับเข้าไปอย่างเพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องสรรหาอาหารเสริมหรือวิตามินอัดเม็ดมากินเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่ถ้าเราคิดว่าเราคงได้รับวิตามินจากอาหารไม่พอ การกินอาหารเสริมวิตามินก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และที่สำคัญอย่าลืมกินวิตามินหรือแร่ธาตุที่เสริมการทำงานของกันและกันเข้าไปด้วย เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากวิตามินแต่ละตัวอย่างสูงสุดที่นั่นเอง
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเนื้อหาหลักจาก นพ.กฤษดา ศิรามพุช, พบ.(จุฬาฯ) ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ซึ่งผมได้มาจากใน Google + มีเพื่อนคนหนึ่งแชร์เอาไว้ เห็นว่ามีประโยชน์ก็เลยเอามารวมไว้ในบล็อก Acnedefend ให้ผู้อ่านได้อ่านกัน หวังว่าทุกคนคงจะชอบนะครับ ^^
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น